ความจน

นี่คือเรื่องราวของเราตอนนี้ผมเป็นนักศึกษาของมหาลัยราชภัฎของจังหวัดนครสวรรค์ ปีนี้อายุ 18 ปีแล้วครับคือเริ่มเรื่องว่าตอนเด็กเด็กแม่เราก็เรียนโรงเรียนรัฐบาลปกติเราก็เรียนใช้ชีวิตต่อมาเรื่อยจนไม่ได้คิดอะไรแต่พอช่วงประมาณ ป. 3 ป. 4 เราเริ่มเห็นความต่างของชีวิตคือทำไม ปีนี้อายุ 18 ปีแล้วครับคือเริ่มเรื่องว่าตอนเด็กเด็กแม่เราก็เรียนโรงเรียนรัฐบาลปกติเราก็เรียนใช้ชีวิตต่อมาเรื่อยจนไม่ได้คิดอะไรแต่พอช่วงประมาณ ป. 3 ป. 4 เราเริ่มเห็นความต่างของชีวิตคือทำไมเราได้ตังค์ไปโรงเรียนวันละ 20 บาท แต่ทำไม แต่ทำไมเพื่อนเราได้ไปวันละ 50 บาท 60 บาท จนเราก็พึ่งมาเริ่มเข้าใจว่าเออบ้านเราแบบไม่ค่อยมีพอขึ้นช่วงมัธยมต้นเราได้ตังค์ไปโรงเรียนวันละ 40 บาทก็ถือว่าเยอะนะตอนนั้นสำหรับ จนเราก็พึ่งมาเริ่มเข้าใจว่าเออบ้านเราแบบไม่ค่อยมีพอขึ้นช่วงมัธยมต้นเราได้ตังค์ไปโรงเรียนวันละ 40 บาทก็ถือว่าเยอะนะตอนนั้นสำหรับเรา แต่มันก็พอสำหรับ แต่มันก็พอสำหรับกินข้าวมื้อหนึ่ง 20 บาทอีก 15 บาทก็รถประจำล็อคเหลือตังค์เก็บ 5 บาท พอมีงานมีรายงานอะไรมาเราก็ไม่ค่อยมีตังให้เพื่อนช่วยอะไรเราเลยแก้ปัญหาโดยการอดข้าวกินข้าวเช้าที่บ้านให้มากๆอดข้าวกลางวันและกลับไปกินข้าวเย็นที่บ้านตอนกลางวันก็นอนกินน้ำ พอมีงานมีรายงานอะไรมาเราก็ไม่ค่อยมีตังให้เพื่อนช่วยอะไรเราเลยแก้ปัญหาโดยการอดข้าวกินข้าวเช้าที่บ้านให้มากๆอดข้าวกลางวันและกลับไปกินข้าวเย็นที่บ้านตอนกลางวันก็นอนกินน้ำเปล่าพอวันไหนหิวมากจริงๆเราถึงยอมกิน พอขึ้น มปลายก็ได้ตังค์ไปวันละ 40 บาท เราเริ่มหารายได้รับงานเล็กๆน้อยๆ ช่วยป้าไปตลาดมั่งไปตลาดเช้าตอนเที่ยงคืนกลับบ้าน 6 โมงแล้วก็ไปเรียนเรียนรู้เรื่องบางไม่รู้เรื่องบาง พอสมัครมหาลัยเราก็เอาอ่ะเอาเงินเก็บของเราช่วงที่เราทำงาน พอสมัครมหาลัยเราก็เอาอ่ะเอาเงินเก็บของเราช่วงที่เราทำงานมาทำมาจ่ายค่าเทอมพอจะขึ้นอีกเทอมเราก็ยังหาเงินจ่ายค่าเทอมไม่ได้ ตอนนั้นเราทำงาน ตอนนั้นเราทำงานคาร์แคร์ทำฟาร์มแพะร้านหมูกระทะร้านอาหาร เราก็ก็ถามแม่มาตลอดนะว่าเมื่อไหร่บ้านเราจะสบายเมื่อไหร่บ้านเราจะดีขึ้นมันจะอดไม่ได้แหละที่อิจฉาคนอื่นแม่ก็ตอบมาเราว่าตลอดว่าเดี๋ยวปีหน้าก็ดีขึ้นผ่านมา 