กระเช้าสีดา (กี่งรีวิว) : recap อำพน น้ำพิงค์ นิยายรักภาค 1

ดวงหน้าอันประกอบด้วยดวงตาคมคายและคิ้วเข้มอ่อนแสงลง ริมฝีปากแต่งเต้มด้วยรอยยิ้มเอื้อเอ็นดู ส่วนปากนั้นหรือ ก็ยังดำรงตนเป็นคน "ปากดี" อย่างไม่เสื่อมคลาย 8 ปีผ่านไป รูปลักษณ์ภายนอกของอำพนเปลี่ยนไปมาก ต่างจากเด็กชายตัวอ้วนกลมในครั้งก่อนไปไกล บัดนี้มีแต่ชายหนุ่มเต็มวัย ที่พร้อมด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และ ความรู้ หากส่วนที่คงเดิมนั้นยังอยู่ รอยยิ้มที่มีให้หญิงสาวคนหนึ่ง รอยยิ้มที่แตกต่างจากรอยยิ้มที่มีให้คนอื่น รอยยิ้มที่มีความรู้สึกหลากหลายทับถมแอบซ่อน หากมันก็ช้าไปเสียแล้ว สวนดอกไม้แสนงามมีคนจับจอง ก็ว่าไม่ได้นี่นะ น้ำพิงค์ พี่สาวคน "ไม่สวย" ของเขาคนนี้ ถึงพร้อมด้วยคุณสมบัติเพรียบพร้อม ดีงาม ใคร ๆ ก็คงหมายปองเป็นเจ้าของ ดังนั้นสิ่งที่คิดก็คงได้เพียงเท่านี้ ขีดขั้นทางศีลธรรมยังทำงานได้อย่างดี เอาล่ะ อย่างน้อย สวนดอกไม้สุดท้ายก็ยังมองเห็น และ ชื่นชมได้ด้วยตาถึงแม้จะแตะต้องไม่ได้เพราะมันไม่ถูกไม่ควรก็ตาม

แต่แล้วเมื่อ(แอบ)รับฟังเรื่องราวคำพูดระหว่างพี่สาวตัวเองกับเพื่อนสนิท ความสงสัยจุดขึ้นในใจ ผู้ชายคนนั้น คนที่เขาแอบยืนมองไกล ๆ ในวันงานแต่ง คนที่พี่พิงค์เลือกมาเป็นคู่ชีวิต ที่แท้แล้วเป็นเช่นไร อำพนเริ่มจากการพาตัวเข้าไป แล้วจับสังเกต พี่พิงค์รัก และ เชื่อใจคุณลือของเธอมาก พฤติกรรม และ คำพูดบอกอย่างนั้น แต่สัมพันธ์ระหว่างคุณลือ และ ผู้หญิงที่เรียกคุณลือว่าคุณอา ช่างแปลกประหลาด อำพนไม่ใช่คนโง่ ความรักของพี่พิงค์มีค่าเพียงพอที่เขาจะเข้าไปยุ่งเกี่ยว และ สืบเสาะพิสูจน์ รวมถึงตักเตือนให้ทุกอย่างอยู่ในร่องในรอย ถึงจะมีการฟาดวาจาแสบ ๆ คัน ๆ ใส่ลงไปบ้าง ตามประสาคนแอบมีใจแต่ทำอะไรไม่ได้เท่าที่คิดอยากทำ 

