คิดถึงกันมั้ยจ๊ะ ไม่ได้เขียนมาสักพักแล้ว เพิ่งได้ฤกษ์ขุดเอาทริปเก่ามาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง ทริปนี้คือที่สุด เป็นประสบการณ์อำล้ำค่าที่จะมาบอกเล่าว่าไม่ว่าเราจะเตรียมตัวดีเท่าใด แต่มันก็ยังมีคำว่าแต่……. เข้ามาขัดจังหวะความราบลื่นของแผนการเดิน รวมถึงอุปสรรคต่าง ๆ ที่ถาโถมเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว แต่ความสุขของการเดินทาง บางทีไม่ใช่การไปทุกที่ที่เราตั้งเป้าตั้งแต่แรก เราต้องรู้จักปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ที่มันเกิดขึ้นแล้วให้ได้ ความสุขเกิดขึ้นได้ระหว่างทาง มองทุกอย่างในมุมบวก แล้วมันจะสนุกเอง
อ่ะ!! มาถึงตรงนี้ เพื่อนๆ ต้องอยากรู้แน่ ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับแอร์ จะเฉลยเลยก็ไม่สนุกเนอะ ตามมาอ่านกันได้เลยจ้า
ทริปนี้เป็นการเดินทางที่เราโดยเป้าหมายหลักคือการตามล่าหาแสงเหนือที่ไอซ์แลนด์ แต่ชนเผ่าไทยอย่างเราไม่สามารถที่จะบินตรงไปไอซ์แลนด์ได้ ดังนั้นเราก็ต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่ไหนสักแห่งก่อน ซึ่งการเดินทางครั้งนี้เปลี่ยนเครื่องหลายครั้ง และใช้สายการบินตลอดทริปสิ้นเปลืองมาก โดยเราก็เน้นเรื่องราคา และเวลาเป็นสำคัญค่ะ ประเทศที่เราเลือกเป็นจุดหมายก่อนที่จะไปแตะไอซ์แลนด์คือนอร์เวย์ โดยเราจะใช้ 2 สายการบิน (Air Asia และ Qatar) และรอเปลี่ยนเครื่องที่สนามบิน 2 ครั้ง (Kuala Lumpur International Airport และ Hamad International Airport) เพื่อไปให้ถึงออสโล โดยตั๋วที่ซื้อออกจากกัวลาลัมเปอร์ - ออสโล จะถูกกว่าซื้อจากกรุงเทพฯ – ออสโล แม้ว่าเราจะบวกราคาของตั๋ว กรุงเทพฯ – กัวลาลัมเปอร์แล้วก็ยังถูกกว่า ซึ่งการจองตั๋ว และการวางแผนเที่ยวนานประมาณ 6 เดือน เราจะได้ตั๋วราคาดีเข้าไปอีก คือที่สุดของแจ้
ตามแผนเดิมคือไปถึงออสโลแล้ว ไม่ได้กะว่าจะอยู่ค้างคืนที่ออสโลเลยค่ะ คือมีต่อเครื่องไปไอซ์แลนด์เลย โดยมีระยะเวลาห่างกันประมาณ 2.5 ชั่วโมง โดยต่อไปกับ Iceland Air
ถ้าตามแผนก็คือจบสวยงาม ง่ายและไม่มีอะไรมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง มีเพียงภาพสวยๆ มาอวด แต่ยังไม่ทันได้เริ่มเที่ยวปัญหาระลอกแรกก็เข้ามาแล้วจ้า
Tsunami no.1
เมื่อเวลาเราจองตั๋วนาน บางทีความเปลี่ยนแปลงของสายการบินก็เกิดขึ้นได้ และมันเกิดกับอิชั้นค่ะเพื่อนๆ
