ขอคําเเนะนําสําหรับพ่อนิสัยเเบบนี้หน่อยคะ

บ้านเรามีสมาชิกทั้งหมดที่อยู่ด้วยกันก็มี 5 คนค่ะมี ย่า พ่อ เเม่ พี่ชาย น้องสาว(เราเอง)
บ้านเราก็มีปัญหามาตั้งเเต่เราเด็กๆเเล้วค่ะ

พ่อเราเป็นคนอารมณ์ร้อนง่าย ถ้าหงุดหงิดก็จะขึ้นเสียง เห็นเเก่ตัว ชอบทําตัวข่มคนในบ้านค่ะ พอทะเลาะกันก็จะเอาความคิดตัวเองเป็นที่ตั้งถ้าใครเถียงก็จะด่าไม่ไหวหน้าค่ะไม่ว่าคนนั้นจะเป็นเเม่เเท้ๆของเขาก็ตาม เพราะงั้นทุกคนเลยต้องยอมเอ่อออกับเขาไปทุกเรื่องเลยค่ะ
เเม่เราก็ทํางานคนเดียวค่ะ(ทําไร่หลังบ้าน) เเม่เราต้องตัดผักกลางเเดด ยกของหนักๆคนเดียวค่ะ เพราะพ่อช้างเท้าหน้าไม่ยอมช่วยพ่อเคยมีงานเเต่เขาไม่เอาเพราะอ้วน เเละพ่ก็ไม่ยอมลดชอบเอาเเต่พูดว่าตกงาน มีงานอะไรก็พาไปสมัครสิ ส่วนย่าเราก็เเก่เเล้วก็อยู่บ้านทําอาหารมห้กินตลอด

เรายังจําตอนที่เราอยู่ ป.2 ตอนที่พ่อกับพี่เราทะเลาะกันตอนนั้นมีพี่เราอยู่ ป.5 เอง
(เล่าเท่าที่จําได้นะคะ)
คือพ่อทะเลาะกับพี่เเล้วพ่อเราโกรธก็เลยหยิบรีโมตข้างๆตัวมาปาใส่พี่อยู่เเรงเลย นอกจากปาใส่ยังพ่นคําด่าสารพัดต่อจากนี้เราจําได้เเค่ว่าพี่เราร้องไห้จากนั้นเราก็ลืมเรื่องต่อจากนี้หมดเลยค่ะ ความรู้สึกตอนนั้นเรากลัวพ่อจับใจเลย เเต่เหตุการณ์ก็ไม่จบดีเพราะพ่อกับพี่ก็มีปัญหากันมาเรื่อยๆ  รวมทั้งคนในครอบครัวด้วยค่ะ พอมาสมัยเราจะขึ้น ม.2 ค่ะ ตอนนั้นพี่เราก็จะขึ้น ม.5 ค่ะ (ตอนนั้นน่าจะช่วงปิดเทอมใหญ่) พ่อกับพี่ก็ทะเลาะกันครั้งใหญ่(ตั้งเเต่เด็ก พี่ พ่อ ย่า นอนห้องเดียวกัน)รู้สึกว่าพ่อเราด่าพี่ว่า ลูกตุ๊ด เเละก็คําด่าสารพัดเลย เช่น ไอควาย  พี่เราก็เริ่มโกรธจนด่ากลับอย่างเเรงค่ะ พ่อเราก็ดันยุว่า ถ้าเเน่จริงก็ต่อยกูสิ!! จากนั้นพ่อเราก็ต่อยหน้าพี่เราค่ะ พี่ก็โกรธเเละจะต่อยพ่อคืนละเเต่เเม่กับย่าเรามาห้ามค่ะ พอพี่เราอารมณ์สงบลงนิดนึ่งก็ไปอยู่ที่ห้องดูทีวี คือเขาพยายามห่างจากพ่อเเต่พ่อเราก็ไม่ยังไม่จบด่าพี่เราตามหลังเลยค่ะ หลังจากนั้นพี่เราก็ย้ายไปอยู่ห้องเก็บของค่ะ(ไปปัดกวาดเเละจัดห้องอยู่)พอเหตุการณ์สงบพ่อก็มาบอกกับเราว่า อะไรที่ไม่ดีก็ไม่ต้องไปจํามัน ไอเราก็นึกว่าพ่อคงปรับตัวเเต่เขาก็กลับมาเป็นคนเจ้าอารมณ์เหมือนเดิมค่ะ พอจากเหตุการณ์นี้เเม่เราก็โทรไปปรึกษากับครูที่เคยดูเเลท่านมาค่ะ(ตอนเด็กเเม่เราเคยอยู่สถานเด็กกําพร้าเเละสนิทกับครูดูเเลที่นั้น)
ครูเขาก็เเนะนําให้พาพ่อเราไปวัดเเห่งนึ่งค่ะ เเต่เหมือนทางบ้านเราจะพาไปไม่ได้เลยต้องไปบําบัดที่โรงพยาบาลที่ห้องจิตเวชทั้งครอบครัวเเทนค่ะ ตอนไปพบหมอ เขาก็จะให้ไปคุยเป็นรายบุลคลค่ะส่วนคนที่เหลือก็นั่งรอข้างนอกห้อง ตอนเราถูกเรียกก็เข้าไปค่ะ หมอน่ารักมาก พูดเป็นกันเองเเล้วพอเราบอกว่าอยู่ที่บ้านพ่อเรานิสัยเป็นเเบบนี้เขาก็พยายามจะให้เราไม่ใส่ใจเเละหลีกเลี่ยงพ่อเราค่ะ เช่นหากิจกรรมอื่นทํา หรือพอพ่อเขาให้ทําอะไรก็ทํา หลีกเลี่ยงการถูกด่าค่ะ
พอกลับมาจากพบหมอเราก็พึ่งรู้ว่า พ่อเราต้องกินยาระงับประสาทค่ะ (เพราะเราเห็นเเม่เราเอาไปให้พ่อทุกวันช่วงนั้น) ตอนที่เกิดเหตุการณ์เรายังไม่ค่อยเข้าใจเพราะหวาดกลัวพ่ออยู่ค่ะ เเต่ตอนนี้เราจะ ม.5 เเล้วเราก็มั่นใจว่าพ่อเราน่าจะมีอาการผิดปกติทางประสาทค่ะ


สรุปรวมๆก็คือ พ่อเราเป็นโรคประสาท  บ่อยครั้งชอบพูดคนเดียว พอทะเลาะกับย่าก็จะพูดวนๆว่าระวังผีจะอยู่มาเป็นเพื่อนนะ(ย่าเรากลัวผีค่ะ)ละก็จะด่าย่าเราจนหลับไป  เเล้วปัจจุบัน ย่าเราก็ชําใจจนโพสล์ในเฟสว่าไม่อยากอยู่ทํานองนี้ พอพ่อเห็นก็จะด่าย่าไปเรื่อยๆจนย่าต้องเอ่อออว่าก็เเค่โพสล์ไม่คิดจะทําจริง เเต่ถ้าทะเลาะกับเเม่ก็จะด่าเเรงจนเเม่เราต้องออกไปซื้อของกินมาประเคนถึงเตียงเลยค่ะ เพื่อให้พ่อสงบลง ส่วนพี่เราก็หลังจากทะเลาะกับพ่อครั้งนั้นก็มีเเรงใจว่าถ้าจบ ม.6 จะไปเรียนอยู่ที่ไกลๆ จนปัจจุบันเขาก็เรียนสาขานึ่งที่ไกลบ้านค่ะก็เรียนไปฝึกงานไปด้วย
ส่วนเราก็ได้คุยกับคุณหมอก็ดีขึ้นค่ะเเต่พอมาที่บ้านถ้าเราทะเลาะกับพ่อ พ่อก็จะไปบ่นให้เเม่กับย่าฟัง พอเเม่เรารู้ก็จะมาว่าเราค่ะว่าทําไมไม่ฟังพ่อ ชอบทําตัวมีปัญหาอะไรทํานองนี้ ส่วนย่าเราก็จะบอกให้ยอมๆเขาบ้าง
เเต่เราไม่คิดงั้นค่ะ เราก็จะเถียงค่ะ เพราะเราเจออะไรเเบบนี้มาตั้งเเต่เด็กเเล้วเริ่มจะไม่ไหวเเล้วเพราะบ่อยครั้งพ่อเราจะชอบเเบบตบหัวเเล้วลูบหลังค่ะ พอตอนเราเถียง เขาก็จะด่าเเรงว่า อีนังนี้ อียิ้ม ยิ้ม ยิ้ม  อีช้างเย็*  สารพัดคําด่าเลยเเต่ถ้าอารมณ์ดีก็จะมาพูดว่า ที่ด่าไปไม่ได้ตั้งใจ ขอให้ลืมๆมันไปซะ เเต่พอทําอะไรไม่ถูกใจเขาก็จะ ด่าเหมือนเดิมเลยค่ะ เเล้วมันก็จะวนลูปเเบบนี้ต่อไป จนถึงปัจจุบัน พอเราไปบอกเล่าเรื่องบอกนี้ให้หมอฟังทุกครั้ง หมอก็เริ่มจะเเนะนําให้กินยาต้านโรคซึมเศร้าค่ะ หมอเขาพูดทุกครั้งว่า

"ยาตัวนี้กินเเล้วไม่ได้ทําให้หนูมีความสุขเลยนะ มันต้องใช้เวลา เเละก็หมอไม่ได้จะบังคับว่าต้องกินหรอกนะ ถ้าหนูอยากลองหมอก็จะจัดยาให้"
หมอก็จะพูดทํานองนี้ค่ะคือเขาจะให้เราตัดสินใจเอาเองเลย พอเราเริ่มจะไม่ไหวเพราะเครียดสะสมตั้งเเต่เด็กก็เลยขอยามากินค่ะ
พอเราบอกเล่าให้พ่อฟังว่าเราต้องกินยา เขาก็จะไม่เเสดงอาการอะไรให้เห็นเลยเขาเเค่มองเเล้วก็เงียบค่ะ เเล้วพอวันที่เรามีปัญหากับเขา เขาก็จะพูดกับย่าในห้องว่า
"หมอเขาให้ยามากินบ้างรึเปล่าว่ะ"
เขาพูดดังจนเราอยู่ห้องข้างๆได้ยินเลยเเละก็จะบ่นเเละด่าเราให้ย่าฟัง พอเราได้ยินก็บั่นทอนจิตใจไม่น้อยเลยค่ะ เราก็ทานตลอดนะคะ เเต่ยามันก็มีผลข้างเคียงก็เเบบอยากอาหารน้อยลง มันทําให้เราต้องเลิกกินไปพักๆค่ะ เเละกินเป็นพักๆเหมือนกัน สําหรับเรามันทรมาณนะ ทั้งต้องกินยาที่มีผลข้างเคียงเเละต้องมาฟังคน 2 คนกล่าวถึงเราในขั่วลบเกือบทุกวัน มันก็ไม่โอเคค่ะ
เราควรทําอย่างไรดีคะ.....
(ป.ล มีรายละเอียดมากกว่านี้เเต่เราไม่สะดวกที่จะบอกนะคะ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่