1) เพราะผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีอาการ ดังนั้นถึงมีผู้ติดเชื้อเยอะก็มีคนตายน้อย เพราะคนตายส่วนใหญ่คือคนแก่กะคนป่วยเรื้อรัง ดังนั้นถึงแม้ลูกหลานจะไปเยี่ยมก็ไม่ทำให้ผู้สูงอายุตาย และลูกหลานที่ไปเยี่ยมแม้จะติดเชื้อก็จะมีอาการที่ไม่รุนแรง + ไม่ตาย!!
2) การติดเชื้อกันเองระหว่างคนหนุ่มสาวก็น่าจะคล้ายการฉีดวัคซีนกันเอง + สร้างภูมิคุ้มกันกันเองตามธรรมชาติ!
3) หมอ + พยาบาลก็ไม่ต้องเหนื่อย
4) รบ.ก็ไม่ต้องปวดหัวกะวัคซีน
5) ปชช ก็ไม่เดือดร้อน
6) ศ.ก.ก็ไม่หยุดชะงัก
7) ตอนนี้ยังไม่สายรึป่าวนะ ถ้า รบ.จะรีบเร่งฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุกะคนป่วยเรื้อรังให้ครบก่อน!
8) กลับไปสู่มาตรการเดิมคือตรวจหาเชื้อเฉพาะผู้ที่มีอาการแล้วเท่านั้น เพื่อให้ผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการสร้างภูมิคุ้มกันเองตามธรรมชาติ
9) ปชช กลับมาป้องกันตัวเองจากการติดเชื้ออย่างเคร่งครัด ด้วยการ ใส่หน้ากาก 100% แบบรอบแรกแทน ระหว่างการรอวัคซีน!
10) เพราะกว่าวัคซีนจะมาถึง กว่าจะได้ฉีดวัคซีนกันครบ 70% ของประชากร ก็คือสิ้นปี 64
11) ศ.ก.ไทย และคนไทยจะรอกันไหวรึป่าว?
ขออนุญาตแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหน่อยนะว่าพอจะเป็นไปได้มั๊ย? ข้อดีข้อเสียที่เลวร้ายที่สุดคืออะไร?
ขอบคุณจ้า!
ถ้า รบ.ฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุกะคนป่วยครบทั้งหมดตั้งแต่รอบ 2 (ม.ค.64) ตอนนี้ ปทท คงยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามีโควิด!
2) การติดเชื้อกันเองระหว่างคนหนุ่มสาวก็น่าจะคล้ายการฉีดวัคซีนกันเอง + สร้างภูมิคุ้มกันกันเองตามธรรมชาติ!
3) หมอ + พยาบาลก็ไม่ต้องเหนื่อย
4) รบ.ก็ไม่ต้องปวดหัวกะวัคซีน
5) ปชช ก็ไม่เดือดร้อน
6) ศ.ก.ก็ไม่หยุดชะงัก
7) ตอนนี้ยังไม่สายรึป่าวนะ ถ้า รบ.จะรีบเร่งฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุกะคนป่วยเรื้อรังให้ครบก่อน!
8) กลับไปสู่มาตรการเดิมคือตรวจหาเชื้อเฉพาะผู้ที่มีอาการแล้วเท่านั้น เพื่อให้ผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการสร้างภูมิคุ้มกันเองตามธรรมชาติ
9) ปชช กลับมาป้องกันตัวเองจากการติดเชื้ออย่างเคร่งครัด ด้วยการ ใส่หน้ากาก 100% แบบรอบแรกแทน ระหว่างการรอวัคซีน!
10) เพราะกว่าวัคซีนจะมาถึง กว่าจะได้ฉีดวัคซีนกันครบ 70% ของประชากร ก็คือสิ้นปี 64
11) ศ.ก.ไทย และคนไทยจะรอกันไหวรึป่าว?
ขออนุญาตแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหน่อยนะว่าพอจะเป็นไปได้มั๊ย? ข้อดีข้อเสียที่เลวร้ายที่สุดคืออะไร?
ขอบคุณจ้า!