--- เที่ยว Norway แบบหนีโควิด ---
การเที่ยวครั้งนี้ผมไปตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 ซึ่งเป็นช่วงที่โควิดเพิ่งเริ่มจะระบาดใหม่ๆเลย
รีวิว ก็ไม่ได้ลง แต่มีภาพเก็บไว้ .... ณ วันนี้ วันที่ไปเที่ยวต่างประเทศไม่ได้ก็อยากจะมารีวิวให้ตัวเองหายคิดถึงหน่อย
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านนะครับ เผื่อว่าสามารถเดินทางได้ แล้วอยากไปนอร์เวย์ ก็ลองอ่านดูนะครับ
***
ก่อนเริ่ม เช่นเดิมนะครับ รีวิว นี้ ผมจะ “ไม่แต่งภาพ” แม้แต่ภาพเดียว นั่นคือ ภาพทุกภาพ เป็นภาพที่ถ่ายจากมือถือมา แล้วลงเลย
ดังนั้น จะได้ฟิลที่แบบ ของจริง สวยก็สวยจริง ไม่สวยก็ตามนั้นแหละ ไม่ต้องมา ขิง มาเมค ให้คนอยากไปเที่ยวครับ ....
ดีก็ชม ไม่ดีก็ด่า .... การไปเที่ยวเมืองนอกไม่จำเป็นว่า ทุกอย่างต้องดีเสมอไป ....
ถ้าท่านไม่เคยอ่าน รีวิวท่องเที่ยวแบบ เรียลๆ แล้วล่ะก็ ขอฝากผลงานการเขียนของผมหน่อยครับ
https://ppantip.com/topic/38908007
กดที่ลิงค์นี้ จะได้ผลงานเขียนเก่าๆ ทั้งหมดเลยนะครับ มีหลายประเทศ เลย
.
-- ไปเริ่มรีวิวกันเถอะ --
******** การใช้อินเตอร์เน็ต **********
รอบนี้ ผมใช้หลายแบบมากๆ นั่นคือ ซื้อ ซิมของ True แบบ โปร 1 แถม 1 ราคา 899 บาท ได้สองอัน
เป็นโปรออนไลน์เท่านั้น
กับ Ais Roaming ที่ไม่ต้องเปลี่ยนซิมเลย แค่กดสมัครตามภาพ **
ข้อดี ของ การใช้โรมมิ่งคือ เราจะได้รับ Message (ข้อความ) ซึ่งรับฟรี นั่นทำให้คุณสามารถใช้แอพธนาคารทุกแอพ หรือ อะไรก็ตามที่ต้องใช้ OTP ในมือถือ เพื่อทำธุรกรรมที่เมืองไทย ได้เสมอ .... ข้อเสียก็คือ แพงกว่า ซิม 1 แถม 1 ของทรู
ส่วนการใช้งาน ในต่างประเทศนั้น สัญญาณของทั้งสองค่าย สูสีกันครับ ..... มีช่วงจังหว่ะ ที่ต้องขับรถขึ้นภูเขา และที่อับสัญญาณ AIS จะยังพอมีสัญญาณอยู่บ้าง ส่วน TRUE สัญญาณหายไปเลย
สรุปสั้นๆ ถ้าไปนอร์เวย์ แล้วท่านจะซื้อซิมทูฟลาย ผมให้ ais ชนะครับ
.
ปล. เผื่อท่านใดไม่ทราบนะครับ ... ถ้าท่านไปญี่ปุ่น แล้วซื้อซิมต่างประเทศ ท่านต้องซื้อซิม ของทรู
เพราะที่ดิสนีย์ซี ถ้าใช้ ais จะไม่มีสัญญาณ ส่วนทรู สัญญาณ เต็ม .... คือแต่ละสถานที่ แต่ละซิมจะแตกต่างกันนะครับ
****
.
การแพลนทริป ... ขอ บ่น หน่อยนะครับว่า ตั้งแต่ผมเที่ยวมา .... ทริปนี้ เป็นการแพลนทริปที่ยากที่สุดตั้งแต่เคยเที่ยวมาในชีวิต
เริ่มจากตั๋วเครื่องบิน ที่เราซื้อ "การบินไทย กทม - ออสโล ... และขากลับ กลับจาก Stockholme - กทม ... ในราคาไปกลับ 22000 บาท"
ทำไมถึงซื้อแบบนี้ ...