ถ้าใครไม่อยากรู้เรื่องตรงนี้ไม่ต้องกดดูได้เลยจ้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ทาง Qatar มีการเปลี่ยนเวลาโดยไปถึงช้ากว่าเดิม ซึ่งทำให้มีเวลาต่อเครื่องแค่ 30 นาที คือไม่ทันอยู่แล้วเพื่อนๆ และรวมเวลาการปรับเวลาของเค้าก็ไม่ถึงข้อกำหนดของประกันการเดินทางที่จะสามารถเรียกร้องอะไรได้ ซึ่งเราไม่อยากให้ไปกระทบแผนที่จองรถขับที่ไอซ์แลนด์ และที่สำคัญมากๆ นั่งคือช่วงเวลาที่เราวางแผนไว้เพราะมันเกี่ยวกับช่วงพระจันทร์ข้างแรม ซึ่งเรามีโอกาสจะเจอแสงเหนือที่สุด ดังนั้นเลยมีการเจรจากับสายการบินว่าต้องการเปลี่ยนไฟล์ให้เร็วขึ้นเพราะเหตุผลการกระทบกับไฟล์ต่อเนื่องจากทาง Qatar
ซึ่งแอร์โทรหาสำนักงานของสายการบินโดยตรงที่เมืองไทย และได้เรื่องว่าแอร์ไม่สามารถติดต่อทางสายการบินได้ตรงค่ะ ต้องติดต่อ Agent ที่แอร์ซื้อตั๋วและให้เค้าประสานงานให้ อ่ะแอร์ก็ทำตาม แต่ทาง Agent ก็ปัดค่ะบอกว่าติดต่อสายการบินได้เลยเพราะส่วนที่เปลี่ยนเวลาคือสายการบิน ไม่ใช่ทางฝ่าย Agent
แอร์ก็แจ้งว่าแอร์ติอต่อแล้ว แต่ทางสายการบินให้ติดต่อมาช่องทางที่แอร์ซื้อตั๋วว่าต้องการเปลี่ยน แต่ทาง Agent ก็ยังยืนยันว่ายังไงก็ต้องไปติดต่อที่สายการบิน อ่ะหายใจลึกๆ โทรไปขอความช่วยเหลือทางสายการบินดูอีกที เจ้าหน้าที่ของสายการบินที่เมืองไทยน่ารักมากนะคะ ช่วยเหลืออย่างดี พูดจาดีมาก คือเค้าบอกว่าเนื่องจากแอร์ไม่ได้จองตรงกับสายการบิน ดังนั้นฝั่งเค้าเลยไม่สามารถที่จะอนุมัติการเปลี่ยนไฟล์แบบไม่เสียเงินให้ได้ทันที แนะนำให้แอร์ลองอีเมลแจ้งรายละเอียดเข้าไปทางระบบของ Qatar ดูก่อน
แอร์ก็ทำตามคำแนะนำค่ะ ก็อีเมลกันไป-มา นานอยู่พอดู ส่งเอกสารให้เค้าพิจารณาด้วย แต่สุดท้ายคือไม่เค้าก็ไม่สามารถเลื่อนไฟล์ให้ได้แบบไม่เสียเงินค่ะ เพราะเหตุผลเดียวคือเราจองผ่าน Agent ก็ต้องเสียส่วนต่างในการเปลี่ยนตั๋ว เป็นเงิน 7,485 บาท แถมแอร์ต้องซื้อตั๋วใหม่จาก กรุงเทพฯ – กัวลาลัมเปอร์ อีกในราคา 1,460 บาท อีก โดยขอเงินคืนค่าภาษีสนามบินของตั๋วเดิมที่ออกจากเมืองไทยไปกัวลาลัมเปอร์ เพราะแบบนี้จะถูกว่าขอเปลี่ยนวันของตั๋วของเดิม
ยังไม่หมดเท่านั้นนะเพื่อนๆ เมื่อเราตัดสินใจเปลี่ยนวันเดินทางล่ะ ทางเจ้าหน้าที่แสนดีของสายการบิน Qatar ก็แจ้งแอร์ว่าตั๋วขากลับของแอร์จากออสโล-โดฮา-กรุงเทพฯ แล้วจะมีเครื่องต่อไปภูเก็ต โดยสายการบิน Bangkok Airways นะคะ
