การหย่าระหว่างคุณลือกับคุณน้ำพิงค์ สำหรับรำนำแล้ว เรียกได้ว่าเป็นชัยชนะที่หอมหวานไม่น้อย อิรำคนนี้ด้อยกว่าทั้งฐานะ ทั้งรูปร่างหน้าตา และ การศึกษา แต่ก็ยังสามารถใช้เล่ห์ใช้กลหลอกล่อเอาคุณลือออกมาจากคุณน้ำพิงค์ผู้แสนดี รวย เก่ง และ ฉลาดจนได้ ในใจก็คาดหวังว่าคราวนี้แหละที่เจ้าตัวจะได้ลืมตาอ้าปากเสียที จากการต้องหลบซ่อนคราวนี้จะเป็นที่เปิดเผย จากฐานะต่ำต้อยจะได้เชิดชูเป็นคุณผู้หญิง อย่างที่เฝ้ามองเฝ้าเห็น และ อิจฉาอยู่ในใจมานานแสนนาน แต่กระนั้นอาจเป็นเพราะยังเยาว์อายุเกินไป ถึงเล่ห์กลเรือนกายที่ได้หลอกล่อจะคล่องมือ แต่ในความสัมพันธ์มันมีความซับซ้อนเสียยิ่งกว่านั้นโดยเฉพาะเรื่องของความต้องการและความรู้สึก
คุณลืออาจโหยหา หึงหวง เมื่อนึกถึงเพศรสที่อิ่มหนำบนเตียงนอน หากชีวิตของคนไม่ได้จบเพียงเรื่องบนเตียง หน้าตา นิสัย ฐานะทางสังคม เศรษฐกิจ อย่างน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า ไม่สิสำหรับลือ น่าจะเป็น "การพึ่งพา" มากกว่า คุณสมบัติเหล่านั้นในตัวน้ำพิงค์ทำให้ลือทั้งเสียใจ และ เสียดาย ด้วยความใจเร็วด่วนได้กอรปกับการพ่ายแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำและดำฤษณาของตัวเอง ที่พร่ำบอกอีกฝ่ายว่าเป็นความพลาดไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด ทั้งที่มันคือความตั้งใจปะปนด้วยการขาดความยับยั้งช่างใจจนล่วงสู่อำนาจฝ่ายต่ำให้ทุกทรมานทั้งกายและใจ
แล้วก็อีกนั่นแหละ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับรำนำ จะเรียกว่าความรักก็คงไม่ถูกนัก เมื่อความอาทรอ่อนไหวต่อความรู้สึกของอีกฝ่ายรำนำก็หามีไม่ น้ำตาและความเสียใจของคุณลือกลายเป็นความเบื่อหน่ายให้ต้องเบ้ปาก แต่กระนั้นก็ยังรู้สึกว่าคุณลือเป็นหลักเป็นร้านที่ต้องเกี่ยวเกาะเพื่อพาไปสู่ชีวิตใหม่ มิใยผู้เป็นแม่จะดุด่าตักเตือน ให้เจียมตัวเจียมตน อย่าหวังสูง อย่างน้อยก็ทำงานหาเงินมาช่วยเหลือคุณลือ เธอจะได้ไม่ทิ้งขว้างแล้วมันยังไง ทำไมการพาตัวเองไปสู่ชีวิตที่ดีกว่าคือการคิดเกินตัว หรือ คนอย่างพวกเรามันไม่มีสิทธิ ในเมื่อแม่ไม่ทำอะไรซักอย่าง รอรับเศษความเห็นใจแล้วแต่อีกฝ่ายจะโปรยทานลงมาก็แล้วแต่ รำนำคนนี้จะไม่ยอมสยบให้ผู้ใด แล้วเห็นหรือไม่ ด้วยวิธีการของตัวเอง คนด้อยกว่ายังเป็นผู้ชนะ ขอเพียงเป็นนักสู้ ขอเพียงไม่เลือกวิธีการ ต่อให้ยิ่งใหญ่ซักปานใดก็ล้มครืน