ในเบื้องต้นอำพนเจตนาก็มีเพียงอยากให้รู้ให้แน่ใจว่าเจ้าของสวนดอกไม้ดูแลไม้งามอย่างพี่พิงค์ได้รึไหม แล้วทำได้ดีรึเปล่า มันอาจจะได้ หรือ ไม่ได้ เจ้าตัวก็ไม่รู้เหมือนกันนั่นแหละว่าถ้าคำตอบมันออกมาเป็นไม่ใช่แล้วจะทำอะไรได้แค่ไหน หากเรื่องมันก็ร้ายแรงกว่าที่คาดคิด นอกจากไม่ดูแลแล้วยังปล่อยนกหนูเข้ามาเกาะกินไปเสียอีก ความอดทนอดกลั้นของเจ้าตัวแทบจะสิ้นสุดลงตรงนั้น ผู้หญิงอย่างพี่พิงค์นี่นะหรือ ถูกนอกใจ ความสัมพันธ์อาหลานแสนจะปลอมเปลือก ส่วนพี่พิงค์ของเขากลับต้องลำบากลบน และ ไม่รู้เรื่องรู้ราว แบกกุ้งหอยปูปลาฝ่าฝนมาเอาใจสามี โดยมีความลำพองใจของรำนำเป็นฉากหลัง ความคิดของอำพนวิ่งวนจะว่าทำอะไรได้บ้าง รตีพี่สาวของเขาอยากวิ่งเข้าไปกรีดหน้ารำนำให้รู้เรื่องรู้ราว อยากจะบอกกับเพื่อนสนิทให้รู้ชัดจัดแจ้ง แต่เขาไม่เห็นด้วย  อย่างแม่ของเขานั่นไงกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ไม่เคยจะชิน ไม่ชินจนกระทั่งพ้นทุกข์เมื่อตายจาก ไม่มีวันที่จะให้พี่พิงค์ต้องเจอเหตุการณ์อย่างนั้น แต่ก็จะไม่ยอมปล่อยให้เรื่องนี้เป็นความลับได้นานเช่นกัน 

การเอาตัวเข้าพันพัวของอำพนไม่นานก็ส่งผล ความกระฟัดกระเฟียดของลือช่างน่าสงสัย น้ำพิงค์เป็นผู้หญิงอ่อนหวาน แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ทันคน  แผนลวงอย่างการไปค้างบ้านแม่แล้วย้อนกลับมา ลูกไม้ตื้น ๆ นะว่าไป แต่ด้วยความที่น้ำพิงค์ไม่เคยแสดงความสงสัย ให้แต่ความเชื่อมั่นตลอดมา ลือจึงคลายใจว่าความลับคงจะเป็นความลับอย่างนี้เรื่อยไป ไม่ได้เอะใจถึงความระแคะระคาย ไม่ได้นึกถึงว่าเด็กในสังกัดกระหายจะเปิดเผยตัว ไม่ได้นึกถึงว่ากิริยาท่าทางของตัวเองมันเกินขีดขั้น มันเกินควบคุม ทุกอย่างเป็นปัจจัยให้ความลับไม่เป็นความลับอีกต่อไป น้ำพิงค์ขวัญเสีย ไม่เคยคิดมาก่อนว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับครอบครัว ความคิดวุ่นวายตีกัน ไม่รู้จะทำอย่างไรถูก ความรักความเชื่อใจที่ถูกทำลาย ความซื่อสัตย์ความไว้ใจที่เคยให้ ที่แท้แล้วมีความหมายบ้างไหน ด้านหนึ่งก็เหมือนผู้หญิงทั่ว ๆ ไป ถ้าเราอิกนอร์ปัญหานี้ไป ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปัญหาจะจบลงไหม ฉันจะทำให้เขากลับมาเหมือนเดิมได้รึเปล่า 

หากน้องชายทิพย์ไม่ยอมเว้นที่ทางให้น้ำพิงค์ลังเลใจ โปรดเอาความคิดห่วยแตกนั้นออกจากสมองไป ให้เกียรติตัวเอง เคารพตัวเองหน่อย อำพนว่า แม่พี่ไม่ได้อบรมสั่งสอนพี่มาให้ตบตีแย่งผู้ชาย ยังไม่ทันที่น้ำพิงค์จะเงื้อมือตบตีใคร น้องชายทิพย์ก็ผรุสวาทตีลูกกันแบบแรง ๆ เอาไว้ก่อน คิดสิคิด ผู้ชายคนนั้นผ่านผู้หญิงมามาก คิดสิคิด พี่มีอะไรต่างจากผู้หญิงพวกนั้น นี่ต่างหากที่เปิดตา และ นี่ต่างหากแง่มุมที่เธอไม่เคยมองหรือสังเกตตลอดเวลาที่แต่งงานกัน แล้วในวันนี้เมื่อเบิกเนตรจากความจริงที่เห็นจากคำด่าที่เผชิญ แม้แผลจะสดใหม่แต่เจ้าตัวก็ตัดสินใจอย่างเยือกเย็น เพื่อไม่ให้เสียในสิ่งที่ควรเสีย และ ไม่ให้อีกฝ่ายได้ในสิ่งที่ไม่ควรได้