แอร์ก็แปลกใจทำไมเค้าถึงพูดกับแอร์ แอร์ก็เลยบอกว่าใช่ค่ะ แต่แอร์จะลงที่สุวรรณภูมิเลย ไม่ได้ไปต่อค่ะ
ซึ่งเจ้าหน้าที่แสนดีเค้าก็แจ้งว่าปกติกระเป๋าจะส่งต่อไปเลยคะ แม้จะเปลี่ยนสายการบิน แอร์ก็อ้าววววววววววววววววววววววว
ซึ่งก่อนจองแอร์โทรหาเจ้าหน้าที่ของบริษัทที่แอร์ซื้อตั๋วแล้วค่ะ ซึ่งแจ้งแอร์ว่าถ้าเราไม่ไปก็แจ้งเจ้าหน้าที่ทางสายการบินต้นทางช่วงเช็คกระเป๋าได้เลยว่าขอกระเป๋าลงที่สุวรรณภูมิ แต่เรื่องจริงไม่ใช่นิยายสินะ นี่ต้องลางานเพิ่มแล้ว แล้วยังต้องไปเที่ยวภูเก็ตแบบไม่เต็มใจอีกเหรอ ม่ายยยยยนะ คือเจ้าหน้าที่แสนดีแจ้งว่า มันไม่ใช่ค่ะคุณแอร์ ซึ่งแล้วแต่การพิจารณาของเจ้าหน้าที่ประจำของสายการบินที่ออสโลเลยค่ะว่าเค้าจะออกแท๊กกระเป๋าเราให้มาลงที่กรุงเทพฯ หรือเปล่า ซึ่งถ้าตามปกติเค้าจะออกไปจนถึงภูเก็ตเลย ซึ่งฝั่งไทยเค้าก็ช่วยสุดคือเท่านี้แล้ว แอร์ก็เอาว่ะลองไปคุยหน้างานดู………. สุดท้ายพนักงาน Qatar ฝั่งออสโลไม่ให้จริงๆ ค่ะ แต่เราแก้ปัญหาอย่างนี้ค่ะ คือเราแจ้งเจ้าหน้าที่ของสายการบิน Bangkok Airways ว่าขอรับกระเป๋าที่สุวรรณภูมิตอนช่วงต่อเครื่อง ซึ่งสามารถทำได้ค่ะ โดยใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมง ในการรอกระเป๋า
ถือได้ว่าเป็นมหกรรมที่ถาโถมตั้งแต่แรกทีเดียว และระถึกจนจบทริปเลยค่ะ
ข้อแนะนำ
หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ แอร์ไม่เคยจองผ่านบริษัทขายตั๋วอีกเลยค่ะ คือจองตรงเท่านั้นแม้ว่า Agent จะมีราคาที่ถูกกว่าหน่อยนึง แต่พอมาคำนึงถึงความปวดหัวที่ตามมา ไม่คุ้มกันจริงๆ แถมปัดการคุยกันไป-มา ต้องหายใจลึกๆ นับ 1-100 หลายครั้งเลยคะ
ต้องเช็คข้อมูลทุกอย่างกับสายการบินโดยตรง อย่าไปเชื่อใครค่ะ เพราะถึงเวลาเรามีปัญหา เค้าไม่มารับรู้ใดๆ
เผื่อเวลาไฟล์ที่ต่อกันมากกว่า 3 ชั่วโมงขึ้นไป ยิ่งถ้าทริปที่เราจองมีราคา มีความสำคัญ ยิ่งต้องเผื่อนานกว่านั้นเพราะบางที เราไม่รู้ว่าสภาพอากาศช่วงหน้าหนาวเป็นยังไง ทุกอย่างมันกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงไปหมด
แผนการเดินทาง 18 February – 5 March 2017
Day 1: Bangkok (Thailand) - Kuala Lumpur (Malaysia) – Doha (Qatar)
Day 2: Doha (Qatar) – Oslo (Norway)
Day 3: Oslo (Norway)
Day 4: Oslo (Norway)
Day 5: Oslo (Norway) - Reykjavík (Iceland)
Day 6: South Iceland
Day 7: South Iceland
Day 8: South – East Iceland
