กว่าจะเป็นบังกลาเทศ ตอนที่ 5 (จบ)

สาเหตุที่ Sheikh Mujibur Rahman ถูกลอบสังหาร มีหลายๆ สาเหตุ แต่เหตุผลหลักๆ คือ ความไมพอใจของนายทหารต่อการปกครองรัฐบาลของเขา
หลังจากที่ Sheikh Mujibur Rahman ได้เป็นนายกรัฐมนตรี บ้านเมืองยังไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีขึ้นเท่าไรนัก มีระบบอุปถัมภ์และการเลือกปฏิบัติเกิดขึ้น
กองทัพเห็นว่า Mujibur เอื้อผลประโยชน์ให้กับกองกำลังส่วนตัวอย่าง Jatiya Rakkhi Bahini มากเกินไป อีกทั้งยังมีการพัวพันกับกลุ่ม Communist
รวมไปถึงการที่บรรดาญาติ-พรรคพวกของ Mujibur สร้างความเดือดร้อนต่อกองทัพและประชาชนต่อเนื่อง รวมถึงการตั้งรัฐบาลพรรคเดียว BAKSAL
และมุมมองของกองทัพที่เห็นว่า Mujibur เอียงไปทางอินเดียมากเกินไป ทำให้บรรดานายทหารได้วางแผนยึดอำนาจในวันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม 1975

วันเกิดเหตุ Mujibur อยู่ในบ้านพักส่วนตัวของเขา กองทัพเข้ายึดบ้านพักและบีบบังคับให้เขาลาออก Mujibur ปฏิเสธที่จะลาออกจึงถูกสังหารเสียชีวิต
ครอบครัวของ Mujibur ถูกสังหารหมดสิ้น ทั้งภรรยา ลูกชายทั้ง 3 คนของเขา รวมไปถึงลูกชายคนเล็กอายุเพียง 10 ขวบ และลูกสะใภ้ 2 คน เสียชีวิต
ในบ้านของ Mujibur ยังมีคนรับใช้ น้องชายของเขา ที่ถูกสังหาร รวมไปถึงหลานของเขาและภรรยาที่ตั้งครรภ์ และพี่เขยของเขาก็ถูกสังหารไปด้วย
นอกจากนี้ บรรดานักการเมืองของอาวามี 4 คน รวมไปถึง Tajuddin Ahmed และ Syed Nazrul Islam ก็ถูกจับกุมและถูกสังหารในคุกในเวลาต่อมา
ในบรรดาครอบครัวของ Mujibur มีเพียงลูกสาว 2 คนของ Mujibur ที่รอดชีวิตเนื่องจากเวลานั้นอยู่ในต่างประเทศ 1 ในนั้นก็คือ Sheikh Hasina

มีทฤษฎีสมคบคิดที่เชื่อกันว่า แท้ที่จริง แผนการดังกล่าว ได้รับการสนับสนุนจาก CIA เนื่องจากมองว่า Mujibur กำลังจะสร้างรัฐบาลสังคมนิยมขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม หลังจากการเข้ายึดอำนาจได้ไม่นาน เดือนพฤศจิกายนได้มีการยึดอำนาจกลุ่มรัฐบาลที่เชื่อว่าเป็นผู้ทำการสังหาร Mujibur ในวันที่ 3 
ทว่า หลังจากยึดอำนาจได้ไม่กี่วัน ก็มีการยึดอำนาจอีกครั้งโดยกลุ่มทหารที่ได้รับการหนุนหลังจากฝ่ายซ้าย และปลดปล่อย Ziaur Rahman ออกมา
ไม่กี่ปีหลังจากนั้น Ziaur Rahman ได้เป็นประธานาธิบดี แต่ไม่กี่ปีเขาก็ถูกสังหาร แต่ Hussain Muhammad Ershad รู้ทันและกู้สถานการณ์ได้
Hussain Muhammad Ershad กลายเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดหลังจากนั้นไม่กี่ปี และได้ปกครองบังกลาเทศไปจนถึงปี 1990 ก่อนมีการเลือกตั้งทั่วไป

น่าเศร้า แม้ว่าเสถียรภาพทางการเมืองของบังกลาเทศจะดีขึ้นตั้งแต่ยุค 1990 เป็นต้นมา แต่ทว่าในหลายๆ เรื่องนั้น ถือว่ายังค่อนข้างล้มเหลวอยู่มาก
บังกลาเทศ เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่าแออัดมากที่สุดในโลก เนื่องจากมีพื้นที่แค่ 148,460 ตร.กม. อันดับ 92 ของโลก เทียบเท่าใกล้เคียงกับเนปาล
แต่ประชากรที่มีอยู่มากถึง 170 ล้านคน มากที่สุดเป็นอันดับ 8 และเป็นอันดับ 3 ในเอเชียใต้รองจากปากีสถานและอินเดีย และยังแออัดเป็นอันดับที่ 6
และด้วยระดับความโปร่งใสที่ติดอันดับลบจนเคยเป็นประเทศที่มีการคอรัปชั่นสูงที่สุดในโลกนั้น (ต่ำกว่าไทย) ทำให้บังกลาเทศยังมีความยากจนอยู่
แม้ข้อมูลส่วนใหญ่จะระบุว่าบังกลาเทศเป็นประเทศกำลังพัฒนา และมีการลดความยากจนลงเรื่อยๆ แต่การเติบโตของประชากรยังเป็นอุปสรรคใหญ่

นอกจากนี้ ปัญหาต่างๆ เช่น ปัญหาทางศาสนา ปัญหาการก่อการร้าย และปัญหาอาชญากรรม คือส่วนหนึ่งของปัญหาใหญ่ที่บังกลาเทศกำลังเผชิญ
ถึงกระนั้น บังกลาเทศก็ยังมีเรื่องดีๆ อย่างเช่นการเป็นแหล่งเกษตรกรรมที่ดีเยี่ยม และมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ตลอดจนแหล่งท่องเที่ยว
ด้วยภูมิประเทศที่ติดกับทั้งเบงกอลตะวันตก (อินเดีย) และเจ็ดรัฐสาวน้อยทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ หากใครเคยเที่ยว เชื่อว่าจะติดใจได้ไม่ยาก
น่าเสียดายที่ความปลอดภัยและความสะดวกสบาย อาจจะทำให้บังกลาเทศไม่ค่อยเป็นประเทศน่าท่องเที่ยวเหมือนประเทศอื่นในภูมิภาคเดียวกัน
เราได้แต่หวังว่า ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า บังกลาเทศจะมีหลายๆ สถานที่ที่น่าท่องเที่ยวสำหรับคนไทยเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเดียวกัน
----
กว่าจะเป็นบังกลาเทศ
 
ตอนที่ 1 https://ppantip.com/topic/40630094
ตอนที่ 2 https://ppantip.com/topic/40635747
ตอนที่ 3 https://ppantip.com/topic/40641375
ตอนที่ 4 https://ppantip.com/topic/40643022
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่