ติดเชื้อโควิด19ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

สวัสดีคะทุกคน กระทู้นี้อยากแบ่งปันประสพการณ์ที่ตัวเองได้ติดเชื้อโควิด 19 โควิดมันน่ากลัว กว่าที่คิด  ป้าติดจากแฟนในประเทศสวิตเซอร์แลนด์  ขอเรียกแทนตัวเองว่าป้านะค่ะ  ก่อนจะเข้าเรื่องราวป้าขอบอกก่อนว่าเป็นการเขียนกระทู้แบบแบ่งปันนะ ป้าไม่เก่งมากในเรื่องการเขียน และตอนที่เขียนนี้ ก็ยังพักรักษาตัวอยู่ ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยในที่นี้ด้วย 🙏

สามีของป้าได้มีอาการไม่สบายในวันพุธที่ 31 มี.ค 21 ซึ้งเป็นวันทำงานปกติของเขา ทุกเที่ยงจะกลับมาทานข้าวที่บ้าน  พอเที่ยงเขามาถึงบ้านและได้บอกป้าว่ารู้สึกตัวไม่ค่อยดี ไม่ค่อยมีแรงมันแปลกๆ และได้แจ้งที่ทำงานไปว่าไม่ค่อยดี และหยุดงานครึ่งวัน ที่ทำงานแฟนเป็นสำนักงานทนายความ สำนักงานด้านกฏหมาย จะไม่ค่อยได้ติดต่อผู้คนโดยตรง ดั้งนั้นกลุ่มเสี่ยงจากที่ทำงานก็ตัดไปได้เลย แล้วมันมาจากใหน!? คำถามเกิดขึ้นก่อน !! อาการมันคือโควิด19 แน่นอน
เพราะอาการไม่ใช่แบบไข้ธรรมดา แต่เราไม่มีคนรอบข้างที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเลย เราเลยไม่รู้ติดมาได้ยังไง  พอตกเย็นแฟนตัวร้อนมาก เขาขอแยกตัวออกจากป้าและลูก เพื่อความชัวร์ เพราะได้คิวตรวจโควิดในเช้าวันถัดมาคะ  ไข้ขึ้นที่ 40 องศา แต่อาการไม่มีไรเลย แค่เหมือนเป็นไข้ขึ้นปกติ  
พอเช้าแฟนได้เดินทางไปตรวจและผลออกมาคือ ตืดเชื้อโควิด 19  แต่ไม่แสดงอาการ หมอให้กลับบ้าน แบบไม่มียา ไม่แนะนำอะไรเลยจริงๆ แค่บอกเดียวจะมีเจ้าหน้าที่รัฐบาลติดต่อมา

10 โมงเช้าเจ้าหน้าที่ติดต่อมาและสอบถามว่าครอบครัวอยู่อาศัยกันกี่คน และได้ขอเบอร์โทรและอีเมล์ของป้าไปด้วย เพราะป้ากับลูกชายต้องกักตัวด้วย 10 วัน เราจ
ะได้รับsms เพื่อให้กดยื่นยันการกักตัว การกักตัวของป้ากับลูกชาย ยังได้สิทธิที่ออกไปเดินได้วันละ 1 ช.ม เพราะเรายังไม่มีเชื้อนะคะ  ใน 10 วันนี้ไม่ว่าเราจะไปใหนเขาจะรู้หมด เพราะเขาได้ติดตั้งการติดตามเราในโทรศัพท์  กำหนดการสินสุดการกักตัวของครอบครอบจะครบในวันที่ 10 มี.ค 21

แฟนป้าไม่มีอาการอะไรเลยมีแค่ 2 วันแรกเท่านั้นที่มีไข้  หลังจากนั้นก็ปกติทุกอย่าง



พอถึงวันอาทิต์ที่ 4 มี.ค 21 ป้าตื่นเช้ามาป้ารู้สึกคอแห้งหนักมาก ไอแห้ง รู้สึกเริ่มไม่ค่อยดี เพลีย เหนื่อย ตกเย็นไข้ขึ้นที่ 40 องศา  ก็กินยารักษาตามอาการ เพราะไม่คิดว่าจะเป็นอะไรมากมาย เพราะแฟนป้าไม่มีอาการอะไรต่อเลยจาก 2 วันแรก  

วันจันทร์ที่ 5 มี.ค 21 อาการป้าเริ่มหนักขึ้นไข้ไม่ลด ไอไม่หยุด ร่างกายเพลียไม่มีแรง แต่ กินอะไรไม่ได้เลยแม้แต่ซุป ดื่มน้ำขิงได้อย่างเดียว  

วันอังคารเริ่มหายใจไม่สะดวก แต่ก็ยังไม่ไปโรงพยาบาลนะคะ เพราะยังคิดว่าไม่หนักมาก
ไข้ขึ้นไม่ลงเลยตั้งแต่วันอาทิตย์จนถึงวันพฤหัสบดี  เพราะความชะล้าใจของตัวเองและแฟน  อาการมันถึงได้หนักขึ้น จนหายใจไม่ออก แรงหมด ต้องโทรเข้าที่หมอบ้าน หมอบ้านส่งตัวฉุกเฉินไปที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน ไม่มีที่ใหนรับเลย ต้องไปอีกเมืองหนึ่งห่างกันออกไปเกือบ 1 ช.ม  