ข้อแรกเลยคือ ตั๋วราคาไม่แพง ....
ข้อสองคือ ออสโล จากที่อ่านรีวิว ส่วนใหญ่จะบอกว่า เที่ยวสองวันก็หมดแล้ว แต่ผมเหลือเวลา สี่วัน และตั๋วจาก ออสโล บินไปสต็อคโฮม ตั๋วถูก เราแพลนไปดูแสงเหนือ 7 คืนติดแล้ว เลยอยากจะจบทริปแบบแสงสีเสียงนิดนึง
.
ด้วยการที่นอร์เวย์ เป็นประเทศที่ "ยาว" คือ Oslo เมืองที่เราบินลง อยู่ข้างล่าง ของตัวประเทศ แต่ Tromso หรือ Svolvnaer (Lofoten) อยู่ข้างบน ของประเทศ ทำให้ จะต้องแพลนการเดินทางระหว่างเมืองให้ดี
ตอนแรกอยากจะไป Fjord ซึ่งหลายคนให้เป็น สถานที่ท่องเที่ยวอันดับ1 ของนอร์เวย์เลย แต่ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง ทำให้เรา "อดไป" เทือกเขาที่ชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของประเทศ
.
.
Day 1
เดินทางจาก เชียงราย – กทม – ออสโล – Tromso
รับรถ ซื้อของ และเข้าที่พัก รอถ่ายแสงเหนือ
.
.
จากเชียงรายเลยนะครับ บินแบบ เช็คทรู เพราะบินไทยสมาย โคกับ การบินไทย ได้ จึงทำให้เราไม่ต้องไปเช็คอินที่สุวรรณภูมิอีกครั้ง บินไปถึง กรุงเทพ นัดเจอ แอล น้องสาวอุ้ม (ภรรยา จขกท.) ข้างในเกทเลย .... เครื่องดีเลย์ 1 ชั่วโมง -*-
แอลกับอุ้มจึงนัดกันไปเดินช้อปปิ้ง ส่วน สี่คนที่เหลือ ไปหาผับนั่งกินเบียร์รอกันครับ … เบียร์สดในสนามบิน ไพน์ละ สองร้อยกว่า ราคามหาโหด แต่ก็อยากดื่ม สั่งมา โคตรอร่อย ก็หวดกันไปคนละสองแก้วใหญ่ จนใกล้เรียกขึ้นเครื่อง ก็เดินไปขึ้นเครื่องเลย กึ่มๆ
พอขึ้นเครื่องก็ปาเข้าไปตีหนึ่งกว่า ความสบายที่สุดคือ เครื่องไม่เต็ม เพราะข่าวโควิดก็เริ่มมีมาบ้างแล้ว .. ก็นั่งแบบไม่ต้องเบียดกับใคร ขึ้นเครื่องกินยานอนหลับ เปิดหนัง ซักพักก็ผ่านไป 6-7 ชั่วโมงละ นั่งๆ ดูหนังแว๊บเดียว ก็ 11 ชั่วโมง ถึง ออสโล
.
ถึงสนามบิน ผ่าน ตม. อย่างง่ายดาย รับเป๋า กินขนมปังกาแฟ เล็กๆน้อยๆ
รอขึ้นเครื่อง ไปลง Tromso .... คนที่นี่ อ่านกันว่า “ทรุมเซอร์” นะครับ
.
พอเครื่องใกล้จะลง คือบอกได้คำเดียวว่า "แม่จ้าว"
คือมันสวยตั้งแต่เครื่องยังไม่แลนดิ้งเลย ...
เข้าห้องน้ำสนามบิน มันมีหน้าต่างส่องความสวยงามออกไปข้างนอกเลย แบบ ภูเขา และหิมะ ขาวโพลน
รับกระเป๋าเสร็จ เราก็เดินไปที่ Avis เพื่อรับรถ ...
ตอนแรกเช่ารถตู้ไว้คันเดียว สำหรับ 6 คน แต่โดนบริษัทรถแคนเซิล ทำให้สุดท้ายเราต้องเช่าสองคัน เราไม่เลือกรถเล็กเพราะคิดว่า ขับลุยหิมะ น่าจะใช้รถดีหน่อย ตอนแรกผมได้ Volk รุ่นอะไรซักอย่าง แต่ไม่มี GPS ในตัว และยางก็แบน ผมก็เดินไปให้เค้าจัดการให้ ไปๆมาๆ … เค้าเลือกที่จะอัพเกรดเป็น รถพรีเมี่ยมให้เฉย... และก็ได้ วอลโว่ รุ่น V90 สุดหรูมาขับแทน … เบาะมีฮีทเตอร์อุ่นตูดด้วย ^^
.
