ทุกๆปี ตั้งแต่ปลายฤดูใบไม้ผลิถึงต้นฤดูร้อน (ปลายเดือนพฤษภาคมและต้นเดือนมิถุนายน) แม่น้ำ Tisza ทางตอนเหนือของเซอร์เบียและฮังการี จะมีปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าทึ่ง เป็นการเต้นรำแห่งชีวิตและความตายที่เป็นเอกลักษณ์เหนือผืนน้ำของแมลงชีปะขาวหางยาว หรือแมลง Palingenia longicauda นับล้านตัว
การเต้นรำของแมลงกลุ่มใหญ่เหล่านี้จะเปลี่ยนแม่น้ำให้กลายเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยการกระพือปีกสีชมพู สีดำ และสีครีม บนผิวน้ำเพื่อผสมพันธุ์ ทำให้แม่น้ำดูเหมือนกำลังเบ่งบานด้วยดอกไม้ ซึ่งคนทั่วไปจะเรียกแมลงชนิดนี้ว่า “The Tisa flower” หรือ " Tisza mayfly " และปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ที่น่าสนใจและไม่เหมือนใครนี้ เรียกว่า “blooming of the Tisa river” ซึ่งกินเวลา 3 - 4 วัน
Palingenia longicauda หรือที่รู้จักกันในชื่อ Tisa เป็นพันธุ์แมลงชีปะขาวยุโรปที่ใหญ่ที่สุดที่มีสีน้ำตาลอ่อน ถูกพบโดยชาวยุโรปที่อาศัยอยู่ตามแม่น้ำ Tisza โดยมีความยาวได้ถึง 12 ซม.จากหัวถึงหาง เมื่อกางปีก (ซึ่งด้านหน้ามีขนาดใหญ่กว่าด้านหลังมาก) สามารถวัดได้ถึง 2-3 นิ้ว
เรื่องราวของวงจรชีวิตของแมลงเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ พวกมันใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในช่วง 3 ปีที่น่าทึ่ง ในระยะตัวอ่อนที่อาศัยอยู่ในโคลนก้นแม่น้ำ หมายความว่า เมื่อพวกมันโตเป็นผู้ใหญ่ พวกมันจะบินออกไปสืบพันธุ์ วางไข่ และจบวงจรชีวิตอันยาวนาน และการฟักไข่ของ Tisa ที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน จะสร้างลักษณะคล้ายการเต้นรำเหนือผิวน้ำ จนกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าทึ่งของธรรมชาติ ซึ่งสามารถพบเห็นได้ที่แม่น้ำ Tisza ในเซอร์เบียและฮังการีเท่านั้น
แมลงเม่าตัวเต็มวัยโผล่ออกมาจากสิ่งมีชีวิตใต้น้ำผสมพันธุ์แล้วตายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง Cr.REUTERS
แมลงชีปะขาวจะเต้นรำก่อนที่จะผสมพันธุ์จากนั้นตัวเมียจะวางไข่จำนวนมากในแม่น้ำก่อนที่จะตาย
แม้อริสโตเติลยังกล่าวถึงแมลงอายุสั้น ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องการเต้นรำผสมพันธุ์ที่สวยงามและเรียกพวกมันว่า Ephemeron (มีชีวิตอยู่ แต่เพียงวันเดียว)
หลังจาก 3 ปี แมลงที่พัฒนาเป็นตัวอ่อนในโคลนก้นแม่น้ำจะฟักตัว จากนั้นตัวผู้จะมีเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ในการหาตัวเมียเพื่อผสมพันธุ์ก่อนที่พวกมันจะตาย ในการกระทำดังกล่าว ตัวผู้จะร่อนลงแม่น้ำเพื่อหาตัวเมียตัวหนึ่งบนผิวน้ำของแม่น้ำและผสมพันธ์ หลังจากนั้น แมลงชีปะขาวตัวเมียจะบินอยู่เหนือผิวน้ำหลายกิโลเมตร ซึ่งในระหว่างทางที่ล่องลอยไปตามน้ำนั้นก็จะหาทางน้ำเพื่อวางไข่
