แคว้นในปากีสถานตัดสัญญาณมือถือคนไม่ฉีดวัคซีน
ปากีสถานกำลังเผชิญคลื่นการระบาดลูกที่ 3 แม้สถานการณ์จะเริ่มอยู่ตัวแล้วภายหลังรัฐบาลใช้ข้อบังคับเข้มงวดนานหลายสัปดาห์ และที่แคว้นปัญจาบ ซึ่งเป็นแคว้นที่มีประชากรมากที่สุดโดยมีมหานครลาฮอร์ตั้งอยู่ด้วย ความต้องการฉีดวัคซีนโควิด-19 ก็ลดน้อยลง
ฮัมมัด ราซา โฆษกกรมสาธารณสุขมูลฐานของแคว้นปัญจาบ กล่าวถึงมาตรการตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือว่า ตอนแรกเรื่องนี้เป็นแค่ข้อเสนอ แต่ผู้คนลังเลกันมากที่จะฉีดวัคซีน จึงมีการตัดสินใจดังกล่าวออกมา สำนักงานด้านโทรคมนาคมของแคว้นจะตัดสินว่าจะบังคับใช้มาตรการนี้อย่างไร
ปากีสถานมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วประเทศสะสมมากกว่า 940,000 ราย เสียชีวิต 21,500 ราย แต่การทดสอบเชื้ออย่างจำกัดและภาคสาธารณสุขเสื่อมโทรมทำให้เกรงว่าขอบเขตที่แท้จริงของโรคระบาดนี้เลวร้ายกว่าที่รายงานมาก
โครงการฉีดวัคซีนทั่วประเทศเริ่มต้นเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ส่วนใหญ่ในแต่ละวันมีคนฉีดวัคซีนมากกว่า 200,000 คน โดยมีคนได้รับวัคซีนแล้วเกือบ 10.5 ล้านคน แต่นับเป็นสัดส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับประชากรที่มี 220 ล้านคน วัคซีนเกือบทั้งหมดนั้นเป็นวัคซีนจากจีน ข้อมูลของทางการยังบ่งบอกด้วยว่า มีผู้ที่ได้ฉีดวัควีนแล้วประมาณ 300,000 คนที่ไม่ยอมกลับมาฉีดเข็มที่ 2
ปัญหาประชาชนมีความลังเลกับการฉีดวัคซีนนั้นเกิดจากความกังวลถึงผลข้างเคียง รวมไปถึงการได้รับข้อมูลผิดๆ เช่นว่า วัคซีนจะทำให้เป็นหมันหรือเสียชีวิตภายใน 2 ปี
ซัลมาน ฮาซีบ ผู้อำนวยการสมาคมยุวแพทย์ของปากีสถาน บอกกับเอเอฟพีว่า ระดับการศึกษาของปากีสถานยังต่ำ ผู้คนยังชอบแพร่กระจายข่าวลือและข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับวัคซีน ฉะนั้นการรณรงค์ให้ข้อมูลโดยรัฐบาลในระยะสั้นจึงไม่ได้ผล พวกเขาจะต้องใช้กฎหมายเพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนได้ฉีดวัคซีน
หลายคนในเมืองลาฮอร์วิตกกับมาตรการใหม่นี้ เช่น ไซมา บีบี อาชีพทำงานบ้าน บอกว่า ถ้าใช้โทรศัพท์ไม่ได้คงลำบากมาก แต่เธอก็กลัววัคซีนมากเช่นกัน
นอกจากการลงโทษ ทางการปัญจาบยังมีแรงจูงใจให้ด้วย เช่น ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วจะสามารถเข้าโรงหนัง, ร่วมงานเลี้ยงฉลอง และเข้าสุเหร่าได้ ส่วนเขตที่ประชากรฉีดวัคซีนแล้วมากกว่า 20% จะอนุญาตให้ธุรกิจเปิดกิจการได้ นอกจากนี้ยังมีศูนย์วัคซีนเคลื่อนที่ได้จัดตั้งไว้บริการด้านนอกสุเหร่าในพื้นที่ชนบทด้วย
https://www.thaipost.net/main/detail/106084
ถ้าชาวปากีสถานทราบว่าคนไทยอยากฉีดวัคซีน รอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอฉีดวัคซีน
คงทึ่งอย่างมากมายค่ะ......