Day 9: East Iceland
Day 10: Northeast Iceland
Day 11: Northeast Iceland
Day 12: Northwest - West Iceland
Day 13: West Iceland - Reykjavík – Grindavik
Day 14: Grindavik – Keflavik (Iceland) – Oslo (Norway)
Day 15: Oslo (Norway) – Doha (Qatar)
Day 16: Bangkok (Thailand)
====== G E T R E A D Y ======
1. ล่อลวงคนมาร่วมทริป
เนื่องจากเรามีการวางแผนจะเช่ารถบ้าน แบบไม่มีห้องน้ำในรถนะคะ ดังนั้นเมื่อดูราคารถแล้ว หาคนหารด่วนค่ะ ดังนั้นก็เริ่มปฏิบัติติการล่อลวงเพื่อนตัวเองมาร่วมขบวนการ และให้สามีไปล่องลวงเพื่อนตัวเองมาอีก 1 คน รวมเป็น 4 คนซึ่งกำลังดี
2. วางแผนต่างๆ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
เพราะว่าราคาอาหารทั้งนอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ ก็ไม่ใช่เล่น ดังนั้นเลยคิดว่าจะนำอาหารจากเมืองไทยไปด้วย เพื่อลดค่าให้จ่ายอาหารบางส่วน และเพื่อที่เราไม่ต้องคอยกังวลเรื่องหาอาหาร เพราะบางทีเผื่อหิวแต่ยังไม่ถึงอีกเมือง เราก็สามารหาวิวดีๆ แล้วอุ่นกับข้าวทานได้เลยค่ะ กองทัพต้องเดินด้วยท้องอะเนอะ
แต่การเตรียมอาหารเอาไปต่างประเทศ เพื่อนๆ ต้องเลือกที่มีฉลากอธิบายวัตถุดิบเป็นภาษาอังกฤษ และต้องเลือกแพจเกจที่ดี ไม่ขาดแตกง่าย
3. เตรียมกระเป๋า
เนื่องจากทริปนี้แอร์ไม่ได้ลากกระเป๋าล้อเลื่อนสวยๆ ไปค่ะ นั่นเพราะเวลาส่วนใหญ่เราจะนอนในรถบ้าน ซึ่งทำให้เราต้องใช้กระเป๋าแบบ backpack ซึ่งเพื่อนๆ ต้องคำนวณความจุให้เพียงพอกับปริมาณของ และอาหารที่เราต้องเอาไป รวมถึงเช็คน้ำหนักกระเป๋าของแต่ละสายการบินด้วยนะคะ ว่าแต่ละสายการบินให้น้ำหนักเท่าไร
4. เตรียมเสื้อผ้า
เน้นความอบอุ่นของร่างกายเข้าไว้ค่ะ ที่สำคัญต้องบาง เบา ทำให้ประหยัดเนื้อที่ในกระเป๋าเราด้วย พวกกางเกง และเสื้อกันน้ำ กันลมแบบที่ใช้เล่นสกีก็ได้อยู่ สำคัญมากเพราะถ้าอุณหภูมิ -10 แต่ถ้ายิ่งมีลม เราจะรู้สึกหนาวกว่านั้น อีกอย่างที่จะลืมไม่ได้เลยคือหมวก ผ้าพันคอที่กันความเย็นบริเวรณคอ และศีรษะ รวมถึงถุงเท้าซึ่งทำให้เราอยู่ข้างนอกรอถ่ายรูปได้นาน แต่ถ้าเพื่อนๆ มีแผนไปไอซ์แลนด์ต่อเหมือนแอร์ อย่าลืมแว่นกันแดด ครีมกันแดด และชุดว่ายน้ำให้พร้อม เพราะเราสามารถไปแช่น้ำแร่สวยๆ ได้ด้วยจ้า
5. เตรียมเรื่องการแลกเงิน และการใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศ
