พ่ออายุ 82 ตอนนี้เป็นเส้นเลือดตีบในสมอง และติดเตียง มีแผลกดทับ สี่แห่งและสาหัสทุกแผลใช้ยาอะไรดี?

คือเราไม่รู้จะเล่าให้ใครฟังเรื่องราวที่แสนจะเจ็บปวดในชีวิตเรา เราเหนื่อย ท้อเหลือเกิน นึกถึงเพื่อนๆในห้องพันทิปก็เลยคิดว่าลองเข้ามาตั้งกระทู้ถามดูดีมั้ยน้อ? (ส่วนตัวเราเป็น Bipolar มานานแล้ว กินยาอยู่ตลอด)   เผื่อว่าอาจจะได้คำตอบที่ดีกว่าการงมเข็มทำแผลให้พ่อไปแบบวันๆ
คือแผลพ่อเคยติดเชื้อจนต้องเข้า รพ. รัฐฯ มาแล้วเป็นเดือน สุดท้ายหมอไล่ให้เราเอาพ่อกลับบ้าน เพราะรักษาไปก้ไม่หายเราขอร้องหมอหลายครั้ง จนหมอให้อยู่ต่ออีก 1 สัปดาห์ แต่มันก้ไม่ได้ช่วยให้พ่อเราดีขึ้น

เพราะก่อนจะเข้า รพ. พ่อไปหาหมอด้วยเรื่องจะไปเอายาประจำตัว ตรวจเลือดและเอ้กซเรย์ปอด ที่เคยเป็นปอดอักเสบมาเมื่อต้นปี  แต่เจ้าหน้าที่กลับนำพ่อเราไปตรวจโควิดแล้วก็เอาพ่อเราไปนอนที่รถเข็นแบบนอนอยู่อย่างนั้น 4-5 ชม. จากนั้นพอได้ผลทุกอย่างออกมาเป็นเนกาทีฟ แต่หมอบอกให้พ่อแอดมิทไว้ก่อน เพราะยังไม่ชัวร์  เขาเอาพ่อไปนอนที่ห้องแยกโรคซึ่งร้อนมหาโหด ห้ามใช้แอร์ เราต้องเอาพัดลมไปจากบ้านเอง และเตียงเป็นเตียงลมก็จริงแต่มันเก่ามาก สูบลมเข้าก็ไม่มีลมเข้าได้แล้วเก่ามากๆแข็งเพราะเป็นพลาสติกเนื้อหนาและมันยวบยาบมาก เอาพ่อเรานอนแผ่หราทิ้งไว้แบบนั้นเหงื่อใหลไคลย้อย แผลก้เจ็บแสบ  และก็ไม่มาพลิกตัวพ่อเรา ทั้งๆที่หมอสั่งว่าพลิกตัวทุก 2 ชม. เราคนเดียวทำไม่ไหว เรากดออดขอผู้ช่วยพยาบาลมาช่วย เชื่อมั้ยคะ 1 ชม. ผ่านไปยังไม่มีหม--สักตัวเข้ามา

เราต้องค่อยๆลากผ้าคาดเตียงที่เอาไว้ยกตัวผู้ป่วยน่ะลากมาอึกฝั่งของเตียงแล้วก้พลิกร่างให้พ่อเอง  ทีนี้หละพ่อที่มีแผลกดทับมาแต่บ้านเพียงแต่ไม่ใหญ่เท่าหลังจากมาอยู่ รพ. นะ ก็เกิดการครูด ผิวทั้งตัวของพ่อบางมาก มันก็ถลอกทีนี้แผลก็เปิดใหญ่ขึ้นทีละนิดๆ จนวันนึง หมออีกท่านนึงได้ขึ้นมาแล้วบอกว่าวันนี้จะเอาพ่อไปตัดเนื้อเน่าออก หมอที่มาเป้นหมอศัลยแพทย์ แต่เป็นหมอที่เราว่าท่านใจดีมีความเป็นหมอมากๆ รู้เข้าใจในความรู้สึกของผู้ป่วยและญาติ มีจิตวิทยาในการพูดให้เรารู้สึกดี  แต่หมอประจำเป็นหมออายุรแพทย์ พูดจาไม่ดีมาก และก็ด่าคนป่วยทุกเตียงละมั้ง เราอยู่ รพ. เป็นเดือนจนรู้และเห็นความจริงใน รพ. รัฐฯ เป็นอย่างดี 

