อย่างที่บอกเลย คบกับคนหนึ่งมาตั้งแต่สมัยมัธยม จนถึงมหาลัย เรากับแฟนก็ปกติดีทุกอย่าง พอเราเข้ามหาลัย หลายคนเคยบอกเราว่าเป็นจุดเปลี่ยนของการมีชีวิต คนที่มีแฟน อาจจะต้องมีเรื่องให้เลิกกันในที่สุด ส่วนคนที่ไม่มีแฟน จะได้แฟนตอนเข้ามามหาลัย เพราะหลังจากที่เรียนจบ คือชีวิตการทำงาน การที่มีแฟน และพัฒนาความสัมพันธ์ไปเป็นครอบครัวนั้นยาก ส่วนคนไม่มีแฟน ก็จะไม่มีต่อไป แต่ด้วยตัวเราไม่ได้เชื่อเรื่องนี้เท่าไร การใช้ชีวิตก็ปกติดี อาจจะมีเวลาให้ไม่มากเท่าเมื่อก่อน แต่ก็ไม่ได้มีผลอะไร หรือเรื่องระยะทางก็ไม่ได้มีผลอะไรต่อความสัมพันธ์ของเรา จนเราขึ้นปี 3 แต่กลับกลายเป็นจุดเปลี่ยนของเขา เพราะเขาเริ่มเข้ามหาลัย เราก็เข้าใจ การที่เจออะไรใหม่ๆ กับการปรับตัวของเขามันทำให้เขาไม่มีเวลาให้เราเหมือนกัน เสมือนสมัยตอนที่เราตอนเข้ามหาลัยใหม่ๆ แต่เรื่องเริ่มเกิดขึ้นหลังจากที่เขาเริ่มเข้ามหาลัยได้ 8 เดือน ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด คำพูดที่เราห่วงใยเขา สิ่งที่เราเคยพูด เคยบอกเสมอมา ตลอดเวลาที่คบกันมา อยู่ๆ เขากลับบอกว่า ไม่เคยมองเขาว่าดีสักอย่าง หลังจากที่คุยกันวันนั้น เราพยายามทบทวนตัวเองอยู่เสมอ จนเวลาผ่านไปได้ 15 วัน ต่างคนต่างเงียบหายไป ตลอดระยะเวลา 15 วัน ไม่มีแม้แต่ข้อความจากเขา เราเคยส่งสติกเกอร์ไป แต่กลับได้เพียงแค่อ่านแล้วไม่ตอบ จนเราคิดทบทวนดีแล้วว่า เราไม่อยากจะทำร้ายเขาอีกต่อไปแล้ว ตลอดระยะ 7 ปี ที่คบกันมา เราทำร้ายความรู้สึกเขามามากแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้ เราจึงเลือกที่จะปล่อยมือเขา และให้เขาไปเจอคนที่ดีกว่าเรา แต่เราอยากจะบอกว่า หลังจากที่เลิกันวันนั้น จนวันนี้ได้ 3 ปีแล้ว ความรู้สึกของเรา ยังคงไม่หายไปไหน แต่กลับกลายเป็นแผลเป็นที่ยังอยู่ในใจเสมอมา มีคนเข้ามาหาเรา แต่ไม่กล้าที่จะเปิดใจให้ใคร ไม่อยากให้เขาคนนั้น มาแทนที่ความรู้สึกเธอ แต่นับจากที่ไป เราตัดสินใจแล้วว่า เราจะเดินหน้าต่อไป เพียงคนเดียว ใช้ชีวิตไปแต่ละวัน แค่เท่านั้นพอ ลาก่อน
คบกับแฟนคนหนึ่งมาได้ 7 ปี ไม่เคยเชื่อเรื่องอาถรรย์เลข 7 เลย จนกระทั่งมาเจอกับตัว