บริการสตรีมมิงที่เข้ามาให้บริการในประเทศไทยนั้นคือ ดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ ไม่ใช่ ดิสนีย์พลัส ซึ่งจะมีความแตกต่างของฟีเจอร์ต่าง ๆ กันอยู่เล็กน้อย เช่น

ดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ (ไทย)
• รับชมพร้อมกันได้ 2 อุปกรณ์
• ไม่มีระบบโปรไฟล์
• เสียงพากย์และซับไตเติลในภาษาที่ให้บริการดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์
• มีคอนเทนต์ดิสนีย์พลัส ทเวนตีท์ เซนจูรี สตูดิโอส์ ฮูลู (บางเรื่อง) และคอนเทนต์ท้องถิ่น (ไทย + เอเชีย)
• ไม่สามารถเชื่อมต่อ VPN เพื่อใช้กับประเทศอื่นได้
• ราคา 799 บาทต่อปี (66.58 บาทต่อเดือน)

ดิสนีย์พลัส
• รับชมพร้อมกันได้ 4 อุปกรณ์
• รองรับการแยกโปรไฟล์ได้ถึง 7 โปรไฟล์
• เสียงพากย์และซับไตเติลในหลายภาษาทั่วโลก
• มีคอนเทนต์ดิสนีย์พลัส และคอนเทนต์สตาร์
• สามารถเชื่อมต่อ VPN เพื่อใช้ในประเทศอื่นได้
• ราคา 249 บาทต่อเดือน และ 2,500 บาทต่อปี (208.33 บาทต่อเดือน)

ดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์จะสามารถรับชมได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน Disney+ Hotstar ที่จะเปิดให้ดาวน์โหลดในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ หรือเว็บไซต์ disneyplushotstar.com โดยสตรีมหรือรับชมพร้อมกันได้ 2 เครื่อง ต่อ 1 บัญชีเท่านั้น ผ่านอุปกรณ์ที่รองรับ ดังนี้

คอมพิวเตอร์ หรือ แล็ปท็อป เบราว์เซอร์
• Google Chrome เวอร์ชัน 75 ขึ้นไป
• Mozilla Firefox เวอร์ชัน 70 ขึ้นไป
• Microsoft Edge เวอร์ชัน 79 ขึ้นไป
• Safari เวอร์ชัน 11 ขึ้นไป

 โทรศัพท์ หรือ แท็บเล็ต
• Android เวอร์ชัน 4.4.4 ขึ้นไป
• iOS เวอร์ชัน 10 ขึ้นไป
• iPad(OS) เวอร์ชัน 10 ขึ้นไป

อุปกรณ์ในห้องนั่งเล่น
• Android TV OS เวอร์ชัน 7.0 ขึ้นไป
• Chromecast รุ่นที่ 2 ขึ้นไป (เฟิร์มแวร์เวอร์ชัน 1.43 ขึ้นไป)
• Apple tvOS เวอร์ชัน 11 ขึ้นไป (รุ่นที่ 4 ขึ้นไป)

สำหรับอุปกรณ์อื่นนอกจากนี้ที่ไม่ได้ใช้ระบบปฏิบัติการ Android TV เช่น สมาร์ตทีวีจาก Samsung, LG, หรือแบรนด์ต่าง ๆ รวมถึงอุปกรณ์เล่นเกมอย่าง PlayStation และ XBOX ยังไม่รองรับอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เนื่องจากต้องรอให้นักพัฒนาขยายพื้นที่ที่สามารถดาวน์โหลดแอปได้มายังประเทศไทยก่อนจึงจะสามารถดาวน์โหลดเพื่อใช้งานได้

ส่วนผู้ใช้งานกล่อง AIS Playbox ในขณะนี้ยังจะไม่รองรับการใช้งานแอป Disney+ Hotstar แต่ด้วยความร่วมมือกันระหว่างเอไอเอสและดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ จะมีการอัปเดตเวอร์ชันให้มีการรองรับการใช้งานได้ ในเวอร์ชัน 901