อำพนนั่งมองการกระทำของน้ำพิงค์ด้วยความเป็นห่วง บาปบุญที่พี่พิงค์ยังไม่รู้ว่าในใจน้องชาย(ปลอม ๆ)คนนี้คิดอะไร ถึงพี่พิงค์จะเงียบไปส่งสัญญาว่าตัวเองจัดการได้ แต่เขาไม่มีวันที่อยู่เฉย ๆ ยอมที่จะเอาตัวเข้าแลกเลยทีเดียว แต่เอาเข้าจริงมันก็ไม่จำเป็นเท่าไหร่ เพราะ น้ำพิงค์ตัดสินใจที่จะเดินเกมของตัวเองสุดกำลังเรียบร้อย การกระทำหลายหลากของอำพนจึงกลายเป็นสิ่งที่สะท้อนความคิดของตัวเองให้ชัดขึ้น และ ชัดขึ้น จน "น่าจะ" สังเกตได้ แต่ก็คงเหมือนเรื่องระหว่างลือกับน้ำพิงค์นั่นแหละ ความเชื่อมั่น และ เชื่อใจทำให้ไม่เคยมองสัมพันธ์ระหว่างลือและรำนำเป็นอย่างอื่น  ด้วยความสนิทสนมกันมาแต่เด็ก ไม่ว่าจะเติบโตเท่าใด ๆ ถึงจะรับรู้ด้วยสองตาว่าเจ้าหมูอ้วนเติบโตเป็นชายหนุ่มเต็มตัว หากหัวใจของน้ำพิงค์ก็เห็นอำพนเป็นเจ้าลูกหมูปุ๊กลุ๊กอยู่ดี 

สำหรับอำพนมันก็อึดอัดอยู่หน่อยที่พี่พิงค์จะรับบท "ในแววตาทั้งคู่" ไม่รับรู้อะไร แต่ภายใต้สถานะน้องชายมันก็มีประโยชน์อยู่บ้าง เขาสามารถจะเข้าใกล้ ห่วงใย ดูแล อาจจะไม่เท่าใจคิด อาจจะยังไม่ได้รับความรู้สึกตอบกลับมาอย่างที่ใจต้องการ หากแค่นี้ก็ดีแล้ว พี่พิงค์ยังไม่พร้อมเขารู้ เธอต้องการเวลา ยังต้องอาศัยการซ่อมแซมตัวเอง อำพนต้องการให้ทุกอย่างมันดีที่สุดสำหรับน้ำพิงค์ ไม่ต้องการให้มีสิ่งใดเสียหายแม้แต่นิดเดียวก็ไม่ควร ในระหว่างที่การหย่ายังไม่เกิดขึ้น แม้แต่การสัมผัสตัว ดูแผลที่หน้า หรือ จับแขน อำพนยังไม่ยอม หากมันก็อดไม่ได้ที่จะมีอ้อนบ้างอะไรบ้าง มันไม่ใช่การหวงตัวหรอก แต่ไม่อยากให้ใครมองพี่พิงค์ไม่ดี ถ้าจะรักษาเกียรติก็ทำให้มันถึงที่สุด 