พอรับรถเสร็จ เราตัดสินใจขับไปในเมืองเพื่อตุนเสบียงก่อนเลย ..... ใกล้ๆ ซุปเปอร์มาร์เก็ตมีห้าง ซึ่งทุกคนหิวพอดี
เราจึงเข้าห้าง และกินซูชิ เป็นอาหารมื้อแรก ในนอร์เวย์ ...
อีซูชินี่ เจ๋งดี จะเป็นสายพาน แล้วใส่จานเป็นสีสีมา แต่ละสี ก็มีราคาบอกเลยว่า จานละเท่าไหร่ ใครอยากกินหรูกินถูกก็เลือกกันเอง จ่ายกันเอง เงินใครเงินมัน..
กินเสร็จก็เข้าซุปเปอร์ ซื้อของที่จะเอาไว้ทำอาหารคืนนี้ และตุนเบียร์
… เบียร์ที่นี่ เท่าที่หาได้ถูกที่สุดคือ การซื้อกระป๋องยาวทีละ 6 กระป๋อง ตกกระป๋องละ ประมาณ 90 บาท
(ถือว่า เป็นประเทศที่เบียร์แพงที่สุด ตั้งแต่ผมเที่ยวต่างประเทศมาเลยครับ แพงเป็นอันดับ1 )
.
อากาศตอนนี้ ก็ประมาณ -2 องศา มีหิมะเต็มไปหมด
ภาพนี้แวะถ่ายภาพข้างทางนะครับ
เราใช้เวลาขับรถประมาณ เกือบสองชั่วโมง เพื่อออกจากตัวเมือง Tromso ไปนอนสถานที่ล่าแสงเหนือ (คือจะมืดกว่า และไม่ต้องขับรถมองหาแสงเหนือเลย คือสามารถเห็นแสงเหนือได้จากที่พัก) ...
ในแผนที่ ก็คือ อยู่ด้านขวาของ Tromso … จะอยู่ระหว่าง Koppangen กับ Lyngseidet (ถ้าgoogle map ดูอ่ะนะครับ)
ก่อนจะถึงที่พัก ต้องขึ้น เรือข้ามฟาก โดยขับรถขึ้นไปเลย ตื่นเต้นดีครับ ....
พอถึงที่พัก เราก็เปิดเอากุญแจใน box ซึ่งทาง host เค้าส่งอีเมล์พาสเวิร์ดมาให้แล้ว
(คือที่นี่ เค้าจะไม่มาเฝ้า ไม่มาแม้แต่เจอตัวกันเลย)
พอได้กุญแจแล้ว ก็เปิดเข้าบ้านไปเลย
บ้าน…ที่นี่ถือว่าดีมาก ครัวใหญ่ ห้องนั่งเล่นใหญ่ มีระเบียง .... มีสามห้องนอน ..มีเตาผิง มีฮีตเตอร์...
ส่วนตัวผมมานอนห้องนั่งเล่น ให้เฮง นอนเดี่ยวสบายๆ สลับกันเป็นที่ที่... ตัวผมนอนไหนก็ได้เพราะผมกะจะเมาหลับเลย
.
มื้อเย็นคืนแรก ต้มมาม่า ที่เอามาจากไทยกินกัน
พอกินเสร็จ ก็เริ่มเข้าแอพ Aurora และแอพที่เช็คแสงเหนือ ….. วันนี้ มีหิมะตก ท้องฟ้าอากาศแย่มาก จากพยากรณ์คิดว่าคงจะไม่เห็นอะไรเลย
เพราะมีพายุหิมะเข้า .. จากนั้นก็นั่งจุดไฟจากเตาผิงกัน และนั่งดื่มเบียร์ไปชิลๆ จบวันแรกแบบเหนื่อยสุดๆ
ไม่ได้ปาร์ตี้ ไม่ได้เมาอะไรมาก
.
