Sheikh Mujibur Rahman คือชื่อของผู้นำชาวเบงกาลีคนใหม่ที่ทำให้ผู้นำของฝ่ายตะวันตกสั่นคลอน เขามาพร้อมกับรูปร่างที่สูงสง่าและดูองอาจยิ่ง
แม้ Sheikh Mujibur Rahman จะเกิดมาในครอบครัวชาวเบงกาลีมุสลิม แต่เขามีแนวคิดด้านสังคมนิยมและเปิดกว้างต่อแนวคิดโลกวิสัยเป็นอย่างมาก
แต่เดิม เขาเป็นผู้ติดตามของ H.S. Suhrawardy และค่อยๆ เติบโตขึ้นมาท่ามกลางความนิยมในกลุ่มสันนิบาตอาวามี่ซึ่งเป็นกลุ่มชาตินิยมชาวเบงกาลี
หลังจากที่ H.S. Suhrawardy เสียชีวิตในปี 1963 Sheikh Mujibur Rahman ขึ้นมาเป็นผู้นำของกลุ่มอาวามี่ และเป็นตัวแทนของปากีสถานตะวันออก
ในปี 1966 ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างฝ่ายตะวันตกและตะวันออก Mujibur เสนอทางเลือก 6 ข้อเพื่อเสริมสร้างประชาธิปไตยขึ้นมา
6 ข้อดังกล่าว ประกอบไปด้วย 1.รัฐธรรมนูญปากีสถานต้องจัดสหพันธ์รัฐตามแบบที่เคยจัดทำไว้ในมติแห่ง Lahore และรัฐสภาต้องมีมาตรฐานสากล
2.รัฐบาลกลางมีสิทธิ์บริหารจัดการแค่ 2 เรื่องเท่านั้นคือเรื่องการต่างประเทศและความมั่นคง ส่วนหน้าที่ต่างๆ ที่เหลือ ให้เป็นของรัฐนั้นๆ บริหารกันเอง
3.ควรมีสกุลเงินแบ่งแยกกัน หรือไม่ก็ใช้แบบเดียวกันแต่แบ่งแยกการเงินระหว่าง 2 ฝั่ง 4.รัฐมีอำนาจจัดเก็บภาษีและรัฐบาลกลางจะได้ส่วนแบ่งอีกที
5.งบประมาณการคลังของ 2 ประเทศต้องแยกจากกันและมีการแลกเปลี่ยนกันในอัตราเท่ากันหรือต่างกันเล็กน้อย สินค้าพื้นเมืองจะต้องปลอดภาษี
6.ปากีสถานตะวันออกจะต้องมีกองกำลังทหารหรือกึ่งทหารเป็นของตัวเอง และกองบัญชาการกองทัพเรือจะต้องอยู่ในปากีสถานตะวันออกเท่านั้น
ข้อเสนอทั้ง 6 ข้อที่ Mujibur ได้เสนอต่อฝ่ายรัฐบาลในตะวันตกนั้น ทำให้เขาได้รับแรงสนับสนุนในหมู่ชาวเบงกาลีทั้งมุสลิมและฮินดูเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ในสายตาของนักการเมืองฝ่ายตะวันตก รวมถึงกลุ่มมุสลิมที่ไม่ใช่ชาวเบงกาลี มองว่าเขาพยายามให้มีการแบ่งแยกดินแดนแบบลับๆ
หลังจากนั้นไม่นาน Mujibur และนักการเมือง เจ้าหน้าที่ทหารจำนวนหนึ่ง ถูกกล่าวหาว่าเขากับอินเดียพยายามหาทางแบ่งแยกดินแดนปากีสถาน
เนื่องจากปากีสถานกล่าวว่า Mujibur วางแผนและติดต่อกับเจ้าหน้าที่อินเดียในเมือง Agartala รัฐตรีปุระ ทำให้คดีมีชื่อว่า คดีสมคบคิด Agartala
เนื่องจากไม่มีหลักฐานมากพอ Mujibur กับพรรคพวกก็ถูกปล่อยตัวออกมา อย่างไรก็ตาม Zahurul Haq หนึ่งในผู้ต้องหาได้เสียชีวิตระหว่างไต่สวน
ระหว่างที่มีการไต่สวนคดีของ Mujibur ได้มีการลุกฮือขึ้นของกลุ่มนักศึกษาในกรุงธากาเพื่อต่อต้านการไต่สวนดังกล่าว และได้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย
Mujibur ได้รับฉายานามว่า Bangabandhu หรือสหายแห่งบังกลา (เบงกอล) หลังจากที่เขากลับมาจากฝั่งตะวันตกพร้อมการต้อนรับอย่างล้นหลาม
ในวันที่ 5 ธันวาคม 1969 Mujibur ประกาศว่าดินแดนปากีสถานตะวันออกจะถูกเรียกว่าบังกลาเทศแทน โดยมีความหมายว่า ดินแดนของชาวบังกลา
เขากล่าวว่า "ในช่วงเวลาหนึ่ง มีความพยายามจะลบคำว่าบังกลาออกจากแผ่นดินนี้และแผนที่ตรงนี้ ไม่มีคำว่าบังกลาใดๆ นอกจากในอ่าวเบงกอล ..