เราต้องมีใช้เงิน 3 สกุลหลักๆ คือ MYR (Malaysian Ringgit), NOK (Norwegian Krone), ISK (Icelandic Króna)
ดังนั้นแอร์จะแลกสกุลเงินหลักคือ EUR (Euro) แล้วเอาไปใช้แต่ละประเทศ
นอกจากนั้นเราต้องเตรียมรหัส Pin สำหรับการใช้บัตรเครดิตที่ต่างประเทศเอาไว้ด้วยค่ะ ซึ่งอาจจะเป็นแบบ 4 หรือ 6 ตัวเลข
6. เตรียมอุปกรณ์กล้อง
ในการถ่ายรูปแบบเหนือ สิ่งที่สำคัญคือกล้องที่สามารถทำงานได้ในอุณหภูมิต่ำๆ เตรียมไว้สัก -10 เลยค่ะ แบตเตอรี่สำรอง เอาไปหลายๆ ก้อนเลยเพื่อนๆ ขาตั้งกล้อง และพวก power bank
7. เตรียมยา และของจำเป็นอื่นๆ
ยาประจำตัวของเพื่อนๆ ยาแก้ปวด ยาอมแก้เจ็บคอ ยาแกแพ้ นอกจากนั้นพวกถุงผ้าก็อย่าลืมเอาไปนะจ๊ะ เอาไว้ไปช้อปปิ้งที่ซุปเปอร์มาร์เก๊ต และกุญแจเอาไว้ล๊อกกระเป๋า backpack ของเรา
แม้ว่าจะเดินทางมาตลอดตั้งแต่ช่วงเรียนจบ และก็อับเวลขึ้นเรื่อยๆ แต่การออกเดินทางทุกครั้งก็จะตื่นเต้นเพราะเราได้ออกไปประเทศใหม่ๆ หรือบางทีประเทศเดิมแต่ต่างเมือง ก็จะแอบนอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิทบ้าง ก็นะ มันก็ตื่นเต้นว่าเราจะเจออะไรบ้าง
[CR] Winter in Norway (Dear Oslo)
อ่ะ!! มาถึงตรงนี้ เพื่อนๆ ต้องอยากรู้แน่ ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับแอร์ จะเฉลยเลยก็ไม่สนุกเนอะ ตามมาอ่านกันได้เลยจ้า
ทริปนี้เป็นการเดินทางที่เราโดยเป้าหมายหลักคือการตามล่าหาแสงเหนือที่ไอซ์แลนด์ แต่ชนเผ่าไทยอย่างเราไม่สามารถที่จะบินตรงไปไอซ์แลนด์ได้ ดังนั้นเราก็ต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่ไหนสักแห่งก่อน ซึ่งการเดินทางครั้งนี้เปลี่ยนเครื่องหลายครั้ง และใช้สายการบินตลอดทริปสิ้นเปลืองมาก โดยเราก็เน้นเรื่องราคา และเวลาเป็นสำคัญค่ะ ประเทศที่เราเลือกเป็นจุดหมายก่อนที่จะไปแตะไอซ์แลนด์คือนอร์เวย์ โดยเราจะใช้ 2 สายการบิน (Air Asia และ Qatar) และรอเปลี่ยนเครื่องที่สนามบิน 2 ครั้ง (Kuala Lumpur International Airport และ Hamad International Airport) เพื่อไปให้ถึงออสโล โดยตั๋วที่ซื้อออกจากกัวลาลัมเปอร์ - ออสโล จะถูกกว่าซื้อจากกรุงเทพฯ – ออสโล แม้ว่าเราจะบวกราคาของตั๋ว กรุงเทพฯ – กัวลาลัมเปอร์แล้วก็ยังถูกกว่า ซึ่งการจองตั๋ว และการวางแผนเที่ยวนานประมาณ 6 เดือน เราจะได้ตั๋วราคาดีเข้าไปอีก คือที่สุดของแจ้
ตามแผนเดิมคือไปถึงออสโลแล้ว ไม่ได้กะว่าจะอยู่ค้างคืนที่ออสโลเลยค่ะ คือมีต่อเครื่องไปไอซ์แลนด์เลย โดยมีระยะเวลาห่างกันประมาณ 2.5 ชั่วโมง โดยต่อไปกับ Iceland Air