เมื่อไข่จมลงไปด้านล่าง จากนั้น 45 วันก็จะฟักออกเป็นตัวอ่อน ซึ่งจะขุดอุโมงค์ในโคลนเพื่อสร้างอาณานิคมที่หนาแน่นถึง 400 ตัวต่อตารางฟุต เมื่อผ่านไป 3 ปี ตัวอ่อนจะกรูกันออกจากอุโมงค์โคลนขึ้นบนผิวน้ำเป็นแมลงเม่าตัวเต็มวัย ซึ่งจะมีเวลาประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนที่มันจะตาย ดังนั้น เมื่อไม่มีเวลาสำหรับการเกี้ยวพาราสีต่อกัน การสืบพันธุ์ส่วนใหญ่จึงถูกบังคับโดยตัวผู้ที่มากถึง 20 ตัว ที่ไล่ตามตัวเมียเพียงตัวเดียวไปพร้อม ๆ กัน
การฟักไข่ของ Palingenia longicauda ที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกันนี้ (synchronized) ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่ยอดเยี่ยม เนื่องจากแมลงชีปะขาวกลุ่มใหญ่ที่ดูเหมือนเต้นรำอยู่เหนือผิวน้ำขณะที่พวกมันพยายามหาคู่ในเวลาสั้น ๆ ได้บินขึ้นมาปกคลุมบนริมฝั่งแม่น้ำและพื้นที่อื่น ๆด้วย รวมทั้ง รถยนต์ ถนน และผู้คน ซึ่งแมลงเม่าส่วนใหญ่ตายทันทีหลังจากผสมพันธุ์
ในตอนท้ายของการเต้นรำตลอดทั้งวันของแมลงเม่า พื้นน้ำของ Tisza จะถูกปกคลุมไปด้วยแมลงชีปะขาวที่ตายแล้วจำนวนมาก และแม้แต่บนถนนหรือสะพานที่มีกองแมลงชีปะขาวที่ตายแล้วเต็มไปหมดจนต้องเอารถมาไถออกไป
“The Tisa flower” แมลงชีปะขาวชนิดหนึ่งที่เต้นรำบนผิวน้ำของแม่น้ำ Tisza ในแต่ละฤดูใบไม้ผลิ
Cr.ภาพ archive.iwlearn.net/
จากมุมมองของวิวัฒนาการ การฟักไข่แบบ synchronized ขนาดใหญ่นี้ถือเป็นข้อดี เนื่องจากแมลงสามารถผสมพันธุ์ได้ในระยะโตเต็มวัยเท่านั้น และมีโอกาสที่จะหาคู่ได้มากที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับสปีชีส์ที่มีช่วงชีวิตของการโตเต็มวัยสั้น ๆ นอกจากนี้ สัตว์นักล่าเช่น ค้างคาวหรือนก ที่ตกใจกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของแมลง ทำให้สามารถล่าได้เพียงส่วนน้อยเท่านั้น
ปัจจุบัน แม่น้ำ Tisza และแม่น้ำสายย่อยของฮังการี เป็นสถานที่เดียวในโลกที่คุณสามารถไปดู "mayfly" หางยาวสายพันธ์ Palingenia longicauda นี้ได้
นอกจากนั้น ยังมีความสำคัญทางระบบนิเวศอีกด้วย โดยแมลงเม่าเป็นอาหารของปลา นก และกบหลายชนิด
ทั้งนี้ แมลงชีปะขาวสูญพันธุ์ไปแล้วในยุโรปตะวันตกในช่วงไตรมาสที่สามของทศวรรษ 1900 และในยุโรปกลางจำนวนของมันก็ลดลงอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเช่นกัน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีบทบาทอย่างมากในการลดจำนวนแมลงลง รวมทั้งมลพิษทางน้ำจากอุตสาหกรรมหนัก และการวิศวกรรมใหม่ริมฝั่งแม่น้ำได้ทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของตัวอ่อนแมลงเม่าอย่างมาก
หลังจากที่โรงงานอุตสาหกรรมหนักปิดตัวลงในช่วงต้นทศวรรษ 1990 พบว่าแม่น้ำหลายสายในยุโรปตะวันออก มีระดับมลพิษลดลงและในบางพื้นที่
แมลงเม่าได้กลับมาแล้ว เช่น ในแม่น้ำดานูบห่างจากบูดาเปสต์ไปทางเหนือประมาณ 30 กม. จนถึงขณะนี้ มีความพยายามในการฟื้นฟูแม่น้ำที่เคยมีมลพิษเหล่านี้โดยการเก็บเกี่ยวไข่จำศีลจาก Tisza จากนั้นย้ายไปไว้ในแม่น้ำอื่น ๆ ในยุโรป