18 ปีแม่ก็ก็ยังพูดเหมือนเดิมจนเราเลิกถามเราวันนึงเราเลยลองถามพ่อแม่มีหนี้เท่าไหร่ว่าเรามีหนี้เท่าไหร่แม่ก็บอกมีประมาณ 700,000 สำหรับ เราก็ถามแม่มาตลอดนะว่าเมื่อไหร่บ้านเราจะสบายเมื่อไหร่บ้านเราจะดีขึ้นมันจะอดไม่ได้แหละที่ใจชาคนอื่นแม่ก็ตอบมาเราว่าตลอดว่าเดี๋ยวปีหน้าก็ดีขึ้นผ่านมา 18 ปีแม่ก็ก็ยังพูดเหมือนเดิมจนเราเลิกถามเราวันนึงเราเลยลองถามพ่อแม่มีหนี้เท่าไหร่ว่าเรามีหนี้เท่าไหร่แม่ก็บอกมีประมาณ 700,000 สำหรับเราที่เป็นเด็กตัวเล็กคือมันเยอะมาก กลับมาบ้านตอนเช้าก็ไม่ได้กินข้าวกลางวันก็ไม่ได้กินเก็บตังค์ไว้เติมน้ำมัน กลับมาบ้านตอนเช้าก็ไม่ได้กินข้าวกลางวันก็ไม่ได้กินเก็บตังค์ไว้เติมน้ำมันรถกลับมาบ้านก็มาพอเปิดตู้ตู้เย็นก็พบความว่างเปล่า บางทีมีไข่มาหนึ่งแผงสำหรับ บางทีมีไข่มาหนึ่งแผงสำหรับเราไข่ดาวคืออะไรที่อร่อยที่สุดในโลกบวกกับซอสพริก เราไม่โทษพ่อแม่หรอกนะว่าทำไม เราไม่โทษพ่อแม่หรอกนะว่าทำไมไม่ได้รวยเหมือนคนอื่นหรือว่าดีกว่าคนอื่นเรารู้สึกว่าเค้าพยายามมามากพอแล้วกว่าเราจะมีบ้านมีที่นอนอุ่นอุ่น เราก็ไม่ได้สนใจคำพูด เราก็ไม่ได้สนใจคำพูดใครหรอกว่าจะพูดกับเรายังไงเพราะความอายมันหมดจากตัวเราไปนานแล้วเราแค่นึกว่าพรุ่งนี้ไปเรียนจะเอาน้ำมันที่ไหนเติมรถไปจะกินข้าวกับอะไร จะเอาตังที่ไหนจ่ายค่าเทอมไม่รู้ว่าจะได้เรียนต่อหรือเปล่าล่าสุดเราไปสมัครงานมาที่ที่ทำงาน จะเอาตังที่ไหนจ่ายค่าเทอมไม่รู้ว่าจะได้เรียนต่อหรือเปล่าล่าสุดเราไปสมัครงานมาที่ที่ทำงานก็ไม่รับ พ่อแม่เราเงินก็ไม่ค่อยจะมีตอนนี้ทั้งตัวเหลืออายุ 30 บาทเราว่าจะเก็บไว้เติมน้ำมัน พ่อแม่เราเงินก็ไม่ค่อยจะมีตอนนี้ทั้งตัวเหลืออายุ 30 บาทเราว่าจะเก็บไว้เติมน้ำมันแล้วก็กินข้าวบ้าน บางทีก็ชอบให้ตัวเองนั่งเหม่อลอยคิดอะไรไปเรื่อยตอนหลังหลังมาเราเครียดเรานอนไม่หลับร่างกายโทรม ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงจุดนี่นะ เราแค่อยากระบายเราไม่มีที่สามารถให้เราระบายความอัดอันในใจเราได้เราไม่ได้อยากขอร้องความเชื่อหรอกเราแค่อยากระบาย ยังไงชีวิตก็ต้องเดินต่อไปไม่ต้องเครียดหรอกดรีม เพราะเดี๋ยวปีหน้าก็ดีขึ้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่