ถ้าตามแผนก็คือจบสวยงาม ง่ายและไม่มีอะไรมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง มีเพียงภาพสวยๆ มาอวด แต่ยังไม่ทันได้เริ่มเที่ยวปัญหาระลอกแรกก็เข้ามาแล้วจ้า
Tsunami no.1
เมื่อเวลาเราจองตั๋วนาน บางทีความเปลี่ยนแปลงของสายการบินก็เกิดขึ้นได้ และมันเกิดกับอิชั้นค่ะเพื่อนๆ
ถ้าใครไม่อยากรู้เรื่องตรงนี้ไม่ต้องกดดูได้เลยจ้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ข้อแนะนำ
หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ แอร์ไม่เคยจองผ่านบริษัทขายตั๋วอีกเลยค่ะ คือจองตรงเท่านั้นแม้ว่า Agent จะมีราคาที่ถูกกว่าหน่อยนึง แต่พอมาคำนึงถึงความปวดหัวที่ตามมา ไม่คุ้มกันจริงๆ แถมปัดการคุยกันไป-มา ต้องหายใจลึกๆ นับ 1-100 หลายครั้งเลยคะ
ต้องเช็คข้อมูลทุกอย่างกับสายการบินโดยตรง อย่าไปเชื่อใครค่ะ เพราะถึงเวลาเรามีปัญหา เค้าไม่มารับรู้ใดๆ
เผื่อเวลาไฟล์ที่ต่อกันมากกว่า 3 ชั่วโมงขึ้นไป ยิ่งถ้าทริปที่เราจองมีราคา มีความสำคัญ ยิ่งต้องเผื่อนานกว่านั้นเพราะบางที เราไม่รู้ว่าสภาพอากาศช่วงหน้าหนาวเป็นยังไง ทุกอย่างมันกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงไปหมด
แผนการเดินทาง 18 February – 5 March 2017
Day 1: Bangkok (Thailand) - Kuala Lumpur (Malaysia) – Doha (Qatar)
Day 2: Doha (Qatar) – Oslo (Norway)
Day 3: Oslo (Norway)
Day 4: Oslo (Norway)
Day 5: Oslo (Norway) - Reykjavík (Iceland)
Day 6: South Iceland
Day 7: South Iceland
Day 8: South – East Iceland
Day 9: East Iceland
Day 10: Northeast Iceland
Day 11: Northeast Iceland
Day 12: Northwest - West Iceland
Day 13: West Iceland - Reykjavík – Grindavik
Day 14: Grindavik – Keflavik (Iceland) – Oslo (Norway)
Day 15: Oslo (Norway) – Doha (Qatar)
Day 16: Bangkok (Thailand)
เนื่องจากเรามีการวางแผนจะเช่ารถบ้าน แบบไม่มีห้องน้ำในรถนะคะ ดังนั้นเมื่อดูราคารถแล้ว หาคนหารด่วนค่ะ ดังนั้นก็เริ่มปฏิบัติติการล่อลวงเพื่อนตัวเองมาร่วมขบวนการ และให้สามีไปล่องลวงเพื่อนตัวเองมาอีก 1 คน รวมเป็น 4 คนซึ่งกำลังดี
2. วางแผนต่างๆ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