จบ Day 1
ตั้งแต่ Day 2 เป็นต้นไป จะทยอยอัพในคอมเม้นเรื่อยๆ นะครับ
ขอเชิญติดตามชมต่อได้เลย
[CR] เที่ยว Norway ฉบับ เที่ยวไป หนีโควิดไป
--- เที่ยว Norway แบบหนีโควิด ---
การเที่ยวครั้งนี้ผมไปตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 ซึ่งเป็นช่วงที่โควิดเพิ่งเริ่มจะระบาดใหม่ๆเลย
รีวิว ก็ไม่ได้ลง แต่มีภาพเก็บไว้ .... ณ วันนี้ วันที่ไปเที่ยวต่างประเทศไม่ได้ก็อยากจะมารีวิวให้ตัวเองหายคิดถึงหน่อย
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านนะครับ เผื่อว่าสามารถเดินทางได้ แล้วอยากไปนอร์เวย์ ก็ลองอ่านดูนะครับ
***
ก่อนเริ่ม เช่นเดิมนะครับ รีวิว นี้ ผมจะ “ไม่แต่งภาพ” แม้แต่ภาพเดียว นั่นคือ ภาพทุกภาพ เป็นภาพที่ถ่ายจากมือถือมา แล้วลงเลย
ดังนั้น จะได้ฟิลที่แบบ ของจริง สวยก็สวยจริง ไม่สวยก็ตามนั้นแหละ ไม่ต้องมา ขิง มาเมค ให้คนอยากไปเที่ยวครับ ....
ดีก็ชม ไม่ดีก็ด่า .... การไปเที่ยวเมืองนอกไม่จำเป็นว่า ทุกอย่างต้องดีเสมอไป ....
ถ้าท่านไม่เคยอ่าน รีวิวท่องเที่ยวแบบ เรียลๆ แล้วล่ะก็ ขอฝากผลงานการเขียนของผมหน่อยครับ
https://ppantip.com/topic/38908007
กดที่ลิงค์นี้ จะได้ผลงานเขียนเก่าๆ ทั้งหมดเลยนะครับ มีหลายประเทศ เลย
.
-- ไปเริ่มรีวิวกันเถอะ --
******** การใช้อินเตอร์เน็ต **********
รอบนี้ ผมใช้หลายแบบมากๆ นั่นคือ ซื้อ ซิมของ True แบบ โปร 1 แถม 1 ราคา 899 บาท ได้สองอัน
เป็นโปรออนไลน์เท่านั้น
กับ Ais Roaming ที่ไม่ต้องเปลี่ยนซิมเลย แค่กดสมัครตามภาพ **
ข้อดี ของ การใช้โรมมิ่งคือ เราจะได้รับ Message (ข้อความ) ซึ่งรับฟรี นั่นทำให้คุณสามารถใช้แอพธนาคารทุกแอพ หรือ อะไรก็ตามที่ต้องใช้ OTP ในมือถือ เพื่อทำธุรกรรมที่เมืองไทย ได้เสมอ .... ข้อเสียก็คือ แพงกว่า ซิม 1 แถม 1 ของทรู
ส่วนการใช้งาน ในต่างประเทศนั้น สัญญาณของทั้งสองค่าย สูสีกันครับ ..... มีช่วงจังหว่ะ ที่ต้องขับรถขึ้นภูเขา และที่อับสัญญาณ AIS จะยังพอมีสัญญาณอยู่บ้าง ส่วน TRUE สัญญาณหายไปเลย
สรุปสั้นๆ ถ้าไปนอร์เวย์ แล้วท่านจะซื้อซิมทูฟลาย ผมให้ ais ชนะครับ
.
ปล. เผื่อท่านใดไม่ทราบนะครับ ... ถ้าท่านไปญี่ปุ่น แล้วซื้อซิมต่างประเทศ ท่านต้องซื้อซิม ของทรู
เพราะที่ดิสนีย์ซี ถ้าใช้ ais จะไม่มีสัญญาณ ส่วนทรู สัญญาณ เต็ม .... คือแต่ละสถานที่ แต่ละซิมจะแตกต่างกันนะครับ
****
.
การแพลนทริป ... ขอ บ่น หน่อยนะครับว่า ตั้งแต่ผมเที่ยวมา .... ทริปนี้ เป็นการแพลนทริปที่ยากที่สุดตั้งแต่เคยเที่ยวมาในชีวิต
เริ่มจากตั๋วเครื่องบิน ที่เราซื้อ "การบินไทย กทม - ออสโล ... และขากลับ กลับจาก Stockholme - กทม ... ในราคาไปกลับ 22000 บาท"
ทำไมถึงซื้อแบบนี้ ...
