"ก้าวไกล" ชวน "คนกลางคืน" ฟ้องแพ่งแบบหมู่ เรียกค่าเสียหายจากรัฐบาล
https://www.thairath.co.th/news/politic/2251246
ศิริกัญญา นำทีม ส.ส.ก้าวไกล นำกลุ่มนักดนตรีกลางคืน ศิลปินอิสระ ฟ้องรัฐบาลแบบหมู่ เรียกค่าเสียหายขาดรายได้ กรณีได้รับผลกระทบมาตรการโควิด-19 สั่งปิดสถานบันเทิง ร่วมปี
วันที่ 26 พ.ย. 2564 เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก นางสาว
ศิริกัญญา ตันสกุล นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร และนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล พร้อมตัวแทนศิลปินกลางคืน มายื่นฟ้องแบบกลุ่ม (Class Action) กับภาครัฐ ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร เพื่อเรียกค่าเสียหายและการชดเชยเยียวยา กลุ่มธุรกิจนักดนตรี ผู้ประกอบการร้านอาหาร ผับ บาร์ และธุรกิจกลางคืน ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการคุมโรคโควิด-19 ของรัฐบาล
น.ส.
ศิริกัญญา ให้สัมภาษณ์ว่า ทางพรรคก้าวไกล เป็นตัวแทนในการฟ้องแบบหมู่ เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากทางภาครัฐ โดยการช่วยเหลือเยียวยานั้น ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ซึ่งเป็นที่มาว่า วันนี้ต้องพึ่งพากระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น
ในวันนี้อาจจะมีมติจากทางศบค. เพื่อกำหนดเวลาแน่ชัดว่า ธุรกิจกลางคืนจะเปิดได้เปิดเมื่อไหร่ น.ส.
ศิริกัญญา กล่าวเพิ่ม
นาย
ปกรณ์ โพธิ์แสงดา สมาชิกวง IHEARBAND ตัวแทนศิลปินที่ได้รับผลกระทบ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับผลกระทบแทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ จากงานที่มีอยู่ เดือนหนึ่ง 20-30 งาน แทบจะกลายเป็นศูนย์เลย ตั้งแต่เดือนเม.ย. จนถึงช่วงเดือนต.ค. ก็ยังไม่ดีขึ้น โดยตนเป็นตัวแทนของกลุ่มนักดนตรีจำนวน 30 กว่าคน แต่จำนวนจริงๆ นั้นมีมากกว่านั้น
นาย
ปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ในกลุ่มผู้เสียหายมีความเสียหายแตกต่างกัน ศาลท่านพิจารณาบังคับคดีก็ไม่ได้คำนวณที่จำนวนเงิน จึงไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขได้ ศาลก็จะพิจารณาพยานหลักฐานรายได้ที่ยื่นมา
น.ส.
ศิริกัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า การคำนวณค่าเสียหายจะใช้วิธีการคำนวณแบบชดเชยรายได้ โดยใช้รายได้จากปี 2562 ของสมาชิกกลุ่มทั้งหมด นักดนตรีกลางคืน นักแสดง ที่โดนปิดระงับไป นักดนตรีเหล่านี้มีรายได้จากการเล่นดนตรีในงานอีเวนต์และผับบาร์ต่างๆ
“ไม่ว่าความเสียหายเยอะน้อยเท่าไร แต่เกิดจากอาชีพที่เขามีไม่สามารถประกอบได้เป็นเวลา 2 ปี เม็ดเงินอาจจะดูน้อย แต่ความเสียหายนั้นมีมาก” นางสาว
ศิริกัญญา กล่าวสรุป
ส่วนในกรณีที่พรรคก้าวไกล ได้ฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายกับกลุ่มธุรกิจอื่น อาทิ ธุรกิจร้านนวด และร้านอาหาร ผับ บาร์ น.ส.