เพราะว่าราคาอาหารทั้งนอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ ก็ไม่ใช่เล่น ดังนั้นเลยคิดว่าจะนำอาหารจากเมืองไทยไปด้วย เพื่อลดค่าให้จ่ายอาหารบางส่วน และเพื่อที่เราไม่ต้องคอยกังวลเรื่องหาอาหาร เพราะบางทีเผื่อหิวแต่ยังไม่ถึงอีกเมือง เราก็สามารหาวิวดีๆ แล้วอุ่นกับข้าวทานได้เลยค่ะ กองทัพต้องเดินด้วยท้องอะเนอะ
แต่การเตรียมอาหารเอาไปต่างประเทศ เพื่อนๆ ต้องเลือกที่มีฉลากอธิบายวัตถุดิบเป็นภาษาอังกฤษ และต้องเลือกแพจเกจที่ดี ไม่ขาดแตกง่าย
3. เตรียมกระเป๋า
เนื่องจากทริปนี้แอร์ไม่ได้ลากกระเป๋าล้อเลื่อนสวยๆ ไปค่ะ นั่นเพราะเวลาส่วนใหญ่เราจะนอนในรถบ้าน ซึ่งทำให้เราต้องใช้กระเป๋าแบบ backpack ซึ่งเพื่อนๆ ต้องคำนวณความจุให้เพียงพอกับปริมาณของ และอาหารที่เราต้องเอาไป รวมถึงเช็คน้ำหนักกระเป๋าของแต่ละสายการบินด้วยนะคะ ว่าแต่ละสายการบินให้น้ำหนักเท่าไร
4. เตรียมเสื้อผ้า
เน้นความอบอุ่นของร่างกายเข้าไว้ค่ะ ที่สำคัญต้องบาง เบา ทำให้ประหยัดเนื้อที่ในกระเป๋าเราด้วย พวกกางเกง และเสื้อกันน้ำ กันลมแบบที่ใช้เล่นสกีก็ได้อยู่ สำคัญมากเพราะถ้าอุณหภูมิ -10 แต่ถ้ายิ่งมีลม เราจะรู้สึกหนาวกว่านั้น อีกอย่างที่จะลืมไม่ได้เลยคือหมวก ผ้าพันคอที่กันความเย็นบริเวรณคอ และศีรษะ รวมถึงถุงเท้าซึ่งทำให้เราอยู่ข้างนอกรอถ่ายรูปได้นาน แต่ถ้าเพื่อนๆ มีแผนไปไอซ์แลนด์ต่อเหมือนแอร์ อย่าลืมแว่นกันแดด ครีมกันแดด และชุดว่ายน้ำให้พร้อม เพราะเราสามารถไปแช่น้ำแร่สวยๆ ได้ด้วยจ้า
5. เตรียมเรื่องการแลกเงิน และการใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศ
เราต้องมีใช้เงิน 3 สกุลหลักๆ คือ MYR (Malaysian Ringgit), NOK (Norwegian Krone), ISK (Icelandic Króna)
ดังนั้นแอร์จะแลกสกุลเงินหลักคือ EUR (Euro) แล้วเอาไปใช้แต่ละประเทศ
นอกจากนั้นเราต้องเตรียมรหัส Pin สำหรับการใช้บัตรเครดิตที่ต่างประเทศเอาไว้ด้วยค่ะ ซึ่งอาจจะเป็นแบบ 4 หรือ 6 ตัวเลข
6. เตรียมอุปกรณ์กล้อง
ในการถ่ายรูปแบบเหนือ สิ่งที่สำคัญคือกล้องที่สามารถทำงานได้ในอุณหภูมิต่ำๆ เตรียมไว้สัก -10 เลยค่ะ แบตเตอรี่สำรอง เอาไปหลายๆ ก้อนเลยเพื่อนๆ ขาตั้งกล้อง และพวก power bank
7. เตรียมยา และของจำเป็นอื่นๆ
ยาประจำตัวของเพื่อนๆ ยาแก้ปวด ยาอมแก้เจ็บคอ ยาแกแพ้ นอกจากนั้นพวกถุงผ้าก็อย่าลืมเอาไปนะจ๊ะ เอาไว้ไปช้อปปิ้งที่ซุปเปอร์มาร์เก๊ต และกุญแจเอาไว้ล๊อกกระเป๋า backpack ของเรา
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้