.. ผม ในนามของปากีสถาน ขอประกาศในวันนี้ว่า ดินแดนแห่งนี้ จะถูกเรียกว่า "บังกลาเทศ" แทนที่ปากีสถานตะวันออก" Mujibur กล่าวประกาศ
คำประกาศของ Mujibur สร้างความตึงเครียดและโกรธแค้นแก่ฝ่ายตะวันตกมากขึ้นกว่าเดิมและทำให้มองว่าเขาเป็นพวกแบ่งแยกดินแดนเข้าไปอีก
เมื่อพายุไซโคลน Bhola พัดเข้าฝั่งตะวันออก มีผู้เสียชีวิตหลายแสนคนและผู้คนนับล้านต้องไร้ที่อยู่ แต่ฝ่ายตะวันตกกลับมีความล่าช้าในการจัดการ
ฝ่ายตะวันออกกล่าวหาว่าฝ่ายตะวันตกกลั่นแกล้งฝ่ายตน ขณะที่ฝ่ายตะวันตกกล่าวหาว่าอาวามี่ใช้เรื่องความทุกข์สร้างความขัดแย้งให้กับประชาชน
การเลือกตั้งที่จัดในเดือนต่อมา นำโดยฝ่ายตะวันตกของพรรค PPP ของ Zulfikar Ali Bhutto ขณะที่ฝ่ายตะวันออกนำโดยอาวามี่ของ Mujibur เอง
อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งดังกล่าวสร้างความตกตะลึง เนื่องจากสันนิบาตอาวามี่ชนะการเลือกตั้งโดยชนะแบบ Landslide ทั่วปากีสถานตะวันออก!!
----
กว่าจะเป็นบังกลาเทศ
ตอนที่ 1
https://ppantip.com/topic/40630094
ตอนที่ 2
https://ppantip.com/topic/40635747
ตอนที่ 4
https://ppantip.com/topic/40643022
ตอนที่ 5 (จบ)
https://ppantip.com/topic/40686594
กว่าจะเป็นบังกลาเทศ ตอนที่ 3
แม้ Sheikh Mujibur Rahman จะเกิดมาในครอบครัวชาวเบงกาลีมุสลิม แต่เขามีแนวคิดด้านสังคมนิยมและเปิดกว้างต่อแนวคิดโลกวิสัยเป็นอย่างมาก
แต่เดิม เขาเป็นผู้ติดตามของ H.S. Suhrawardy และค่อยๆ เติบโตขึ้นมาท่ามกลางความนิยมในกลุ่มสันนิบาตอาวามี่ซึ่งเป็นกลุ่มชาตินิยมชาวเบงกาลี
หลังจากที่ H.S. Suhrawardy เสียชีวิตในปี 1963 Sheikh Mujibur Rahman ขึ้นมาเป็นผู้นำของกลุ่มอาวามี่ และเป็นตัวแทนของปากีสถานตะวันออก
ในปี 1966 ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างฝ่ายตะวันตกและตะวันออก Mujibur เสนอทางเลือก 6 ข้อเพื่อเสริมสร้างประชาธิปไตยขึ้นมา
6 ข้อดังกล่าว ประกอบไปด้วย 1.รัฐธรรมนูญปากีสถานต้องจัดสหพันธ์รัฐตามแบบที่เคยจัดทำไว้ในมติแห่ง Lahore และรัฐสภาต้องมีมาตรฐานสากล
2.รัฐบาลกลางมีสิทธิ์บริหารจัดการแค่ 2 เรื่องเท่านั้นคือเรื่องการต่างประเทศและความมั่นคง ส่วนหน้าที่ต่างๆ ที่เหลือ ให้เป็นของรัฐนั้นๆ บริหารกันเอง
3.ควรมีสกุลเงินแบ่งแยกกัน หรือไม่ก็ใช้แบบเดียวกันแต่แบ่งแยกการเงินระหว่าง 2 ฝั่ง 4.รัฐมีอำนาจจัดเก็บภาษีและรัฐบาลกลางจะได้ส่วนแบ่งอีกที
5.งบประมาณการคลังของ 2 ประเทศต้องแยกจากกันและมีการแลกเปลี่ยนกันในอัตราเท่ากันหรือต่างกันเล็กน้อย สินค้าพื้นเมืองจะต้องปลอดภาษี
6.ปากีสถานตะวันออกจะต้องมีกองกำลังทหารหรือกึ่งทหารเป็นของตัวเอง และกองบัญชาการกองทัพเรือจะต้องอยู่ในปากีสถานตะวันออกเท่านั้น