ศิริกัญญา ระบุว่า มีความน่าจะเป็นที่ศาลจะรับฟ้อง เรายังมีความหวังกับเรื่องนี้อยู่ เราคงจะหวังพึ่งอะไรกับทางรัฐบาลได้ไม่มากแล้ว จึงจะต้องใช้กระบวนการยุติธรรมแทนโดยหวังว่าศาลจะอำนวยความยุติธรรมในครั้งนี้
โควิดสายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 “NU” จับตาการกลายพันธุ์อาจดื้อต่อวัคซีนโควิด
https://www.thansettakij.com/general-news/504670
เเพทย์ศิริราช เผย โควิดสายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 “NU” เเพร่ระบาดได้เท่าโควิดสายพันธุ์เดลตา ต้องจับตาการกลายพันธุ์เพราะจะเป็นปัญหาได้หากมีการเเพร่ระบาดมากขึ้น
เกาะติด โควิดสายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 ที่พบจากบอตสวานา ในทวีปแอฟริกาตอนใต้ ทำให้มีเสียงเตือนให้ระวังเชื้อโควิดกลายพันธุ์นี้เพราะมีความ “น่ากลัว” อยู่ไม่น้อย
ล่าสุด
ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า
สายพันธุ์ใหม่ของ COVID ที่ WHO เพิ่งให้ชื่อว่า Nu (ν) หรือ B.1.1.529 ซึ่งพบในแอฟริกาใต้ในเขตเมือง Gauteng นั้น ความน่ากังวลตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่จำนวนการกลายพันธุ์ที่พบมากกว่า Delta แต่เป็นความสามารถในการแพร่ระบาดเมื่อเทียบกับ Delta ต่างหาก
“ยังไม่ต้องตื่นตกใจมาก แม้ว่ากราฟแรกจะดูเหมือนว่าระบาด Nu เก่งกว่า Delta เยอะ แต่ข้อมูลตอนนี้มาจากพื้นที่แอฟริกาใต้ แถบเมือง Gauteng และมีเคสไม่มาก ในขณะการระบาดในภาพรวมดูสงบ พอดูสัดส่วนเลยเห็นว่าเยอะ คงต้องตามไปก่อนว่าจะเป็นยังไง”
ศ.นพ.
มานพ ย้ำถึงเรื่องการกลายพันธุ์ที่มีมากใน จีโนม genome ที่ต้องติดตามคือการกลายพันธุ์บน spike region ซึ่งจะเป็นปัญหาเมื่อ โควิดสายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 “NU” ระบาดมาก เพราะเชื้อนี้อาจดื้อต่อประสิทธิภาพของวัคซีนมากกว่าสายพันธุ์อื่น
เพราะถ้าดูแผนภาพแอนติเจน antigen cartogram ของ spike protein ของเชื้อ การกลายพันธุ์ที่มีมากอาจทำให้ B.1.1.529 “NU” ฉีกห่างจากสายพันธุ์ดั้งเดิม original Wuhan ไปมากกว่าตัวอื่น ซึ่งมีผลทำให้แอนติบอดีจากวัคซีนรับมือไม่ได้แบบที่เจอกับ Beta variant ก่อนหน้านี้
และสิ่งที่น่ากังวลอีกอันคือ แอฟริกามีอัตราการได้รับวัคซีนต่ำมาก ถ้าระบาดจะเป็นปัญหาใหญ่ คนป่วย ป่วยหนักและเสียชีวิตจะพุ่งขึ้นได้เร็วมาก ดังนั้นจึงต้องติดตามข้อมูลกันต่อไป
https://www.facebook.com/manopsi/posts/10161401062323448
ขนส่งเอกชน ถกวันนี้ นำข้อสรุปคุยบิ๊กกระทรวงพลังงาน อยากลดสัดส่วนผสมไบโอดีเซลเป็น บี 5
https://www.matichon.co.th/economy/news_3059098
ขนส่งเอกชนหารือวันนี้ นำข้อสรุปถกกับบิ๊กกระทรวงพลังงาน อยากให้ลดสัดส่วนผสมไบโอดีเซลเป็น “บี 5”
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน นาย
ชัยวัฒน์ วิบูลย์วัฒนกิจ นายกสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงประเด็นที่ทางกระทรวงพลังงานตรึงราคาน้ำมันดีเซล B7 อยู่ที่ราคา 28 บาท/ลิตร ว่า หลังจากกระทรวงพลังงานประกาศตรึงราคาน้ำมันดังกล่าว เบื้องต้นทางสหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย จะมีการหารือถึงประเด็นดังกล่าวในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ และจะนำข้อสรุปไปหารือร่วมกับผู้ใหญ่ในกระทรวงพลังงานภายในสัปดาห์หน้าต่อไป