ไม่ทันข้ามวันดี รำนำก็ค้นพบความจริงทีความเยาว์วัยทำให้มองข้าม ผู้ชาย ... ไม่อาจะเป็นของใครโดยเด็ดขาดด้วยการยื้อแย่ง มันมีปัจจัยที่ 1 2 3 และ 4 อย่างที่ว่า ถ้าเช่นนั้นเธอต้องทำให้ผู้ชายมองเห็นคุณค่า อย่างไร และ แบบไหนกัน แม้จะเกลียดชังสักปานใดแต่รำนำก็ยังมองเห็นตัวอย่าง คุณน้ำพิงค์นี่อย่างไรที่คุณลือโหยหา เอาล่ะ รำนำตั้งมั่น ประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้บอกรำนำอย่างนั้น เสื้อผ้าราคาแพงจึงประดับบนตัว มันง่ายที่สุดตรงที่ภายนอกนี่แหละ แบบฝึกหัดบทที่ 1 ของรำนำได้ผ่านไป การเดินทางของเธอเริ่มต้น แล้วแบบฝึกหัดบทที่ 2 และ 3 กำลังตามมาเพื่อชักเชิดเธอไปสู่สนามชีวิตที่เข้มข้นแท้จริง
ยามได้อิสระมาน้ำพิงค์เองก็โหวงในใจอยู่ไม่น้อย ทั้งเสียดายและเสียใจ ไม่ใช่ตัวของลือที่ทำให้เป็นอย่างนั้น แต่เสียดายเวลาความไว้ใจ รวมทั้งความพังพินาศของชีวิตครอบครัวไม่อยากให้เป็นอย่างตอนเด็กที่เคยเป็นมา ต่อให้เป็นผู้หญิงที่เก่งและสวยเพียงใด แต่บาดแผลสดใหม่ก็พัดพาความมั่นใจให้หายไป และ ชักนำความเจ็บช้ำเข้ามา น้ำพิงค์ยังต้องการเวลาที่จะรักษาใจก่อนจะเริ่มต้นใหม่กับใครอีกครั้ง หรือ ไม่แน่อาจจะกล้าไม่เริ่มต้นใหม่กับใครเลยก็เป็นได้ เธอถ่ายทอดความคิดเหล่านี้ให้น้องชายคนสนิทรับฟังอย่างไว้ใจ
คิ้วคมขมวดมุ่นเล็กน้อย แววตาหม่นแสงลงนิดหน่อยก่อนให้ความเห็นสั้น ๆ ที่กินความยาว ผู้ชายคนเดียวไม่เห็นค่า ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะไม่เห็นค่า อีกครั้งที่เส้นสายบาง ๆ ที่กั้นกลางระหว่างอำพน และ น้ำพิงค์ได้ผุกร่อนลง เดิมทีอำพนคงตั้งใจจะพาตัวเองเข้าไปแบบเงียบเชียบอย่างน้ำที่ซึมบ่อทราย อีกฝ่ายไม่ได้เอะใจว่าเขารู้สึกอย่างไร แม้พี่สาวตัวดีจะเริ่มจับสังเกตได้ เมื่อปัญหาใหญ่ในชีวิตของพี่พิงค์ได้สิ้นสุดลง เขา ... ยังมีเวลาค่อยเป็นค่อยไป ค่อยสานต่อความรู้สึกที่มีในอกนี้ทีละเล็กทีละน้อย เขาชื่อมั่นอย่างที่พูดกับน้ำพิงค์นั่นแหละ ถ้าเป็นแฟนล่ะก็ผมทำมากกว่านี้อีก ถ้าทำจริงอย่าห้ามก็แล้วกัน แล้วเดี๋ยวพี่ก็รู้ว่าพี่เกี่ยวยังไง คำพูดเหล่านี้ คือ คำพูดของคนที่มั่นใจในตัวเอง แน่สิ เขารู้จักพี่พิงค์ดีกว่าใคร เขาต้องทำและทำได้แน่นอน
บาปบุญ บุญบาป เหตุการณ์ดูเหมือนไม่เป็นใจ ผู้ชายมันมองกันออก คุณลือจับสังเกตได้ว่าหนุ่มรุ่นน้องของอดีตภรรยาคิดไม่ซื่อมานานแล้ว ด้วยความเมามาย ความเสียดาย และ ความเห็นแก่ตัว ลือกล่าวโทษน้ำพิงค์ ว่าหันเหไปหาอำพนซึ่งเป็นถึงลูกชายรัฐมนตรี ดูเหมือนวันนี้จะหนักเกินไปสำหรับน้ำพิงค์ ลำพังถ้อยคำของลือก็ดุถุกน้ำใจของเธออยู่แล้ว ทั้งที่คนผิดคือเขาแต่ยังมาชี้หน้าว่าปาว ๆ ว่าเธอมีสัมพันธ์กับน้องชายคนสนิท และ ที่สำคัญความรู้ใหม่ในวันนี้ คือ เด็กชายอ้วนกลมในอดีตคนนั้นน่ะหรือ คนที่เธอนับว่าเป็นน้องไม่เคยมองเป็นอย่างอื่น กลับมีความคิดแบบนั้นกับเธอ แล้วเธอควรจะทำอย่างไร ทุกอย่างประเดประดังเข้ามาจนรับมือไม่ไหว