ข้อแรกเลยคือ ตั๋วราคาไม่แพง ....
ข้อสองคือ ออสโล จากที่อ่านรีวิว ส่วนใหญ่จะบอกว่า เที่ยวสองวันก็หมดแล้ว แต่ผมเหลือเวลา สี่วัน และตั๋วจาก ออสโล บินไปสต็อคโฮม ตั๋วถูก เราแพลนไปดูแสงเหนือ 7 คืนติดแล้ว เลยอยากจะจบทริปแบบแสงสีเสียงนิดนึง
.
ด้วยการที่นอร์เวย์ เป็นประเทศที่ "ยาว" คือ Oslo เมืองที่เราบินลง อยู่ข้างล่าง ของตัวประเทศ แต่ Tromso หรือ Svolvnaer (Lofoten) อยู่ข้างบน ของประเทศ ทำให้ จะต้องแพลนการเดินทางระหว่างเมืองให้ดี
ตอนแรกอยากจะไป Fjord ซึ่งหลายคนให้เป็น สถานที่ท่องเที่ยวอันดับ1 ของนอร์เวย์เลย แต่ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง ทำให้เรา "อดไป" เทือกเขาที่ชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของประเทศ
.
.
Day 1
เดินทางจาก เชียงราย – กทม – ออสโล – Tromso
รับรถ ซื้อของ และเข้าที่พัก รอถ่ายแสงเหนือ
.
.
จากเชียงรายเลยนะครับ บินแบบ เช็คทรู เพราะบินไทยสมาย โคกับ การบินไทย ได้ จึงทำให้เราไม่ต้องไปเช็คอินที่สุวรรณภูมิอีกครั้ง บินไปถึง กรุงเทพ นัดเจอ แอล น้องสาวอุ้ม (ภรรยา จขกท.) ข้างในเกทเลย .... เครื่องดีเลย์ 1 ชั่วโมง -*-
แอลกับอุ้มจึงนัดกันไปเดินช้อปปิ้ง ส่วน สี่คนที่เหลือ ไปหาผับนั่งกินเบียร์รอกันครับ … เบียร์สดในสนามบิน ไพน์ละ สองร้อยกว่า ราคามหาโหด แต่ก็อยากดื่ม สั่งมา โคตรอร่อย ก็หวดกันไปคนละสองแก้วใหญ่ จนใกล้เรียกขึ้นเครื่อง ก็เดินไปขึ้นเครื่องเลย กึ่มๆ
พอขึ้นเครื่องก็ปาเข้าไปตีหนึ่งกว่า ความสบายที่สุดคือ เครื่องไม่เต็ม เพราะข่าวโควิดก็เริ่มมีมาบ้างแล้ว .. ก็นั่งแบบไม่ต้องเบียดกับใคร ขึ้นเครื่องกินยานอนหลับ เปิดหนัง ซักพักก็ผ่านไป 6-7 ชั่วโมงละ นั่งๆ ดูหนังแว๊บเดียว ก็ 11 ชั่วโมง ถึง ออสโล
.
ถึงสนามบิน ผ่าน ตม. อย่างง่ายดาย รับเป๋า กินขนมปังกาแฟ เล็กๆน้อยๆ
รอขึ้นเครื่อง ไปลง Tromso .... คนที่นี่ อ่านกันว่า “ทรุมเซอร์” นะครับ
.
พอเครื่องใกล้จะลง คือบอกได้คำเดียวว่า "แม่จ้าว"
คือมันสวยตั้งแต่เครื่องยังไม่แลนดิ้งเลย ...
เข้าห้องน้ำสนามบิน มันมีหน้าต่างส่องความสวยงามออกไปข้างนอกเลย แบบ ภูเขา และหิมะ ขาวโพลน
รับกระเป๋าเสร็จ เราก็เดินไปที่ Avis เพื่อรับรถ ...
ตอนแรกเช่ารถตู้ไว้คันเดียว สำหรับ 6 คน แต่โดนบริษัทรถแคนเซิล ทำให้สุดท้ายเราต้องเช่าสองคัน เราไม่เลือกรถเล็กเพราะคิดว่า ขับลุยหิมะ น่าจะใช้รถดีหน่อย ตอนแรกผมได้ Volk รุ่นอะไรซักอย่าง แต่ไม่มี GPS ในตัว และยางก็แบน ผมก็เดินไปให้เค้าจัดการให้ ไปๆมาๆ … เค้าเลือกที่จะอัพเกรดเป็น รถพรีเมี่ยมให้เฉย... และก็ได้ วอลโว่ รุ่น V90 สุดหรูมาขับแทน … เบาะมีฮีทเตอร์อุ่นตูดด้วย ^^
.