จนกระทั่ง "หย่า" แล้วนั่นแหละ อำพนถึงได้ยกระดับทำตัวเป็นน้ำซึมบ่อทราย สายตาอันรื่มรมย์เมื่อเห็นหน้าน้ำพิงค์เริ่มกลับมา การพูดการจาแซะแซว ให้อีกฝ่ายแสดงอารมณ์หลากหลายขึ้นลงบนใบหน้าเริ่มปรากฏ การดูแลเอาใจใส่อย่างอบอุ่นอ่อนหวานยังมีมาอย่างสม่ำเสมอ แต่น้ำพิงค์ก็ยังอยู่ในโหมด "ในแววตาทั้งคู่" ไม่รับรู้อะไร เช่นเดิม แต่ไม่เป็นไร ถึงในบ้างครั้งบางคราจะอำพนจะกลอกตามองบนอยู่บ้างในคำถาม และ รอยยิ้มสดใสงง ๆ งวย ๆ ของพี่พิงค์ แต่เขาก็รู้ว่าต้องอดทน เขารู้ว่าเขาทำได้ และ ค่อนข้างจะมั่นใจเสียด้วย ถ้อยคำที่ดูเหมือนจะสื่อความนัยอยู่เสมอ สายตาที่อ่อนหวานแสดงความรักอยู่เสมอ และ คำพูดจาที่เอ่ยอ้างว่าถ้าทำให้แฟนก็จะทำให้มากกว่านี้ และ เดี๋ยวพี่ก็จะรู้ว่าพี่เกี่ยวอย่างไร แสดงว่าเตรียมตัวรุก และ ส่งสัญญาณเรียบร้อย คงคิดว่าจะไปเงียบ ๆ ไปเนียน ๆ ค่อย ๆ คืบไปทีละนิดได้ไม่รีบไม่ร้อน เพราะ ไหน ๆ ตอนนี้ก็จีบชนิดเรียบเนียนไร้รอยตะเข็บเป็นเครื่องนอนโตโต้อยู่แล้ว แต่ที่ไหนได้ เพราะ ความโป๊ะ คือ ความโป๊ะ

เมื่อคุณลือได้ฤกษ์กะเทาะความจริงให้กับน้ำพิงค์ได้รู้ แน่ล่ะด้วยความเมา ด้วยความเห็นแก่ตัว ด้วยความรู้สึกเสียดาย และ ผิดพลาด ที่ไม่อยากยอมรับ นิ้วของลือจึงชี้ไปที่น้ำพิงค์ และ อำพนอย่างช่วยไม่ได้ ความซวยบังเกิดในตอนนั้น ในขณะที่น้ำพิงค์กำลังสงสัยว่าอำพนเกี่ยวอะไร สิ่งที่ออกจากปากลือคงทำให้สิ่งใด ๆ ที่อำพนทำกลับเข้ามาในสมองน้ำพิงค์อีกครั้ง พี่พิงค์ไม่ใช่คนโง่ แค่ว่าจะยอมรับความจริงได้เมื่อไหร่ วันนั้นอำพนพูดกับเธอ ส่วนวันนี้ ... ความจริงอีกเรื่องพุ่งเข้าชนเธออีกครั้งในวันที่เธอเองก็ไม่พร้อม บาดแผลยังสดใหม่ เธอรู้ว่ามันไม่ใช่ความผิดของเธอในเรื่องระหว่างเธอ และ คุณลือ แต่ชีวิตครอบครัวที่พังทลาย ความไว้ใจเชื่อใจต่าง ๆ ที่ทุ่มเทก็หมดลงไป ยากที่เริ่มเชื่อในใจใครได้อีกครั้ง ผู้ชายไม่ได้เหมือนกันทั้งโลก ผู้ชายคนนึงไม่เห็นค่าแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีใครเห็น ประจวบเหมาะว่าคนที่พูดประโยคนี้คือคนที่แอบซ่อนความรู้สึกที่มีต่อเธอมานาน 

นิยายรักภาค 1 จบลงด้วยความอึมครึม 
ไม่มีฝ่ายไหนเตรียมใจว่าเหตุการณ์จะออกมาแบบนี้
อำพนทำได้เพียงแสดงเจตนาหนักแน่น เขาให้เวลาพี่พิงค์ แต่เขาไม่ยอมแพ้
น้ำพิงค์ทำได้เพียงนิ่งอึ้ง และ "สั่ง" ให้น้องชายตัวดีกลับไปก่อน
หากในความอึมครึมกยังคงมีความหวัง
น้ำพิงค์อาาจะจะเริ่มมองอำพนในฐานะ "ผู้ชายคนนึง" มากกว่าเป็นเจ้าหมูอ้วนคนเก่ง เริ่มตั้งแต่คืนนี้

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ในสายตาเธอไม่มีฉัน แต่ฉันมองเธอไม่คลาดสายตา ขอ ... ขออนุญาตห่วงใย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่