ผมรู้ว่าพี่ต้องการเวลา ชายหนุ่มกระซิบข้างหูหญิงสาวในอ้อมกอดที่แก่วัยกว่า
ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมกอดพี่ในฐานะน้องชาย
the thin red line เส้นแบ่งระหว่างเราขาดลงแล้วอย่างสมบูรณ์
เมื่อพี่ต้องการเวลา ผมก็จะให้เวลา
รอวันที่จะหวนกลับมาใหม่ สายตาของอำพนกล่าวต่อน้ำพิงค์เช่นนี้
กระเช้าสีดา (กึ่งรีวิว) : The thin red line
คุณลืออาจโหยหา หึงหวง เมื่อนึกถึงเพศรสที่อิ่มหนำบนเตียงนอน หากชีวิตของคนไม่ได้จบเพียงเรื่องบนเตียง หน้าตา นิสัย ฐานะทางสังคม เศรษฐกิจ อย่างน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า ไม่สิสำหรับลือ น่าจะเป็น "การพึ่งพา" มากกว่า คุณสมบัติเหล่านั้นในตัวน้ำพิงค์ทำให้ลือทั้งเสียใจ และ เสียดาย ด้วยความใจเร็วด่วนได้กอรปกับการพ่ายแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำและดำฤษณาของตัวเอง ที่พร่ำบอกอีกฝ่ายว่าเป็นความพลาดไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด ทั้งที่มันคือความตั้งใจปะปนด้วยการขาดความยับยั้งช่างใจจนล่วงสู่อำนาจฝ่ายต่ำให้ทุกทรมานทั้งกายและใจ
แล้วก็อีกนั่นแหละ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับรำนำ จะเรียกว่าความรักก็คงไม่ถูกนัก เมื่อความอาทรอ่อนไหวต่อความรู้สึกของอีกฝ่ายรำนำก็หามีไม่ น้ำตาและความเสียใจของคุณลือกลายเป็นความเบื่อหน่ายให้ต้องเบ้ปาก แต่กระนั้นก็ยังรู้สึกว่าคุณลือเป็นหลักเป็นร้านที่ต้องเกี่ยวเกาะเพื่อพาไปสู่ชีวิตใหม่ มิใยผู้เป็นแม่จะดุด่าตักเตือน ให้เจียมตัวเจียมตน อย่าหวังสูง อย่างน้อยก็ทำงานหาเงินมาช่วยเหลือคุณลือ เธอจะได้ไม่ทิ้งขว้างแล้วมันยังไง ทำไมการพาตัวเองไปสู่ชีวิตที่ดีกว่าคือการคิดเกินตัว หรือ คนอย่างพวกเรามันไม่มีสิทธิ ในเมื่อแม่ไม่ทำอะไรซักอย่าง รอรับเศษความเห็นใจแล้วแต่อีกฝ่ายจะโปรยทานลงมาก็แล้วแต่ รำนำคนนี้จะไม่ยอมสยบให้ผู้ใด แล้วเห็นหรือไม่ ด้วยวิธีการของตัวเอง คนด้อยกว่ายังเป็นผู้ชนะ ขอเพียงเป็นนักสู้ ขอเพียงไม่เลือกวิธีการ ต่อให้ยิ่งใหญ่ซักปานใดก็ล้มครืน
