ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! กาย๑ของตถาคต มีตัณหาเครื่องนำไปสู่ภพถูกตัดขาดแล้ว ยังตั้งอยู่.
กายนั้น ยังตั้งอยู่ตลอดกาลเพียงใด เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย จักเห็นซึ่งกายนั้นอยู่เพียงนั้น
แต่จักไม่เห็นซึ่งกายนั้น ในที่สุดแห่งชีวิต เพราะการทำลายแห่งกาย.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เปรียบเหมือนเมื่อพวงแห่งผลมะม่วง ขาดแล้ว ที่ขั้ว
ผลมะม่วงใดๆ ที่มีขั้วเนื่องกันย่อมหล่นลงมาด้วยกัน ทั้งหมดทั้งสิ้น, นี้ฉันใด ;
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! ข้อนี้ก็ฉันนั้น กล่าวคือ กายของตถาคตมีตัณหาเครื่องนำไปสู่ภพถูกตัดขาดแล้ว ยังตั้งอยู่.
กายนั้นยังตั้งอยู่ตลอดกาลเพียงใด เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นซึ่งกายนั้นอยู่เพียงนั้น
แต่จักไม่เห็นซึ่งกายนั้น ในที่สุดแห่งชีวิต เพราะการทำลายแห่งกาย.
-พรหมชาลสูตร สี.ที. ๙/๕๗/๙๐
๑.กาย(หมู่แห่งนามรูป คือรูปกายและนามกาย = ขันธ์ทั้ง 5)
พวงแห่งผลมะม่วง = อุปาทานขันธ์ 5 ->ภพ ->ชาติต่อไป.
ที่ขั้ว = ตัณหา
ทำไมท่านเห็น และไม่เห็นอย่างไรซึ่งกายนั้น
กายนั้น ยังตั้งอยู่ตลอดกาลเพียงใด เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย จักเห็นซึ่งกายนั้นอยู่เพียงนั้น
แต่จักไม่เห็นซึ่งกายนั้น ในที่สุดแห่งชีวิต เพราะการทำลายแห่งกาย.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เปรียบเหมือนเมื่อพวงแห่งผลมะม่วง ขาดแล้ว ที่ขั้ว
ผลมะม่วงใดๆ ที่มีขั้วเนื่องกันย่อมหล่นลงมาด้วยกัน ทั้งหมดทั้งสิ้น, นี้ฉันใด ;
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! ข้อนี้ก็ฉันนั้น กล่าวคือ กายของตถาคตมีตัณหาเครื่องนำไปสู่ภพถูกตัดขาดแล้ว ยังตั้งอยู่.
กายนั้นยังตั้งอยู่ตลอดกาลเพียงใด เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นซึ่งกายนั้นอยู่เพียงนั้น
แต่จักไม่เห็นซึ่งกายนั้น ในที่สุดแห่งชีวิต เพราะการทำลายแห่งกาย.
-พรหมชาลสูตร สี.ที. ๙/๕๗/๙๐
๑.กาย(หมู่แห่งนามรูป คือรูปกายและนามกาย = ขันธ์ทั้ง 5)
พวงแห่งผลมะม่วง = อุปาทานขันธ์ 5 ->ภพ ->ชาติต่อไป.
ที่ขั้ว = ตัณหา