☯️มาลาริน/อ่านแล้วก็ทึ่งค่ะ ชาวปากีสถานไม่อยากฉีดวัคซีนแตกต่างจากไทย...แคว้นในปากีสถานตัดสัญญาณมือถือคนไม่ฉีดวัคซีน
ปากีสถานกำลังเผชิญคลื่นการระบาดลูกที่ 3 แม้สถานการณ์จะเริ่มอยู่ตัวแล้วภายหลังรัฐบาลใช้ข้อบังคับเข้มงวดนานหลายสัปดาห์ และที่แคว้นปัญจาบ ซึ่งเป็นแคว้นที่มีประชากรมากที่สุดโดยมีมหานครลาฮอร์ตั้งอยู่ด้วย ความต้องการฉีดวัคซีนโควิด-19 ก็ลดน้อยลง
ฮัมมัด ราซา โฆษกกรมสาธารณสุขมูลฐานของแคว้นปัญจาบ กล่าวถึงมาตรการตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือว่า ตอนแรกเรื่องนี้เป็นแค่ข้อเสนอ แต่ผู้คนลังเลกันมากที่จะฉีดวัคซีน จึงมีการตัดสินใจดังกล่าวออกมา สำนักงานด้านโทรคมนาคมของแคว้นจะตัดสินว่าจะบังคับใช้มาตรการนี้อย่างไร
ปากีสถานมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วประเทศสะสมมากกว่า 940,000 ราย เสียชีวิต 21,500 ราย แต่การทดสอบเชื้ออย่างจำกัดและภาคสาธารณสุขเสื่อมโทรมทำให้เกรงว่าขอบเขตที่แท้จริงของโรคระบาดนี้เลวร้ายกว่าที่รายงานมาก
โครงการฉีดวัคซีนทั่วประเทศเริ่มต้นเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ส่วนใหญ่ในแต่ละวันมีคนฉีดวัคซีนมากกว่า 200,000 คน โดยมีคนได้รับวัคซีนแล้วเกือบ 10.5 ล้านคน แต่นับเป็นสัดส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับประชากรที่มี 220 ล้านคน วัคซีนเกือบทั้งหมดนั้นเป็นวัคซีนจากจีน ข้อมูลของทางการยังบ่งบอกด้วยว่า มีผู้ที่ได้ฉีดวัควีนแล้วประมาณ 300,000 คนที่ไม่ยอมกลับมาฉีดเข็มที่ 2
ปัญหาประชาชนมีความลังเลกับการฉีดวัคซีนนั้นเกิดจากความกังวลถึงผลข้างเคียง รวมไปถึงการได้รับข้อมูลผิดๆ เช่นว่า วัคซีนจะทำให้เป็นหมันหรือเสียชีวิตภายใน 2 ปี
ซัลมาน ฮาซีบ ผู้อำนวยการสมาคมยุวแพทย์ของปากีสถาน บอกกับเอเอฟพีว่า ระดับการศึกษาของปากีสถานยังต่ำ ผู้คนยังชอบแพร่กระจายข่าวลือและข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับวัคซีน ฉะนั้นการรณรงค์ให้ข้อมูลโดยรัฐบาลในระยะสั้นจึงไม่ได้ผล พวกเขาจะต้องใช้กฎหมายเพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนได้ฉีดวัคซีน
หลายคนในเมืองลาฮอร์วิตกกับมาตรการใหม่นี้ เช่น ไซมา บีบี อาชีพทำงานบ้าน บอกว่า ถ้าใช้โทรศัพท์ไม่ได้คงลำบากมาก แต่เธอก็กลัววัคซีนมากเช่นกัน
นอกจากการลงโทษ ทางการปัญจาบยังมีแรงจูงใจให้ด้วย เช่น ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วจะสามารถเข้าโรงหนัง, ร่วมงานเลี้ยงฉลอง และเข้าสุเหร่าได้ ส่วนเขตที่ประชากรฉีดวัคซีนแล้วมากกว่า 20% จะอนุญาตให้ธุรกิจเปิดกิจการได้ นอกจากนี้ยังมีศูนย์วัคซีนเคลื่อนที่ได้จัดตั้งไว้บริการด้านนอกสุเหร่าในพื้นที่ชนบทด้วย
https://www.thaipost.net/main/detail/106084
คงทึ่งอย่างมากมายค่ะ......