“จากมาตรการปรับลดสัดส่วนผสมไบโอดีเซลเหลือ 7% ให้จำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 7 เพียงชนิดเดียว นั้น มองว่ายังน้อยเกินไป เพราะผู้ประกอบการรถบรรทุกต้องการให้ลดสัดส่วนผสมไบโอดีเซลเหลือ 5% เป็นบี 5 และขอให้ขยายเวลาช่วยเหลือออกไปเป็น 6 เดือน ถึง 1 ปี จากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) กำหนดไว้เพียง 4 เดือน” นายชัยวัฒน์ กล่าว
นาย
ชัยวัฒน์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการยกระดับข้อเรียกร้องของทางสหพันธ์ ที่จะขึ้นค่าขนส่ง 10% ในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ ทางสหพันธ์ จะขอดูท่าทีของรัฐบาลก่อนว่าจะตอบรับอย่างไร หากรัฐบาลยังคงมาตรการเดิม ทางผู้ประกอบการก็ต้องปรับขึ้นราคาเพื่อให้ธุรกิจอยู่ได้ แต่ก็จะพยายามไม่ให้กระทบกับภาคประชาชน ส่วนเรื่องการหยุดเดินรถทั่วประเทศ 20% เดิมทีจะสิ้นสุดในเดือนพฤศจิกายนนี้ ก็ต้องขยายหยุดเดินรถออกไปก่อน จนกว่าสถานการณ์น้ำมันจะกลับมาดีขึ้น หรือเป็นปกติต่อไป
นาย
ชัยวัฒน์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ชาวสวนปาล์มไม่พอใจต่อมาตรการดังกล่าว เพราะทำให้ราคาปาล์มปรับลดลงนั้น มองว่าเป็นเพียงมาตรการชั่วคราว เพื่อช่วยเหลือต้นทุนค่าขนส่ง ไม่ให้ส่งผ่านไปยังราคาสินค้าและค่าครองชีพของประชาชน ไม่ได้เป็นการช่วยเหลือเฉพาะผู้ประกอบการรถบรรทุกเท่านั้น และเมื่อสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ แล้วเกิดปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ ทางรถบรรทุกก็พร้อมที่จะกลับไปใช้น้ำมันดีเซลที่มีส่วนผสมไบโอดีเซลในสัดส่วนเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยเหลือชาวสวนปาล์มต่อไป
JJNY : ก้าวไกลชวนคนกลางคืนฟ้อง│“NU”จับตาการกลายพันธุ์│ขนส่งเอกชนอยากลดสัดส่วนผสมเป็นบี5│ธีระชัยชี้ศก.โลกปีหน้ายังเสี่ยง
https://www.thairath.co.th/news/politic/2251246
ศิริกัญญา นำทีม ส.ส.ก้าวไกล นำกลุ่มนักดนตรีกลางคืน ศิลปินอิสระ ฟ้องรัฐบาลแบบหมู่ เรียกค่าเสียหายขาดรายได้ กรณีได้รับผลกระทบมาตรการโควิด-19 สั่งปิดสถานบันเทิง ร่วมปี
วันที่ 26 พ.ย. 2564 เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร และนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล พร้อมตัวแทนศิลปินกลางคืน มายื่นฟ้องแบบกลุ่ม (Class Action) กับภาครัฐ ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพมหานคร เพื่อเรียกค่าเสียหายและการชดเชยเยียวยา กลุ่มธุรกิจนักดนตรี ผู้ประกอบการร้านอาหาร ผับ บาร์ และธุรกิจกลางคืน ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการคุมโรคโควิด-19 ของรัฐบาล
น.ส.ศิริกัญญา ให้สัมภาษณ์ว่า ทางพรรคก้าวไกล เป็นตัวแทนในการฟ้องแบบหมู่ เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากทางภาครัฐ โดยการช่วยเหลือเยียวยานั้น ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ซึ่งเป็นที่มาว่า วันนี้ต้องพึ่งพากระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น
ในวันนี้อาจจะมีมติจากทางศบค. เพื่อกำหนดเวลาแน่ชัดว่า ธุรกิจกลางคืนจะเปิดได้เปิดเมื่อไหร่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวเพิ่ม