สิทธิพิเศษนี้จะสมัครได้เฉพาะลูกค้าซิมเติมเงินและรายเดือนของเอไอเอส และพิเศษสำหรับลูกค้า GOMO BY AIS ก็จะสามารถสมัครแพ็กเกจนี้ได้ด้วย ซึ่งก็ยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าค่ายอื่น ๆ ย้ายเข้ามาเป็นลูกค้าเอไอเอสเพื่อทำการสมัครแพ็กเกจรายเดือนบริการดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ ในราคาพิเศษ เพียงเดือนละ 35 บาท สามารถทำได้ 2 ช่องทางคือการซื้อซิมหรือการย้ายค่ายเบอร์เดิมมาเอไอเอสหรือโกโมได้ทั้งประเภทเติมเงินและรายเดือน

เมื่อรวมค่าใช้จ่ายแล้วเดือนละ 35 บาท 12 รอบบิล ดูได้ 13 เดือน (เพราะเดือนที่ 2 AIS ให้ดูฟรี) เราก็จะจ่ายเพียง 35 x 12 = 420 บาท / 13 เดือนเท่านั้น (เฉลี่ยเดือนละ 32.31 บาท) ถูกกว่าการสมัครแบบรายปีปกติที่ 799 บาท (เฉลี่ยเดือนละ 66.58 บาท) กว่าครึ่งนึง เพราะฉะนั้นหากต้องการประหยัดแนะนำว่าให้สมัครผ่านช่องทางของเอไอเอส

ลูกค้าเอไอเอสทั้งประเภทเติมเงินและรายเดือนสามารถสมัครได้แล้ววันนี้ – 27 มิถุนายน 2564 ที่

เว็บไซต์ ais.th/disney
กด *111 โทรออก
แอปพลิเคชัน myAIS

ส่วนลูกค้ารายเดือน GOMO by AIS นั้น จะสามารถสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน – 27 มิถุนายน 2564 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ gomo.th

ลูกค้า AIS FIBRE อยากสมัคร แต่ไม่ได้ใช้เบอร์ AIS สมัครได้หรือไม่
สำหรับลูกค้าเอไอเอสไฟเบอร์สามารถทำการสมัครแพ็กเกจดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ในราคาพิเศษ 35 บาทต่อเดือนนี้ได้เช่นกัน ในกรณีที่ลูกค้าไม่มีซิมเอไอเอสนั้น สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์เพื่อขอรับซิมเพื่อใช้ในการสมัครแพ็กเกจนี้ได้ไม่มีค่าใช้จ่าย โดยเอไอเอสจะจัดส่งซิมให้ภายใน 3 – 5 วันทำการ

วิธีการสมัคร
ดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ จะแยกวิธีการสมัครเป็น 2 ช่องทาง

สมัครกับทางดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์โดยตรง
ในการสมัครกับแพลตฟอร์มโดยตรงจะมีแค่แผนรายปีเพียงแผนเดียวเท่านั้น โดยจะสามารถสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายนเป็นต้นไป ในราคา 799 บาทต่อปี ผ่านทาง disneyplushotstar.com หรือแอปพลิเคชัน Disney+ Hotstar

สมัครผ่านพาร์ตเนอร์เอไอเอส
อีกวิธีหนึ่งคือการสมัครผ่านเอไอเอส พาร์ตเนอร์อย่างเป็นทางการของดิสนีย์พลัสฮอตสตาร์ที่จะมีเพียงแผนรายเดือนให้เลือกเท่านั้น ในช่วงพรีเซลล์จะอยู่ที่ 35 บาทต่อเดือนเท่านั้น

 สามารถสมัครได้แล้ววันนี้ – 27 มิถุนายน 2564 ผ่าน 3 ช่องทาง
เว็บไซต์ais.th/disney
กด *111 โทรออก
แอปพลิเคชัน myAIS

โดยหลังจากวันที่ 30 มิถุนายนเป็นต้นไป เอไอเอสจะประกาศรายละเอียดแผนราคาปกติออกมาอีกครั้ง

https://www.beartai.com/news/itnews/663016