อ้อจะมีอีกคนเป็นหมอผู้หญิงเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องให้คำปรึกษาโรคมะเร็งขั้นสุดท้าย ว่าทำยังไงจะให้คนไข้หลับไปแบบไม่ทรมาน เอาง่ายๆก็คือ ให้ยาพิเศษไต้ลิ้นน่ะค่ะ  คนนี้ก็มาร่วมดูเคสพ่อด้วย เพราะพ่อทำ MRI แล้วเจอก้อนเนื้อประมาณ 5 ซม. ที่ปอดขวา แต่ก้อนนี้พ่อเราตรวจพบมานานแล้วมันไม่ได้กลายไปเป็นเนื้อร้าย หรือกระจายไปไหนเลย และหมอคนก่อนๆที่ รพ. เดิมก็บอกว่ามันน่าจะอยู่ที่ปอดพ่อมานานมากแล้วและไม่น่าจะเป็นมะเร็ง แต่หมอที่นี่กลับฟันธงว่าพ่อเป็นมัเร็ง เราบอกว่าเราจะไม่ให้เจาะท้องพ่อเพื่อตัดเอาเนื้อก้อนนั้นออกมาตรวจหาเชื้อมะเร็งนะ หมอประจำตัวกับหมอที่ปรึกษาก้บอกว่างั้นก้พาพ่อกลับไปรักษาเองที่บ้าน เพราะเราไม่สามารถให้พ่อคุณอยู่นานๆได้ เพราะพ่อคุณตอนนี้ติดเชื้อที่แผลกดทับ ทำให้ไม่มีใครกล้าให้พ่ออยู่ใกล้พ่อ เตียงพ่อจึงห่างจากคนอื่นสองเตียง เขาบอกว่าพ่อเราทำให้ไม่กล้าเอาคนไข้มาอยู่เตียงข้างๆ เพราะกลัวติดเชื้อ เชื้ออะไร?

เราอยากถาม เพราะเราไม่ได้เป็นโรคโควิด ไม่ได้ไอจาม หรือเป็นโรคปอดที่มันจะได้ติดกันได้ง่ายๆ มะเร็งปอดไม่ใช่เหรอที่คุณบอกแล้วติดเชื้อที่แผลกดทับ มันติดกันได้ด้วยเหรอ  ทั้งๆที่พ่อไม่มีการไอ ไม่มีอะไรเลย นอนทั้งวัน โด้ปยาพ่อเราทั้งคืนทั้งวัน  พ่อเบลอจนจำอะไรไม่ได้  เราไม่ยอมให้เขาเจาะพ่อเรา เพราะพ่อเราบอบช้ำมากแล้วท่านคงทรมานมากหากต้องทำแบบนั้น อ้อ ในสมองตรวจพบว่ามีน้ำขังอยู่ด้วยไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร?  มันเลยจะไปกดสมองทำให้พ่อปวดหัวและจะเบลอๆ คนแก่ก้ธรรมดาป่ะ ที่จะหลงลืม เราก็รับรู้ แต่ก็ไม่ฉายแสง ไม่ทำคีโม เพราะมะเร็งยังไม่รู้เป็นจริงป่าวเลย ยังไม่ได้ผล อีกอย่าง พ่อเราเคยบอกไว้ว่า ถ้ามันเกิดอะไรขึ้นแบบนี้ให้เราตัดสินใจไปเลยอย่าทรมานพ่อ เคสแบบนี้แม่เราก็จากไปด้วยมะเร็งถุงน้ำดี แม่ก็ไม่เจาะไม่ใส่ท่อช่วยหายใจ ท่านขอให้เราตัดสินใจปล่อยให้ท่านจากไปอย่างสงบ และท่านก็ได้จากไปเองเมื่อปีที่แล้ว