ไม่ทันข้ามวันดี รำนำก็ค้นพบความจริงทีความเยาว์วัยทำให้มองข้าม ผู้ชาย ... ไม่อาจะเป็นของใครโดยเด็ดขาดด้วยการยื้อแย่ง มันมีปัจจัยที่ 1 2 3 และ 4 อย่างที่ว่า ถ้าเช่นนั้นเธอต้องทำให้ผู้ชายมองเห็นคุณค่า อย่างไร และ แบบไหนกัน แม้จะเกลียดชังสักปานใดแต่รำนำก็ยังมองเห็นตัวอย่าง คุณน้ำพิงค์นี่อย่างไรที่คุณลือโหยหา เอาล่ะ รำนำตั้งมั่น ประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้บอกรำนำอย่างนั้น เสื้อผ้าราคาแพงจึงประดับบนตัว มันง่ายที่สุดตรงที่ภายนอกนี่แหละ แบบฝึกหัดบทที่ 1 ของรำนำได้ผ่านไป การเดินทางของเธอเริ่มต้น แล้วแบบฝึกหัดบทที่ 2 และ 3 กำลังตามมาเพื่อชักเชิดเธอไปสู่สนามชีวิตที่เข้มข้นแท้จริง
ยามได้อิสระมาน้ำพิงค์เองก็โหวงในใจอยู่ไม่น้อย ทั้งเสียดายและเสียใจ ไม่ใช่ตัวของลือที่ทำให้เป็นอย่างนั้น แต่เสียดายเวลาความไว้ใจ รวมทั้งความพังพินาศของชีวิตครอบครัวไม่อยากให้เป็นอย่างตอนเด็กที่เคยเป็นมา ต่อให้เป็นผู้หญิงที่เก่งและสวยเพียงใด แต่บาดแผลสดใหม่ก็พัดพาความมั่นใจให้หายไป และ ชักนำความเจ็บช้ำเข้ามา น้ำพิงค์ยังต้องการเวลาที่จะรักษาใจก่อนจะเริ่มต้นใหม่กับใครอีกครั้ง หรือ ไม่แน่อาจจะกล้าไม่เริ่มต้นใหม่กับใครเลยก็เป็นได้ เธอถ่ายทอดความคิดเหล่านี้ให้น้องชายคนสนิทรับฟังอย่างไว้ใจ
คิ้วคมขมวดมุ่นเล็กน้อย แววตาหม่นแสงลงนิดหน่อยก่อนให้ความเห็นสั้น ๆ ที่กินความยาว ผู้ชายคนเดียวไม่เห็นค่า ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะไม่เห็นค่า อีกครั้งที่เส้นสายบาง ๆ ที่กั้นกลางระหว่างอำพน และ น้ำพิงค์ได้ผุกร่อนลง เดิมทีอำพนคงตั้งใจจะพาตัวเองเข้าไปแบบเงียบเชียบอย่างน้ำที่ซึมบ่อทราย อีกฝ่ายไม่ได้เอะใจว่าเขารู้สึกอย่างไร แม้พี่สาวตัวดีจะเริ่มจับสังเกตได้ เมื่อปัญหาใหญ่ในชีวิตของพี่พิงค์ได้สิ้นสุดลง เขา ... ยังมีเวลาค่อยเป็นค่อยไป ค่อยสานต่อความรู้สึกที่มีในอกนี้ทีละเล็กทีละน้อย เขาชื่อมั่นอย่างที่พูดกับน้ำพิงค์นั่นแหละ ถ้าเป็นแฟนล่ะก็ผมทำมากกว่านี้อีก ถ้าทำจริงอย่าห้ามก็แล้วกัน แล้วเดี๋ยวพี่ก็รู้ว่าพี่เกี่ยวยังไง คำพูดเหล่านี้ คือ คำพูดของคนที่มั่นใจในตัวเอง แน่สิ เขารู้จักพี่พิงค์ดีกว่าใคร เขาต้องทำและทำได้แน่นอน
บาปบุญ บุญบาป เหตุการณ์ดูเหมือนไม่เป็นใจ ผู้ชายมันมองกันออก คุณลือจับสังเกตได้ว่าหนุ่มรุ่นน้องของอดีตภรรยาคิดไม่ซื่อมานานแล้ว ด้วยความเมามาย ความเสียดาย และ ความเห็นแก่ตัว ลือกล่าวโทษน้ำพิงค์ ว่าหันเหไปหาอำพนซึ่งเป็นถึงลูกชายรัฐมนตรี ดูเหมือนวันนี้จะหนักเกินไปสำหรับน้ำพิงค์ ลำพังถ้อยคำของลือก็ดุถุกน้ำใจของเธออยู่แล้ว ทั้งที่คนผิดคือเขาแต่ยังมาชี้หน้าว่าปาว ๆ ว่าเธอมีสัมพันธ์กับน้องชายคนสนิท และ ที่สำคัญความรู้ใหม่ในวันนี้ คือ เด็กชายอ้วนกลมในอดีตคนนั้นน่ะหรือ คนที่เธอนับว่าเป็นน้องไม่เคยมองเป็นอย่างอื่น กลับมีความคิดแบบนั้นกับเธอ แล้วเธอควรจะทำอย่างไร ทุกอย่างประเดประดังเข้ามาจนรับมือไม่ไหว