ตอนนั้นสติยังมี ยังรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง  พอถึงโรงพยาบาล หมอ พยาบาล มาล้อมเต็มไปหมด เครื่องมืออะไรต่ออะไรเต็มไปหมด ตอนนั้นสิ่งที่หมออยากได้คือเลือดของป้า แต่หาเส้นเลือดไม่เจอ เพราะไม่มีอาหารในร่างกายเลย ใช้เวลากว่า 4-5 ช.ม  กว่าจะได้เลือด ซื้งทางหมอได้นำเครื่องมาตรวจหาเส้นเลือด ถึงสามารถเจาะเลือดป้าออกไปได้  ในระหว่างนั้นป้าจำได้บ้างไม่ได้บ้างว่า หมอ พยาบาลทำอะไรกับป้าบ้าง!! แต่สิ่งหนึ่งที่ป้าพูดกับหมอ  ป้าขอหายใจได้ไหม ป้าไม่ไหวแล้วคะหมอ
ตอนนั้นต้องการหายใจ ไม่รู้ว่าพูดออกไปแบบใหนจริงๆ  เพราะคิดว่าตายแน่ๆ ถ้าไม่มีเครื่องช่วยหายใจ  หมอและพยาบาลตอนนั้นคือ ยั่วเยี้ยะไปหมด มีสายอะไรต่ออะไรเต็มตัวไปหมด แขน ขา โดนเจาะจนพรุน ได้ยินเสียงเอะอะ วิ่งเข้าออก หมอถามกินอะไรได้ไหม ?! จำได้ว่ามองหน้าหมอแล้วบอกหิว แต่กินไม่ได้ เหนื่อย แล้วก็มีสายอะไรมา3-4 สาย โยงไปทั่ว

รู้ตัวอีกที พยาบาลก็เข็นเราไปเครื่องอะไรก็ไม่รู้หมุนรอบตัว แล้วบอกให้ป้าหายใจให้นิ่งที่สุด  อยากบอกว่า แค่หายใจได้ตอนนั้นก็บุญมากแล้ว  ใช้เวลาในเครื่องนั้นประมาณ 20 นาที

หลังจากนั้นป้าก็ไม่รู้สึกตัวอีกจนเย็นเลย ตอนพยาบาลพยายามให้ดื่มน้ำ ดื่มชา และเปลี่ยนสายอะไรเพื่มก็ไม่รู้ ป้าอยู่ในห้องนั้นคนเดียว แต่รอบๆเต็มไปด้วยเครื่องและสายเต็มไปหมด  ป้าไม่มีแรงแม้แต่ขยับหัวไปทางใด ทางหนึ่งเลย  คิดว่าจะต้องตายเพราะโควิดแน่ๆ ชีวิตคงไม่รอดแน่

พอผ่านไป 4วัน ป้าเริ่มดีขึ้น หมอบอกว่าได้ทำการอะไรสักอย่าง วันละ 1.30 ช.ม ทุกวัน เพื่นให้ปอดเรากลับมาทำงาน และฆ่าเชื้อทุกเช้า ป้าเริ่มอยากเห็นตัวเอง และขอให้พยาบาลถ่ายรูปให้ อยากเห็นว่าตัวเองเป็นยังไง

ภาพนี้คือการรักษามาแล้ว 4 วัน ซึ้งหมอได้ถอดสายออกไปแล้วมากกว่าครึ่งหนึ่ง  เริ่มมีแรง ขอหมอกินกล้วยได้ไหม เพราะหิว พยาบาลกับหมอให้กล้วยมา 1 ลูก  กินกล้วย 1 ลูก ได้ครั้งละ 1 คำเท่านั้น มากกว่านั้นคือ อ้วก และใช้เวลาเคี้ยวนานมากแต่ละคำ เพราะเหนื่อย แม้นแต่ดื่มน้ำ ขยับตัว ทุกอย่าง ต้องช้าหมด  เหมือนเริ่มหัดหายใจใหม่  ทุกอย่างต้องทำช้าลง เหมือนเด็กหัดกิน หัดดื่ม หัดขยับตัว  กล้วย 1 ลูก ใช้เวลากิน 24 ช.ม  มันคือเรื่องจริง

ใว้ป้าจะค่อยๆแก้ไข้ให้เข้าใจมากขึ้นนะ ตอนนี้ยังงงอยู่ เพราะยังต้องกินยา และพักฟื้น แต่ก)อยากเขียนใว้ ตอนที่ยังจำได้

ป้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล 6 วัน ถ้ารวมวันแรกที่เป็นก็ 12 วัน ซึ้งมันทรมานมากๆคะ

ตอนนี้ป้ากลับมาพักรักษาตัวที่บ้านต่อ ต้องระวังทุกเรื่อง  

คุณหมอบอกว่าร่างกายของป้าไม่แข็งแรง ป้าเพิ่งผ่าตัดมาไม่ถึง 3 เดือน ป้าก็ได้รับเชื้อโควิด ร่างกายป้าเลยไม่มีภูมิคุ้มกัน  ที่ป้าเป็นหนักก็เพราะร่างกายอ่อนแอ

พอผ่านจุดนั้นมา ป้ามองกลับไป มันทำให้เราไม่อยากใช้ชีวิตแบบล้วกๆอีกต่อไป

สิ่งสำคัญคือ ล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง หลีกเลี่ยงที่แออัด กลุ่มเสี่ยง ดูแลสุขภาพตัวเอง ออกกำลังกาย กินร้อน ช้อนกลาง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่