ข้อเสนอทั้ง 6 ข้อที่ Mujibur ได้เสนอต่อฝ่ายรัฐบาลในตะวันตกนั้น ทำให้เขาได้รับแรงสนับสนุนในหมู่ชาวเบงกาลีทั้งมุสลิมและฮินดูเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ในสายตาของนักการเมืองฝ่ายตะวันตก รวมถึงกลุ่มมุสลิมที่ไม่ใช่ชาวเบงกาลี มองว่าเขาพยายามให้มีการแบ่งแยกดินแดนแบบลับๆ
หลังจากนั้นไม่นาน Mujibur และนักการเมือง เจ้าหน้าที่ทหารจำนวนหนึ่ง ถูกกล่าวหาว่าเขากับอินเดียพยายามหาทางแบ่งแยกดินแดนปากีสถาน
เนื่องจากปากีสถานกล่าวว่า Mujibur วางแผนและติดต่อกับเจ้าหน้าที่อินเดียในเมือง Agartala รัฐตรีปุระ ทำให้คดีมีชื่อว่า คดีสมคบคิด Agartala
เนื่องจากไม่มีหลักฐานมากพอ Mujibur กับพรรคพวกก็ถูกปล่อยตัวออกมา อย่างไรก็ตาม Zahurul Haq หนึ่งในผู้ต้องหาได้เสียชีวิตระหว่างไต่สวน
ระหว่างที่มีการไต่สวนคดีของ Mujibur ได้มีการลุกฮือขึ้นของกลุ่มนักศึกษาในกรุงธากาเพื่อต่อต้านการไต่สวนดังกล่าว และได้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย
Mujibur ได้รับฉายานามว่า Bangabandhu หรือสหายแห่งบังกลา (เบงกอล) หลังจากที่เขากลับมาจากฝั่งตะวันตกพร้อมการต้อนรับอย่างล้นหลาม
ในวันที่ 5 ธันวาคม 1969 Mujibur ประกาศว่าดินแดนปากีสถานตะวันออกจะถูกเรียกว่าบังกลาเทศแทน โดยมีความหมายว่า ดินแดนของชาวบังกลา
เขากล่าวว่า "ในช่วงเวลาหนึ่ง มีความพยายามจะลบคำว่าบังกลาออกจากแผ่นดินนี้และแผนที่ตรงนี้ ไม่มีคำว่าบังกลาใดๆ นอกจากในอ่าวเบงกอล ..
.. ผม ในนามของปากีสถาน ขอประกาศในวันนี้ว่า ดินแดนแห่งนี้ จะถูกเรียกว่า "บังกลาเทศ" แทนที่ปากีสถานตะวันออก" Mujibur กล่าวประกาศ
คำประกาศของ Mujibur สร้างความตึงเครียดและโกรธแค้นแก่ฝ่ายตะวันตกมากขึ้นกว่าเดิมและทำให้มองว่าเขาเป็นพวกแบ่งแยกดินแดนเข้าไปอีก
เมื่อพายุไซโคลน Bhola พัดเข้าฝั่งตะวันออก มีผู้เสียชีวิตหลายแสนคนและผู้คนนับล้านต้องไร้ที่อยู่ แต่ฝ่ายตะวันตกกลับมีความล่าช้าในการจัดการ
ฝ่ายตะวันออกกล่าวหาว่าฝ่ายตะวันตกกลั่นแกล้งฝ่ายตน ขณะที่ฝ่ายตะวันตกกล่าวหาว่าอาวามี่ใช้เรื่องความทุกข์สร้างความขัดแย้งให้กับประชาชน
การเลือกตั้งที่จัดในเดือนต่อมา นำโดยฝ่ายตะวันตกของพรรค PPP ของ Zulfikar Ali Bhutto ขณะที่ฝ่ายตะวันออกนำโดยอาวามี่ของ Mujibur เอง
อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งดังกล่าวสร้างความตกตะลึง เนื่องจากสันนิบาตอาวามี่ชนะการเลือกตั้งโดยชนะแบบ Landslide ทั่วปากีสถานตะวันออก!!
----
กว่าจะเป็นบังกลาเทศ
ตอนที่ 1 https://ppantip.com/topic/40630094
ตอนที่ 2 https://ppantip.com/topic/40635747
ตอนที่ 4 https://ppantip.com/topic/40643022
ตอนที่ 5 (จบ) https://ppantip.com/topic/40686594