นายปกรณ์ โพธิ์แสงดา สมาชิกวง IHEARBAND ตัวแทนศิลปินที่ได้รับผลกระทบ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับผลกระทบแทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ จากงานที่มีอยู่ เดือนหนึ่ง 20-30 งาน แทบจะกลายเป็นศูนย์เลย ตั้งแต่เดือนเม.ย. จนถึงช่วงเดือนต.ค. ก็ยังไม่ดีขึ้น โดยตนเป็นตัวแทนของกลุ่มนักดนตรีจำนวน 30 กว่าคน แต่จำนวนจริงๆ นั้นมีมากกว่านั้น
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ในกลุ่มผู้เสียหายมีความเสียหายแตกต่างกัน ศาลท่านพิจารณาบังคับคดีก็ไม่ได้คำนวณที่จำนวนเงิน จึงไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขได้ ศาลก็จะพิจารณาพยานหลักฐานรายได้ที่ยื่นมา
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า การคำนวณค่าเสียหายจะใช้วิธีการคำนวณแบบชดเชยรายได้ โดยใช้รายได้จากปี 2562 ของสมาชิกกลุ่มทั้งหมด นักดนตรีกลางคืน นักแสดง ที่โดนปิดระงับไป นักดนตรีเหล่านี้มีรายได้จากการเล่นดนตรีในงานอีเวนต์และผับบาร์ต่างๆ
“ไม่ว่าความเสียหายเยอะน้อยเท่าไร แต่เกิดจากอาชีพที่เขามีไม่สามารถประกอบได้เป็นเวลา 2 ปี เม็ดเงินอาจจะดูน้อย แต่ความเสียหายนั้นมีมาก” นางสาวศิริกัญญา กล่าวสรุป
ส่วนในกรณีที่พรรคก้าวไกล ได้ฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายกับกลุ่มธุรกิจอื่น อาทิ ธุรกิจร้านนวด และร้านอาหาร ผับ บาร์ น.ส.ศิริกัญญา ระบุว่า มีความน่าจะเป็นที่ศาลจะรับฟ้อง เรายังมีความหวังกับเรื่องนี้อยู่ เราคงจะหวังพึ่งอะไรกับทางรัฐบาลได้ไม่มากแล้ว จึงจะต้องใช้กระบวนการยุติธรรมแทนโดยหวังว่าศาลจะอำนวยความยุติธรรมในครั้งนี้
โควิดสายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 “NU” จับตาการกลายพันธุ์อาจดื้อต่อวัคซีนโควิด
https://www.thansettakij.com/general-news/504670
เเพทย์ศิริราช เผย โควิดสายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 “NU” เเพร่ระบาดได้เท่าโควิดสายพันธุ์เดลตา ต้องจับตาการกลายพันธุ์เพราะจะเป็นปัญหาได้หากมีการเเพร่ระบาดมากขึ้น
เกาะติด โควิดสายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 ที่พบจากบอตสวานา ในทวีปแอฟริกาตอนใต้ ทำให้มีเสียงเตือนให้ระวังเชื้อโควิดกลายพันธุ์นี้เพราะมีความ “น่ากลัว” อยู่ไม่น้อย
ล่าสุด ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า
สายพันธุ์ใหม่ของ COVID ที่ WHO เพิ่งให้ชื่อว่า Nu (ν) หรือ B.1.1.529 ซึ่งพบในแอฟริกาใต้ในเขตเมือง Gauteng นั้น ความน่ากังวลตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่จำนวนการกลายพันธุ์ที่พบมากกว่า Delta แต่เป็นความสามารถในการแพร่ระบาดเมื่อเทียบกับ Delta ต่างหาก
“ยังไม่ต้องตื่นตกใจมาก แม้ว่ากราฟแรกจะดูเหมือนว่าระบาด Nu เก่งกว่า Delta เยอะ แต่ข้อมูลตอนนี้มาจากพื้นที่แอฟริกาใต้ แถบเมือง Gauteng และมีเคสไม่มาก ในขณะการระบาดในภาพรวมดูสงบ พอดูสัดส่วนเลยเห็นว่าเยอะ คงต้องตามไปก่อนว่าจะเป็นยังไง”
ศ.นพ.มานพ ย้ำถึงเรื่องการกลายพันธุ์ที่มีมากใน จีโนม genome ที่ต้องติดตามคือการกลายพันธุ์บน spike region ซึ่งจะเป็นปัญหาเมื่อ โควิดสายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 “NU” ระบาดมาก เพราะเชื้อนี้อาจดื้อต่อประสิทธิภาพของวัคซีนมากกว่าสายพันธุ์อื่น