พอรับรถเสร็จ เราตัดสินใจขับไปในเมืองเพื่อตุนเสบียงก่อนเลย ..... ใกล้ๆ ซุปเปอร์มาร์เก็ตมีห้าง ซึ่งทุกคนหิวพอดี
เราจึงเข้าห้าง และกินซูชิ เป็นอาหารมื้อแรก ในนอร์เวย์ ...
อีซูชินี่ เจ๋งดี จะเป็นสายพาน แล้วใส่จานเป็นสีสีมา แต่ละสี ก็มีราคาบอกเลยว่า จานละเท่าไหร่ ใครอยากกินหรูกินถูกก็เลือกกันเอง จ่ายกันเอง เงินใครเงินมัน..
กินเสร็จก็เข้าซุปเปอร์ ซื้อของที่จะเอาไว้ทำอาหารคืนนี้ และตุนเบียร์
… เบียร์ที่นี่ เท่าที่หาได้ถูกที่สุดคือ การซื้อกระป๋องยาวทีละ 6 กระป๋อง ตกกระป๋องละ ประมาณ 90 บาท
(ถือว่า เป็นประเทศที่เบียร์แพงที่สุด ตั้งแต่ผมเที่ยวต่างประเทศมาเลยครับ แพงเป็นอันดับ1 )
.
อากาศตอนนี้ ก็ประมาณ -2 องศา มีหิมะเต็มไปหมด
ภาพนี้แวะถ่ายภาพข้างทางนะครับ
เราใช้เวลาขับรถประมาณ เกือบสองชั่วโมง เพื่อออกจากตัวเมือง Tromso ไปนอนสถานที่ล่าแสงเหนือ (คือจะมืดกว่า และไม่ต้องขับรถมองหาแสงเหนือเลย คือสามารถเห็นแสงเหนือได้จากที่พัก) ...
ในแผนที่ ก็คือ อยู่ด้านขวาของ Tromso … จะอยู่ระหว่าง Koppangen กับ Lyngseidet (ถ้าgoogle map ดูอ่ะนะครับ)
ก่อนจะถึงที่พัก ต้องขึ้น เรือข้ามฟาก โดยขับรถขึ้นไปเลย ตื่นเต้นดีครับ ....
พอถึงที่พัก เราก็เปิดเอากุญแจใน box ซึ่งทาง host เค้าส่งอีเมล์พาสเวิร์ดมาให้แล้ว
(คือที่นี่ เค้าจะไม่มาเฝ้า ไม่มาแม้แต่เจอตัวกันเลย)
พอได้กุญแจแล้ว ก็เปิดเข้าบ้านไปเลย
บ้าน…ที่นี่ถือว่าดีมาก ครัวใหญ่ ห้องนั่งเล่นใหญ่ มีระเบียง .... มีสามห้องนอน ..มีเตาผิง มีฮีตเตอร์...
ส่วนตัวผมมานอนห้องนั่งเล่น ให้เฮง นอนเดี่ยวสบายๆ สลับกันเป็นที่ที่... ตัวผมนอนไหนก็ได้เพราะผมกะจะเมาหลับเลย
.
มื้อเย็นคืนแรก ต้มมาม่า ที่เอามาจากไทยกินกัน
พอกินเสร็จ ก็เริ่มเข้าแอพ Aurora และแอพที่เช็คแสงเหนือ ….. วันนี้ มีหิมะตก ท้องฟ้าอากาศแย่มาก จากพยากรณ์คิดว่าคงจะไม่เห็นอะไรเลย
เพราะมีพายุหิมะเข้า .. จากนั้นก็นั่งจุดไฟจากเตาผิงกัน และนั่งดื่มเบียร์ไปชิลๆ จบวันแรกแบบเหนื่อยสุดๆ
ไม่ได้ปาร์ตี้ ไม่ได้เมาอะไรมาก
.
จบ Day 1
ตั้งแต่ Day 2 เป็นต้นไป จะทยอยอัพในคอมเม้นเรื่อยๆ นะครับ
ขอเชิญติดตามชมต่อได้เลย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้