ผมมีความจำเป็นในการลางาน เนื่องจากแฟนแท้งลูก จำเป็นต้องพาไปหาหมอที่ร.พ ด่วน เลยตัดสินใจลางานไป 2 วัน เพื่อดูอาการ ไหนลูกอีก 2 คน ที่อายุ 6 กับ 1ขวบ ที่ยังต้องดูแลที่เพราะยังเล็กมากปล่อยไม่ได้อีกอย่างคือเราอยู่ด้วยกันด้วย แล้วถ้าผมไปทำงานโดยที่แฟนก็ยังฟื้นตัวไม่ได้แบบนี้ พี่ฯว่าผมเห็นแก่งานมากไปรึป่าวครับ
  และเนื่องจากว่าผมเอง ก็เพิ่งได้ทำงานที่ใหม่ด้วย พึ่งทำเดือนเดียวเองอยู่ในช่วงทดลองงานแบบนี้ จะมีผลต่อการประเมินงาน การปรับบรรจุมากน้อยแค่ครับ?
  แล้วงั้นถ้าสถานการณ์แบบนี้เนี่ย "ไหนงานที่ใหม่ที่ผมต้องทำ การลามีผลกระทบต่อการประเมินผ่านโปร ปรับบรรจุแน่นอน ไหนเมียและลูกที่วัยกำลังซน ที่ต้องรับผิดชอบดูแล เพราะคนแท้งกับคนคลอดลูกแทบไม่ต่างกัน ต้องใช้เวลาในการรักษาในการฟื้นตัว "
ในความคิดผมตอนนี้คือ ถ้าตัดสินใจลาออกจากงานมาก่อน แล้วหางานใหม่ หลังจากแฟนเริ่มแข็งแรงดีขึ้นกับทำงานต่อไปเรื่อย ฯ แต่ทำงานอาจมีผลกระทบกับการไม่ผ่านโปรหรือการปรับบรรจุอย่างแน่นอนในอนาคต  ผมควรตัดสินอย่างไรดี
*** ขออธิบายเรื่องงานที่ใหม่นะครับ**
มันการโรงงานในสายการผลิต สัญญาจ้าง 11 เดือนมีต่อสัญญาไปเรื่อยฯ การลาต่างฯ มีผลต่อการปรับบรรจุ  สวัสดิการต่างฯที่ได้รับเพิ่มขึ้น เช่นเงินเดือนปรับขึ้น ,โบนัส,สวัสดิการอื่นฯ ที่ปรับขึ้นหลังจากบรรจุ จขกท ยังเป็นพนักรายวันนะครับ ***

  จากทั้งหมดข้างต้น ผมเองได้ปรึกษากับแฟน ซึ่งเขาก็ได้บอกว่า ให้ทนทำไปก่อนซึ่งงานที่ใหม่นี้ เนื้องานโอเค ระบบการทำงานก็โอเค วันหยุดเทศกาลก็หยุดเยอะดีแม้ปีนี้อาจยังไม่ได้บรรจุ ปีหน้าก็อาจปรับบรรจุให้ก็ได้  ผมควรเลือกยังไงดีครับหรือ ทนฯทำไปตามที่แฟนผมบอกหรือลาออกก่อน ให้แฟนผมแข็งแรงดีค่อยเริ่มงานใหม่ ที่ใหม่ การปรับบรรจุในที่ใหม่ อาจจะเร็วกว่าเพราะคงไม่มีอะไรให้กังวลในอนาคตแล้ว