วันนี้จะมาเล่าเรื่องที่พึ่งเกิดวันนี้เลย คือเรื่องเกิดที่โรงเรียนหนึ่งในกาญจนบุรีโรงเรียนที่เราเรียนอยู่เองคือโรงเรียนนี้กฎค่อนข้างจะเข้มคือนักเรียนแทบไม่สามารถแต่หน้า/หรือแต่งหน้าเข้มได้คือประมาณว่าบางทีก็แต่งได้แต่ไม่ใช่กับครูทุกคนซึ่งจะมีครูอยู่สายวิชาหนึ่งชอบตรวจเรื่องนี้บ่อยมากและมีส่วนมากจากเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าด้วย(อันนี้เราเข้าใจนะ)แต่อันนี้จะแบ่งเป็นสองเรื่องคือเรื่องตรวจกับเป๋า กับตรวจค้นตัว 
เรื่องแรกคือตรวจกระเป๋า
คือเราเรียนวิชาหนึ่งอยู่กำลังจะจบคาบเรียนแล้วค่ะอยู่ๆครูก็ให้คนที่ทำงานเสร็จแล้วออกไปนั่งหน้าห้องจนนักเรียนออกมาหมดค่ะก็มีครูอีกคนเดินมาแล้วบอกว่าให้ทุกคนเอากระเป๋ามาวางและได้มีนักเรียนที่เป็นเด็กห้องเขาเดินมาตรวจกระเป๋าซึ่งเราเป็นคนพกเครื่องสำอางเยอะพอสมควรและสาวๆทุกคนน่าจะเข้าใจนะคะว่าราคาเครื่องสำอางเนี่ยก็50ถึง100++ทั้งนั้นโดยคนที่ตรวจเขาก็คงเข้าใจค่ะแล้วก็คงสงสารเลยหยิบออกไปไม่เยอะแต่มีสิ่งที่เรางงว่าทำไมถึงโดนยึดคือ แป้งกระป๋องพวกคุมมันไรงี้ค่ะ(ไม่มีสี)แล้วก็กันแดด แถมตัวเราเองยังโดนน้ำตาเทียมอีก แถมมีเพื่อนโดนยึดแป้งราคาเกือบ300ที่แม่ซื้อให้ซึ่งการยึดนี่ก็ไม่โดนไรหรอกค่ะแต่เครื่องสำอางที่เขายึดไปเหมือนจะเอาไปทิ้งค่ะ(เครื่องสำอางค์ที่โดนยึดทั้งห้องรวมกันก็เกือบ3000บาทเลยค่ะ)
และเรื่องที่สองคือการค้นตัวเด็ก
เรื่องนี้เป็นปัญหาสำหรับนักเรียนหญิงที่ผู้ใหญ่บางคนอาจคิดว่าไม่มีอะไร
แต่สำหรับตัวเราไม่ค่อยโอเคค่ะคือครูที่ตรวจให้นักเรียนหญิงเป็นครูผู้หญิงก็จริงแต่หน้าห้องนั้นมีนักเรียนชายนั่งอยู่ซึ่งครูผู้ตรวจจะจับตามร่างกายเด็กและส่วนสำคัญคือหน้าอก เพราะเขาเหมือนใช้มือดันใต้หน้าอกขึ้นแล้วเพื่อนผู้ชายก็จ้องค่ะเรื่องนี้ผู้ปกครองของเพื่อนกำลังคุยกับครูค่ะเพราะไม่โอเคจริงๆ
(ครูที่ตรวจไม่ใช่ครูประจำชั้นนะคะเป็นครูที่สอนค่ะ)
สำหรับสองเรื่องนี้คือสงสัยว่าครูทำเกินไปมั้ยถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลรึป่าว