สุดท้ายเราก็ต้านกระแสการออกปากไล่เรากับพ่อของหมอทั้งสองคนนี้ไม่ไหวเพราะมันมาทั้งผู้ช่วยพยาบาล และพยาบาลเองก็ช่วยกันกดดันทุกวันๆให้เราเอาพ่อกลับ เราก็เลยพาพ่อกลับบ้าน ตอนนี้เรากลับมาอยู่บ้านดูแลพ่อเองได้เกือบเดือนแล้ว แผลพ่อดูดีขึ้น ตรงก้นกบ คงเพราะเรากับหลานช่วยกันพลิกท่าน
บ่อยๆ และเราปรุงอาหารสายยางให้พ่อเองตามสูตรที่นักโภชนาการให้มา เราได้ซื้อเตียงลมให้พ่อ ทำห้องทีพ่ออยู่เดิมให้เป็นห้องของพ่อโดยเฉพาะ ไม่ให้ใครเข้าออก มีเครื่องกรองอากาศ แอร์ และยา เครื่องใช้ทุกอย่างทำหรับการทำแผล  ทั้งแผ่นซึมซับ ฯลฯ  ทุกอย่างครบ แต่ครีมออยล์เม้นท์ที่หมอสั่งให้เป็นครีมธรรมดามาก สำหรับแผลไฟไหม้ประมาณนั้น แต่พ่อเราแผลเรื้อรัง เราเลยเสิร์ทหาในเว็บก็ได้มาหลายตัว เราเลือกของ 3m. ก็ดีอยู่ และก็ได้เปลี่ยนมาใช้แผ่นดูดหนอง Deoderm ช่วยอีกที ก็ย่นระยะเวลาทำแผลไปได้สามวัน แต่ยังไงก้ต้องเช็คแผลทุกเช้าว่าอันไหนมีน้ำเหลืองเยิ้มมากก้เอาผ้าก็อตแปะช่วยซับไว้ให้ไม่เลอะ  บางแผลก็มีเนื้อเยื่อตายเยอะ วันไหนเปิดแผลก็จะต้องนั่งเลาะเนื้อเน่าจนกว่าแผลจะสะอาด  มันเหนื่อยมากๆ จนเราท้อในการทำแผลแต่ละวันใช้เวลาขลิบเนื้อเน่าและล้างแผล แต่งแผลประมาณวันละ 2-3 ชม.

เราไม่เคยรังเกียจพ่อเลย วันไหนท่านไม่อึ๊ เราก็ใช้ยาสวน แล้ะช่วยล้วงอีกทาง จนกว่าท่านจะถ่ายหมด ไม่มีใครทำได้ คอตื้นการเมืองกันทั้งนั้น บอกเห็นแผล จะเป้นลม เหม็นอึ๊จะอ้วก เวียนหัว บลาๆๆๆ โอเค ไม่ต้องชั้นทำเองได้ แล้วเราก็ดูแลพ่อเองทุกวัน อยากถามหมอ หรือใครก้ได้ ที่มีความรู้เรื่องการรักษาแผลกดทับที่สะโพกสองข้าง และสันหลังสามจุดนี้พ่อเราทรมานมากกว่าตรงก้นกบแผลใหญ่มากนะ แต่เราพลิกตะแคงท่านเลยมาเจ็บสะโพกทิ้งสองข้างแทน พ่อจะมีไข้อ่อนๆ บางวันช่วงเช้าจะไข้สูงตัวร้อนมากๆ เราจะต้องคอยเช็ดตัวและเอายาบดผสมน้ำแล้วเอาป้อนทางสายยางให้พ่อ สักพักก็จะเหงื่อแตก ก้เช็ดตัวอีกรอบ ตอนนี้เรากลัวว่าเราจะไปก่อนพ่อละ เพราะมีอาการหน้ามืดเวียนหัว และแอบไข้บ้าง แต่เราฮึดและกินยากินวิตซี กินฟ้าทะลายโจรจนมันหายไปเอง เรื่องโควิดเราก้ดุแลทั้งเราและหลานๆที่บ้านไปไหนมาต้องพรมน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนเข้าบ้าน และทิ้งแม้สไว้นอกบ้าน ถ้าจะเข้าไปหาพ่อเรา จะต้องหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว เข้าไปเยี่ยมได้ใส่แมสด้วย  

เล่ามาเสียยาวคงไม่มีใครสนใจอ่านแน่ๆเราว่านะ แต่ถ้ามีใครผ่านมาอ่านแล้วรู้ว่ามียาที่รักษาแผลกดทับได้ดี กราบขอความกรุณาช่วยบอกเราที   อยากให้พ่อหายทรมาน คิดว่าหากแผลหาย พ่อน่าจะสามารถนั่งรถเข็นได้อีกครั้ง แม้จะต้องรักษาไปอีกปีก็ตาม ขอขอบพระคุณที่เข้ามาอ่าน และสำหรับท่านที่เข้ามาบอกเรื่องยาจากประสปการณ์ตรงของท่าน ข้าพเจ้าขออวยพรให้ท่านและครอบครัวจงอยู่รอดปลอดภัยจากโรคาพยาธิร้ายทั้งหลายทั้งปวง มีสุขภาพแข็งแรง หากทำมาค้าขายก้ขอให้รวยสวนกระแสเงินใหลเข้ากระเป๋าเฮงๆๆๆรวยๆๆๆตลอดไปเน้อ ส้าธุ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่