เราอยู่ในวัยทำงานแล้วค่ะ การทำงานราบรื่นดีไม่ติดขัด
และมีทำงานเสริมด้วยคืองานอาร์ต และเขียนนิยายด้วยค่ะ
บางทีลงงานในเฟสคนก็ให้ความสนใจน้อยมาก
อันนี้ยอมรับมานานแล้วว่าไม่เคยมีแฟนคลับหรือคนอุดหนุนงานเป็นจริงเป็นจัง
อันนี้ไม่เท่าไหร่
แต่กำลังจากครอบครัวคือไม่มีเลยค่ะ แทบเป็นศูนย์
แค่นั้นไม่พอ มีคำพูดดูถูกซ้ำเติมด้วย
เราอยากรู้ว่า คนคนหนึ่งมีสิทธิที่จะฝันมั้ยคะ
เราพยายามและทุ่มเทกับงานนี้มากๆ ฝึกฝนอย่างจริงจัง และก็ทิ้งงานหลักไม่ได้
มันเหนื่อยมากๆ.. เวลาผ่อนคลายแทบไม่มี
แต่คนในครอบครัวเรากลับมองเป็นเรื่องตลก ทั้งที่มันทำเงินได้ เขาก็ยังมองว่ามันไร้สาระ
คนอื่นมองแบบนี้เราจะไม่แคร์เลย
แต่นี่คนในครอบครัว มันเปรียบเสมือนเอางานเรามาโยนทิ้งแล้วซ้ำด้วยแรงเหยียบและขำออกมาดังๆ
มันเจ็บปวดมากนะ
กำลังใจในครอบครัวสำคัญต่อเราเสมอ และสำคัญมากๆ
เราแอบร้องไห้บ่อยมากจนคิดว่าตัวเองใกล้เข้าสู่ภาวะซึมเศร้าเข้าแล้ว
เราไม่อยากเป็นโรคซึมเศร้า
แต่บางครั้งเราก็รู้สึกอยากตาย แต่ก็ไม่อยากทรมาน
ถ้าตายก็ขอตายไปกับงานที่ตัวเองรัก
เพราะชีวิตนี้ไม่น่าจะเหลืออะไรที่เคียงข้างแล้วมีความสุขได้เท่านี้อีกแล้ว
ภายนอกยิ้มง่าย แต่ใช้คำว่า พยายามยิ้มดีกว่าในบางที
เราเลยตั้งคติกับตัวเองว่า
ไม่มีกำลังใจให้ก็อย่ามาซ้ำกันก็พอ
ทำเป็นไม่เห็นมันเลยก็ได้
อย่าพูดถึง ไม่ต้องถามถึง
แค่นั้นก็พอ
ถ้าจะคุยก็ให้คุยแค่เรื่องสัพเพเหระทั่วไป
รู้ตัวเองดีว่า รักครอบครัวมากแค่ไหน
เรารักพวกเขามากนะ แต่ก็ไม่เคยบอกออกไปโต้งๆ ใช้แค่การกระทำก็พอ
บางครั้งเราก็อยากถามเขากลับไปเหมือนกันว่า เขาเคยรักเราบ้างหรือเปล่า
ไม่มีการสนับสนุน
ไม่มีกำลังใจ
เห็นงานเราเป็นเรื่องตลกไร้สาระ
มองเหยียด
อยากรู้ว่า ต้องจัดการสภาพจิตใจของตัวเองในตอนนี้ได้ยังไงบ้างคะ เป็นมาร่วมๆหนึ่งเดือนกว่าๆแล้วค่ะ ไม่มีแรงจะทำอะไรเลย
หรือต้องตัดใจเลิกแคร์เลิกให้ความสำคัญกับครอบครัวไปเลย..
ปรึกษาปัญหาด้านจิตใจ
และมีทำงานเสริมด้วยคืองานอาร์ต และเขียนนิยายด้วยค่ะ
บางทีลงงานในเฟสคนก็ให้ความสนใจน้อยมาก
อันนี้ยอมรับมานานแล้วว่าไม่เคยมีแฟนคลับหรือคนอุดหนุนงานเป็นจริงเป็นจัง
อันนี้ไม่เท่าไหร่
แต่กำลังจากครอบครัวคือไม่มีเลยค่ะ แทบเป็นศูนย์
แค่นั้นไม่พอ มีคำพูดดูถูกซ้ำเติมด้วย
เราอยากรู้ว่า คนคนหนึ่งมีสิทธิที่จะฝันมั้ยคะ
เราพยายามและทุ่มเทกับงานนี้มากๆ ฝึกฝนอย่างจริงจัง และก็ทิ้งงานหลักไม่ได้
มันเหนื่อยมากๆ.. เวลาผ่อนคลายแทบไม่มี
แต่คนในครอบครัวเรากลับมองเป็นเรื่องตลก ทั้งที่มันทำเงินได้ เขาก็ยังมองว่ามันไร้สาระ
คนอื่นมองแบบนี้เราจะไม่แคร์เลย
แต่นี่คนในครอบครัว มันเปรียบเสมือนเอางานเรามาโยนทิ้งแล้วซ้ำด้วยแรงเหยียบและขำออกมาดังๆ
มันเจ็บปวดมากนะ
กำลังใจในครอบครัวสำคัญต่อเราเสมอ และสำคัญมากๆ
เราแอบร้องไห้บ่อยมากจนคิดว่าตัวเองใกล้เข้าสู่ภาวะซึมเศร้าเข้าแล้ว
เราไม่อยากเป็นโรคซึมเศร้า
แต่บางครั้งเราก็รู้สึกอยากตาย แต่ก็ไม่อยากทรมาน
ถ้าตายก็ขอตายไปกับงานที่ตัวเองรัก
เพราะชีวิตนี้ไม่น่าจะเหลืออะไรที่เคียงข้างแล้วมีความสุขได้เท่านี้อีกแล้ว
ภายนอกยิ้มง่าย แต่ใช้คำว่า พยายามยิ้มดีกว่าในบางที
เราเลยตั้งคติกับตัวเองว่า
ไม่มีกำลังใจให้ก็อย่ามาซ้ำกันก็พอ
ทำเป็นไม่เห็นมันเลยก็ได้
อย่าพูดถึง ไม่ต้องถามถึง
แค่นั้นก็พอ
ถ้าจะคุยก็ให้คุยแค่เรื่องสัพเพเหระทั่วไป
รู้ตัวเองดีว่า รักครอบครัวมากแค่ไหน
เรารักพวกเขามากนะ แต่ก็ไม่เคยบอกออกไปโต้งๆ ใช้แค่การกระทำก็พอ
บางครั้งเราก็อยากถามเขากลับไปเหมือนกันว่า เขาเคยรักเราบ้างหรือเปล่า
ไม่มีการสนับสนุน
ไม่มีกำลังใจ
เห็นงานเราเป็นเรื่องตลกไร้สาระ
มองเหยียด
อยากรู้ว่า ต้องจัดการสภาพจิตใจของตัวเองในตอนนี้ได้ยังไงบ้างคะ เป็นมาร่วมๆหนึ่งเดือนกว่าๆแล้วค่ะ ไม่มีแรงจะทำอะไรเลย
หรือต้องตัดใจเลิกแคร์เลิกให้ความสำคัญกับครอบครัวไปเลย..