เพราะถ้าดูแผนภาพแอนติเจน antigen cartogram ของ spike protein ของเชื้อ การกลายพันธุ์ที่มีมากอาจทำให้ B.1.1.529 “NU” ฉีกห่างจากสายพันธุ์ดั้งเดิม original Wuhan ไปมากกว่าตัวอื่น ซึ่งมีผลทำให้แอนติบอดีจากวัคซีนรับมือไม่ได้แบบที่เจอกับ Beta variant ก่อนหน้านี้
และสิ่งที่น่ากังวลอีกอันคือ แอฟริกามีอัตราการได้รับวัคซีนต่ำมาก ถ้าระบาดจะเป็นปัญหาใหญ่ คนป่วย ป่วยหนักและเสียชีวิตจะพุ่งขึ้นได้เร็วมาก ดังนั้นจึงต้องติดตามข้อมูลกันต่อไป
https://www.facebook.com/manopsi/posts/10161401062323448
ขนส่งเอกชน ถกวันนี้ นำข้อสรุปคุยบิ๊กกระทรวงพลังงาน อยากลดสัดส่วนผสมไบโอดีเซลเป็น บี 5
https://www.matichon.co.th/economy/news_3059098
ขนส่งเอกชนหารือวันนี้ นำข้อสรุปถกกับบิ๊กกระทรวงพลังงาน อยากให้ลดสัดส่วนผสมไบโอดีเซลเป็น “บี 5”
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน นายชัยวัฒน์ วิบูลย์วัฒนกิจ นายกสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงประเด็นที่ทางกระทรวงพลังงานตรึงราคาน้ำมันดีเซล B7 อยู่ที่ราคา 28 บาท/ลิตร ว่า หลังจากกระทรวงพลังงานประกาศตรึงราคาน้ำมันดังกล่าว เบื้องต้นทางสหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย จะมีการหารือถึงประเด็นดังกล่าวในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ และจะนำข้อสรุปไปหารือร่วมกับผู้ใหญ่ในกระทรวงพลังงานภายในสัปดาห์หน้าต่อไป
“จากมาตรการปรับลดสัดส่วนผสมไบโอดีเซลเหลือ 7% ให้จำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 7 เพียงชนิดเดียว นั้น มองว่ายังน้อยเกินไป เพราะผู้ประกอบการรถบรรทุกต้องการให้ลดสัดส่วนผสมไบโอดีเซลเหลือ 5% เป็นบี 5 และขอให้ขยายเวลาช่วยเหลือออกไปเป็น 6 เดือน ถึง 1 ปี จากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) กำหนดไว้เพียง 4 เดือน” นายชัยวัฒน์ กล่าว
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการยกระดับข้อเรียกร้องของทางสหพันธ์ ที่จะขึ้นค่าขนส่ง 10% ในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ ทางสหพันธ์ จะขอดูท่าทีของรัฐบาลก่อนว่าจะตอบรับอย่างไร หากรัฐบาลยังคงมาตรการเดิม ทางผู้ประกอบการก็ต้องปรับขึ้นราคาเพื่อให้ธุรกิจอยู่ได้ แต่ก็จะพยายามไม่ให้กระทบกับภาคประชาชน ส่วนเรื่องการหยุดเดินรถทั่วประเทศ 20% เดิมทีจะสิ้นสุดในเดือนพฤศจิกายนนี้ ก็ต้องขยายหยุดเดินรถออกไปก่อน จนกว่าสถานการณ์น้ำมันจะกลับมาดีขึ้น หรือเป็นปกติต่อไป
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ชาวสวนปาล์มไม่พอใจต่อมาตรการดังกล่าว เพราะทำให้ราคาปาล์มปรับลดลงนั้น มองว่าเป็นเพียงมาตรการชั่วคราว เพื่อช่วยเหลือต้นทุนค่าขนส่ง ไม่ให้ส่งผ่านไปยังราคาสินค้าและค่าครองชีพของประชาชน ไม่ได้เป็นการช่วยเหลือเฉพาะผู้ประกอบการรถบรรทุกเท่านั้น และเมื่อสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ แล้วเกิดปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ ทางรถบรรทุกก็พร้อมที่จะกลับไปใช้น้ำมันดีเซลที่มีส่วนผสมไบโอดีเซลในสัดส่วนเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยเหลือชาวสวนปาล์มต่อไป