สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต. /ทูตพาณิชย์) ณ นครชิคาโก สหรัฐอเมริกา ได้ออกมาเปิดเผยว่า บริษัท Datassential ในนครชิคาโก ซึ่งดำเนินด้านการวิจัยธุรกิจบริการอาหาร ได้เปิดเผยข้อมูลการวิจัยผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ต่อสถานการณ์ของ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหารในสหรัฐฯ ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา ได้ระบุว่า
หลังจากผ่านเหตุการณ์การระบาดของโควิด-19 มาร่วมปีกว่า ๆ นั้น ได้ส่งผลกระทบให้ร้านอาหารภายในประเทศเป็นอย่างมาก จนไม่สามารถแบกรับทุนค่าใช้จ่ายได้ จนต้องปิดกิจการไป ซึ่งรวมแล้วมีผู้ปิดกิจการจากโควิด-19 ระบาดไปมากถึง ๗.๙ หมื่นร้าน เลยทีเดียว

นอกจากนี้ บริษัท Datassential ยังได้ลิสท์ข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับผลกระทบอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นต่อร้านอาหารดังนี้

- ร้านอาหารจำนวน ๗๙,๔๓๘ แห่งในสหรัฐฯ ปิดกิจการถาวร คิดเป็นร้อยละ ๑๐.๒ ของจำนวนร้านอาหารในฐานข้อมูลบริษัทฯ ทั้งหมด ๗๗๘,๘๐๗ แห่ง

- ร้านอาหารประเภท Food Trucks เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด หรือร้อยละ ๒๒.๕ ปิดกิจการถาวร

- ร้านอาหารบริการแบบด่วน (Quick-Service) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีจำนวนมากที่สุดในฐานข้อมูล เลิกในระดับต่ำที่สุดหรือร้อยละ ๙.๘

-ร้านอาหารประเภทลูกโซ่ที่มีขนาดใหญ่และมีสาขามากกว่า  ๕๐๑ แห่งทั่ว ประเทศสหรัฐฯ ซึ่งมีจำนวน 75 ราย ดำเนินกิจการไปได้ดีกว่าร้านอาหาร เอกเทศและร้านอาหารประเภทลูกโซ่ที่มีขนาดเล็ก
.
-ร้านอาหารเอกเทศ ดำเนินไปได้ดีกว่าร้านอาหารประเภทลูกโซ่ที่มีจำนวนสาขาน้อยกว่า ๕๐๐ แห่ง

-ร้านอาหารประเภทลูกโซ่ที่มีจำนวนสาขา 51-100 แห่ง ได้รับผลกระทบหนักที่สุด และร้อยละ ๑๖.๒ ปิดกิจการอย่างถาวร

-ประเภทครัวร้านอาหาร: ร้านอาหารฝรั่งเศส ได้รับผลกระทบมากที่สุดปิดกิจการถาวร ร้อยละ ๑๕.๓

-ร้านอาหารที่จำหน่ายเบอร์เกอร์ ปิดกิจการถาวร ร้อยละ ๗.๓

-กรุงวอชิงตันดีซี มีจำนวนร้านอาหารที่ปิดกิจการถาวรสูงที่สุด หรือร้อยละ 14.9 ในขณะที่รัฐเดลาแวร์ มีจำนวนร้านอาหารปิดกิจการถาวรในอัตราต่ำที่สุด หรือร้อยละ ๘.๒
...

ด้าน สคต. ณ นครชิคาโก ได้ระบุว่า ธุรกิจร้านอาหารเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญเป็นอันดับที่สองต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ มี มูลค่ามากกว่า ๒ ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีการจ้างงาน ๑๕.๖ ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ๑๐ ของแรงงานในสหรัฐฯ โรคระบาดโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการว่างงานกว่า ๓ ล้านคน ในธุรกิจบริการอาหาร

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ตลาดร้านอาหาร ยังได้คาดการณ์ว่า ธุรกิจบริการอาหารจะมีรายได้ขั้นสูงไม่เกิน ๕๕๐ พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือจะสูญเสียรายได้ประมาณ ๒๐๐-๒๕๐ พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่คาดว่าจะมียอดขายขยายตัวเพิ่มขึ้นในปี ๒๕๖๔ หรือเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน ประมาณ ๖๕๐ พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้การคาดหวังของธุรกิจบริการอาหารในอนาคตจะเชื่อมโยงโดยตรงกับวัคซีนการบำบัด COVID-19 และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
.
อย่างไรก็ดีโควิด-19 เป็นทั้งอุปสรรค และโอกาสต่อความต้องการสินค้าไทย โดยส่งผลกระทบเชิงลบต่อสินค้าในด้านความล่าช้าและเพิ่มต้นทุนในการขนส่ง และสินค้าบางรายการขาดแคลนในตลาด และราคาสินค้าเครื่องปรุงอาหารไทยที่จำหน่ายมีราคาสูงขึ้น
.
นอกจากนั้น งาน NRA Restaurant Show ซึ่งเดิมจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒/-๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๔ เป็นงานแสดงสินค้าสำคัญที่สุดของตลาดธุรกิจบริการอาหารของสหรัฐฯ ยังได้ถูกยกเลิกเป็นครั้งที่สอง เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังอยู่ในระดับเกินกว่ามาตรการควบคุม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของธุรกิจบริการอาหาร
.
ในขณะเดียวกัน โควิด-19 สร้างโอกาสความต้องการสินค้ากลุ่มใหม่ เป็นผลจากการให้ความสำคัญ และปฏิบัติในเรื่องความปลอดภัยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายไวรัส เช่น บรรจุภัณฑ์อาหาร Carry-out ได้แก่ กล่องใส่อาหาร ถุงแบบต่าง ๆ และของใช้ ด้าน สุขอนามัย เช่น ถุงมือยาง หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ น้ำยาทำความสะอาด
.
รวมทั้งสินค้าที่มีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นสูงของธุรกิจร้านอาหาร คือ บรรจุภัณฑ์ใช้หนเดียว (Single-use packaging) ได้แก่ Single-use cups และ To-go box เป็นต้น เนื่องจากความต้องการจัดส่งอาหารให้ลูกค้าเพิ่มขึ้น ผู้ผลิต/ส่งออกไทยควรพิจารณาการออกแบบบรรจุภัณฑ์โดยบรรจุภัณฑ์ต้องได้รับการแก้ไขปรับปรุงในด้าน ความเหมาะสม ความกะทัดรัด คุณสมบัติการรักษาอุณหภูมิอาหาร และความปลอดภัยเพื่อการนำพาอาหาร

https://money.yahoo.com/raising-canes-founder-on-restaurant-revival-theyll-come-back-stronger-than-ever-132351700.htm
-------------------------------

อ้าว เป็นประเทศประชาธิปไตย บริหารบ้านเมืองยังไงให้ขาดทุนได้ไง
นักโหนประชาธิปไตยในไทยกล่าวไว้ว่าถ้าเป็นประชาธิปไตย เศรษฐกิจจะดี แต่ทำไมธุรกิจถึงล้มกันหว่า?