ต่อมาในปี 2020 คณะกรรมการ Hungaricum Committee ตัดสินใจให้ " Tisza mayfly " และ 'Tisza Blooming' เป็นแหล่งท่องเที่ยวประจำชาติที่มี
ความเป็นเอกลักษณ์ที่พิเศษ เพื่อเสริมคุณค่าในอนาคตด้วยค่านิยมตามธรรมชาติในแบบดั้งเดิม
รถแล่นข้ามสะพานส่องให้แมลงชีปะขาวฝูงใหญ่ริมแม่น้ำดานูบในตาฮิตอตฟาลูห่างจากบูดาเปสต์ฮังการีไปทางเหนือประมาณ 30 กม. เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2013 การปรับปรุงคุณภาพน้ำช่วยให้แมลงชีปะขาวกลับสู่แม่น้ำดานูบในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ห่างหายไปหลายสิบปี ซึ่งแตกต่างจากแมลงชีปะขาวหางยาวที่รู้จักกันทั่วไปในแม่น้ำ Tisza แมลงเหล่านี้จะจับกลุ่มที่แม่น้ำดานูบในเวลากลางคืน เครดิตภาพ: Attila Volgyi
Tisza mayflies จับกลุ่มบนแม่น้ำ Tisza ที่มา: MTI
ที่มา: Wikipedia , NatGeo , Cabinet of Water Curiosities
Cr.
http://wfd-serbia.eu/2019/03/17/the-blooming-of-the-tisa-river/
Cr.
https://en.wikipedia.org/wiki/Palingenia_longicauda
Cr.
https://www.bbc.com/news/world-europe-40326102
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
การเต้นรำแห่งชีวิตและความตายของ “The Tisa flower”
การเต้นรำของแมลงกลุ่มใหญ่เหล่านี้จะเปลี่ยนแม่น้ำให้กลายเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยการกระพือปีกสีชมพู สีดำ และสีครีม บนผิวน้ำเพื่อผสมพันธุ์ ทำให้แม่น้ำดูเหมือนกำลังเบ่งบานด้วยดอกไม้ ซึ่งคนทั่วไปจะเรียกแมลงชนิดนี้ว่า “The Tisa flower” หรือ " Tisza mayfly " และปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ที่น่าสนใจและไม่เหมือนใครนี้ เรียกว่า “blooming of the Tisa river” ซึ่งกินเวลา 3 - 4 วัน
Palingenia longicauda หรือที่รู้จักกันในชื่อ Tisa เป็นพันธุ์แมลงชีปะขาวยุโรปที่ใหญ่ที่สุดที่มีสีน้ำตาลอ่อน ถูกพบโดยชาวยุโรปที่อาศัยอยู่ตามแม่น้ำ Tisza โดยมีความยาวได้ถึง 12 ซม.จากหัวถึงหาง เมื่อกางปีก (ซึ่งด้านหน้ามีขนาดใหญ่กว่าด้านหลังมาก) สามารถวัดได้ถึง 2-3 นิ้ว
เรื่องราวของวงจรชีวิตของแมลงเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ พวกมันใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในช่วง 3 ปีที่น่าทึ่ง ในระยะตัวอ่อนที่อาศัยอยู่ในโคลนก้นแม่น้ำ หมายความว่า เมื่อพวกมันโตเป็นผู้ใหญ่ พวกมันจะบินออกไปสืบพันธุ์ วางไข่ และจบวงจรชีวิตอันยาวนาน และการฟักไข่ของ Tisa ที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน จะสร้างลักษณะคล้ายการเต้นรำเหนือผิวน้ำ จนกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าทึ่งของธรรมชาติ ซึ่งสามารถพบเห็นได้ที่แม่น้ำ Tisza ในเซอร์เบียและฮังการีเท่านั้น
