เรื่องมีอยู่ว่าเราทำงานมาก็หลายที่เจอสังคมมาก็หลายแบบ แต่ก่อนขายเครื่องสำอางค์อยู่จ.นึง เจ้าของร้านก็ใจดีมากเค้าเติมโตขึ้นเรื่อยๆ รวยเอาๆ.เราก็เข้าใจเเหละว่าเค้ามีกำลังที่จะทำต่างจากเราที่เป็นได้เเค่ลูกน้อง
ก็ได้แต่ยินดี แต่ในใจก็อยากมีร้านเล็กๆ ของตัวเองบ้างแต่ไม่มีกำลังที่จะทำ แต่พอกลับมาอยู่บ้าน เราก็มาทำงานเกี่ยวกับตรวจสภาพรถ เป็นลูกจ้างวันละ ไม่ถึง 300 เฉลี่ยเดือนนึงได้เเค่ 8000 บาท. แต่ต้องทำเพราะไม่มีทางเลือก เจอสังคมอีกแบบนึง มีเเต่คนมีตังค์มาตรวจสภาพรถ เจอคนเหยียดหยามดูถูกว่าเป็นได้แค่ลูกจ้างเค้า บางคนก็พูดดี บางคนก็พูดไม่ดี เงินเดือนเราจ่ายแค่ให้ถึงเดือนไม่เคยมีตังค์เก็บเหมือนคนอื่นเค้า บางเดือนจ่ายค่าบ้านค่าน้ำค่าไฟ ก็เเทบไม่พอ.ไหนจะกินอีก ทำมากทำน้อยก็ได้แค่ 8000 บาท
เถ้าแก่ก็รวยมาก คุยแต่เรื่องธุรกิจ พี่น้องเค้าก็หลายคน ซื้อที่ ซื้อสวนเป็น 7-6 ล้าน แบบมีตังค์เวลาเค้ามองเราก็เหมือนดูไร้ค่ามาก พวกจนๆ ไม่อยากยุ่งด้วย. ขอความคิดแบบบวกๆหน่อยได้ไหมคะ ไม่อยากมองตัวเองต่ำต่อย
สังคมคนจนกับคนรวย ทำไมเรารู้สึกต่ำต่อยจังคะ.
ก็ได้แต่ยินดี แต่ในใจก็อยากมีร้านเล็กๆ ของตัวเองบ้างแต่ไม่มีกำลังที่จะทำ แต่พอกลับมาอยู่บ้าน เราก็มาทำงานเกี่ยวกับตรวจสภาพรถ เป็นลูกจ้างวันละ ไม่ถึง 300 เฉลี่ยเดือนนึงได้เเค่ 8000 บาท. แต่ต้องทำเพราะไม่มีทางเลือก เจอสังคมอีกแบบนึง มีเเต่คนมีตังค์มาตรวจสภาพรถ เจอคนเหยียดหยามดูถูกว่าเป็นได้แค่ลูกจ้างเค้า บางคนก็พูดดี บางคนก็พูดไม่ดี เงินเดือนเราจ่ายแค่ให้ถึงเดือนไม่เคยมีตังค์เก็บเหมือนคนอื่นเค้า บางเดือนจ่ายค่าบ้านค่าน้ำค่าไฟ ก็เเทบไม่พอ.ไหนจะกินอีก ทำมากทำน้อยก็ได้แค่ 8000 บาท
เถ้าแก่ก็รวยมาก คุยแต่เรื่องธุรกิจ พี่น้องเค้าก็หลายคน ซื้อที่ ซื้อสวนเป็น 7-6 ล้าน แบบมีตังค์เวลาเค้ามองเราก็เหมือนดูไร้ค่ามาก พวกจนๆ ไม่อยากยุ่งด้วย. ขอความคิดแบบบวกๆหน่อยได้ไหมคะ ไม่อยากมองตัวเองต่ำต่อย