เมื่อไข่จมลงไปด้านล่าง จากนั้น 45 วันก็จะฟักออกเป็นตัวอ่อน ซึ่งจะขุดอุโมงค์ในโคลนเพื่อสร้างอาณานิคมที่หนาแน่นถึง 400 ตัวต่อตารางฟุต เมื่อผ่านไป 3 ปี ตัวอ่อนจะกรูกันออกจากอุโมงค์โคลนขึ้นบนผิวน้ำเป็นแมลงเม่าตัวเต็มวัย ซึ่งจะมีเวลาประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนที่มันจะตาย ดังนั้น เมื่อไม่มีเวลาสำหรับการเกี้ยวพาราสีต่อกัน การสืบพันธุ์ส่วนใหญ่จึงถูกบังคับโดยตัวผู้ที่มากถึง 20 ตัว ที่ไล่ตามตัวเมียเพียงตัวเดียวไปพร้อม ๆ กัน
การฟักไข่ของ Palingenia longicauda ที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกันนี้ (synchronized) ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่ยอดเยี่ยม เนื่องจากแมลงชีปะขาวกลุ่มใหญ่ที่ดูเหมือนเต้นรำอยู่เหนือผิวน้ำขณะที่พวกมันพยายามหาคู่ในเวลาสั้น ๆ ได้บินขึ้นมาปกคลุมบนริมฝั่งแม่น้ำและพื้นที่อื่น ๆด้วย รวมทั้ง รถยนต์ ถนน และผู้คน ซึ่งแมลงเม่าส่วนใหญ่ตายทันทีหลังจากผสมพันธุ์
ในตอนท้ายของการเต้นรำตลอดทั้งวันของแมลงเม่า พื้นน้ำของ Tisza จะถูกปกคลุมไปด้วยแมลงชีปะขาวที่ตายแล้วจำนวนมาก และแม้แต่บนถนนหรือสะพานที่มีกองแมลงชีปะขาวที่ตายแล้วเต็มไปหมดจนต้องเอารถมาไถออกไป
ปัจจุบัน แม่น้ำ Tisza และแม่น้ำสายย่อยของฮังการี เป็นสถานที่เดียวในโลกที่คุณสามารถไปดู "mayfly" หางยาวสายพันธ์ Palingenia longicauda นี้ได้
นอกจากนั้น ยังมีความสำคัญทางระบบนิเวศอีกด้วย โดยแมลงเม่าเป็นอาหารของปลา นก และกบหลายชนิด
ทั้งนี้ แมลงชีปะขาวสูญพันธุ์ไปแล้วในยุโรปตะวันตกในช่วงไตรมาสที่สามของทศวรรษ 1900 และในยุโรปกลางจำนวนของมันก็ลดลงอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเช่นกัน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีบทบาทอย่างมากในการลดจำนวนแมลงลง รวมทั้งมลพิษทางน้ำจากอุตสาหกรรมหนัก และการวิศวกรรมใหม่ริมฝั่งแม่น้ำได้ทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของตัวอ่อนแมลงเม่าอย่างมาก
หลังจากที่โรงงานอุตสาหกรรมหนักปิดตัวลงในช่วงต้นทศวรรษ 1990 พบว่าแม่น้ำหลายสายในยุโรปตะวันออก มีระดับมลพิษลดลงและในบางพื้นที่
แมลงเม่าได้กลับมาแล้ว เช่น ในแม่น้ำดานูบห่างจากบูดาเปสต์ไปทางเหนือประมาณ 30 กม. จนถึงขณะนี้ มีความพยายามในการฟื้นฟูแม่น้ำที่เคยมีมลพิษเหล่านี้โดยการเก็บเกี่ยวไข่จำศีลจาก Tisza จากนั้นย้ายไปไว้ในแม่น้ำอื่น ๆ ในยุโรป
ต่อมาในปี 2020 คณะกรรมการ Hungaricum Committee ตัดสินใจให้ " Tisza mayfly " และ 'Tisza Blooming' เป็นแหล่งท่องเที่ยวประจำชาติที่มี
ความเป็นเอกลักษณ์ที่พิเศษ เพื่อเสริมคุณค่าในอนาคตด้วยค่านิยมตามธรรมชาติในแบบดั้งเดิม
Cr.http://wfd-serbia.eu/2019/03/17/the-blooming-of-the-tisa-river/
Cr.https://en.wikipedia.org/wiki/Palingenia_longicauda
Cr.https://www.bbc.com/news/world-europe-40326102
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)