สำหรับกระทู้ขาจากไทยไปอเมริกา >>
พาน้องหมาจากไทยบินไปอเมริกาอย่างละเอียด Thailand > USA (เวอชั่นโควิด)
เราได้พาน้องหมาพันธุ์มัลทีสจากนิวยอร์คกลับเมืองไทยเมื่อตุลา2020 ตอนโควิดกำลังระบาด ตอนที่ทำเครียดมากเพราะไม่เคยทำมาก่อน และไม่มีเพื่อนที่เคยทำด้วย กระทู้เอย เวปไชท์ของปศุสัตว์เอยก็อ่านแล้วยังงงๆมีขาดมีเกิน เลยคิดว่ามาตั้งกระทู้แชร์ประสบการณ์อย่างละเอียดให้พ่อแม่สัคว์เลี้ยงไว้ใช้ในการนำลูกเข้าไทย
ขอทิ้ง disclaimer ไว้ตรงนี้ว่ากรมปศุสัตว์หรือ USDA อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงวิธีทำหรือขอเอกสารอย่างอื่นในอนาคต ขอให้เช็คกับเวปไซท์ โทรหรืออีเมลล์เพื่อป้องกันการผิดพลาด
อย่าเข้าใจผิดว่าเป็นม็อปถูกพื้นหรือขนมสายไหมนะคะ 😆
เลือกสายการบินสำหรับ pet on cabin
สำหรับสุนัขเรา นางหนักแค่ 4กิโล เราเลยเลือกสายการบินที่เอาสัตว์ขึ้นบนเครื่องได้ ชึ่งถ้าบินจาก JFK มีให้เลือกแค่ 2 คือ Korean Air and Asiana
เราบิน Korean Air ซึ่งตอนนี้ค่าธรรมเนียมขึ้นราคาเป็น $300 แล้ว
ตามกฎแล้วน้ำหนักสัตว์บวกกับกระเป๋าห้ามเกิน 7กิโลค่ะ เราซื้อ Amazon Basics Soft-Sided Mesh Pet Travel Carrier - Medium
https://www.amazon.com/gp/product/B00QHC0050
ทรานสิทที่เกาหลีก็สะดวกมาก ไม่ต้องมีเอกสารเพิ่มเติม แต่แนะนำให้ซื้อผ้าอ้อมหมาไปด้วยจะได้ไม่ทำเลอะเทอะ
ขอ Import Permit จากกรมปศุสัตว์ ด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
http://en.dld.go.th/index.php/en/pet-travel-menu/importation-animal-animal-products
Import Permit มีอายุ 60วัน จากวันออกเอกสาร แต่ต้องทำอย่างน้อย 14วันก่อนวันเดินทาง เพราะฉะนั้นเราสามารถขอไว้ก่อนได้เลย
เอกสารที่ต้องเตรียมและอีเมลส่งไปที่ด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ qsap_bkk@dld.go.th
1 ก๊อปปี้พาสปอร์ตของเจ้าของ
2 ก๊อปปี้พาสปอร์ตหรือบัตรประชาชนของผู้ที่มารับสัตว์เลี้ยง สำหรับผู้ที่ไม่ได้มากับสัตว์เลี้ยง หรือช่วงโควิดที่เราต้องไปกักตัวแต่สัตว์เลี้ยงเราไปด้วยไม่ได้
3 แบบ ร1/1 ด่านล่าง ย้ำว่าใช้ฟอร์มนี้นะคะ
4 ประวัติการฉีดวัคซีน ตามฟอร์มด่านล่าง ให้สัตวแพทย์กรอกนะคะ
5 รูปของสัตว์เลี้ยง
6 วันที่และเวลา เที่ยวบิน อย่างคร่าวถ้ายังไม่ได้ซื้อตั๋ว (เขียนในฟอร์ม ร1/1แล้ว แต่เราเขียนแยกให้อีก)
7 Port of exit สนามบินที่ออกจาก USA
8 Certificate of microship เอกสารของเราจาก Banfield (คลินิกใน USA ที่เราใช้) จะมีเลข microship อยู่ในเอกสารอยู่แล้ว ก็ส่งเอกสารนั้นไปเลย
อีเมลเอกสารทั้งหมดไปที่ด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ qsap_bkk@dld.go.th
ถ้ามีอะไรตกหล่น เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ทราบทันที เพราะฉะนั้น สบายใจได้
ใช้เวลาประมาณ 1-2 ก็จะส่ง Import Permit มาให้เรา แต่ต้องตรวจเอกสารนะคะ เพราะเราเขาส่งผิดตัวมาให้
ขอ Health Certificate และขอการรับรองจาก APHIS Vet Services Endorement Office
https://www.aphis.usda.gov/aphis/pet-travel/by-country/pettravel-thailand
https://www.aphis.usda.gov/aphis/ourfocus/animalhealth/endorsement-offices/vs-service-center-state-contact/new-york
อันนี้เครียดมากบอกเลย เพราะไม่เคยทำมาก่อนและ Health Certificate อยู่ได้แค่ 10วันเท่านั้น และ Endorement Office ไม่เปิดเสาร์อาทิตย๋และต้องส่งไปรษณีย์ไปมาทำให้กลัวว่าจะมีปัญหา แต่ไม่ต้องกลัวค่ะ เราเจอปัญหามาแล้ว เลยรู้ว่าไม่ยากเลย แต่อาจจะขึ้นอยู่กับเมืองที่เราทำเรื่องด้วย ที่นิวยอร์คช่วยเหลือดีมากเลย
ก่อนจะทำข้อนี้ สัตว์เลี้ยงจะต้องโตกว่า 6 เดือน และฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าสม่ำเสมอนะคะ ถ้าเพิ่งฉีดกระตุ้นสัตว์เลี้ยงจะไม่สามารถขึ้นเครื่องได้ระยะหนึ่ง ตรวจสอบกับสัตวแพทย์ให้ดีนะคะ
ขอ Health Certificate for Export of Dogs/Cats to Thailand จาก USDA accredited veterinarian ย้ำว่าต้องเป็นฟอร์มสำหรับเมืองไทย และสัตวแพทย์ได้รับการรับรองจาก USDA
ทางคลินิกของเราโปรมาก บอกแต่ประเทศก็จัดการได้เรียบร้อยเลย
ขอ Rabies certificate
เข้าไปที่
https://www.aphis.usda.gov/aphis/ourfocus/animalhealth/endorsement-offices เพื่อหา Endorement Office ใกล้บ้าน
ส่ง Health Certificate Rabies certificate เช็คหรือ money order จำนวน $38 (เหมือนจำได้ว่าของเราไม่รับเครดิทการ์ด)
การส่งเอกสาร
เนื่องจากโควิด Endorement Office รับเรื่องทางจดหมายเท่านั้นนะคะ
เราไปทำที่ FedEX แนะนำว่าเปิดบัญชีกับ FedEX เลยจะง่ายกว่าเยอะ เพราะการปริ้น Return Label โดยไม่มีบัญชียุ่งยากมาก
เราส่ง Standard overnight ทั้ง2ขาเพื่อความสบายใจ แต่อย่าให้ถึงเช้าไปนะคะ กลัวไม่มีคนรับ
เราลืมส่ง Rabies certificate ไปด้วย ทางเจ้าหน้าที่ก็โทรมาหาเลย แล้วให้อีเมลกับเบอร์เคส ให้ส่งทางอีเมลได้
เนื่องจากโควิด เจ้าหน้าที่บวกเวลาดำเนินการไปอีก 1 วัน แต่ของเราวันสองวันก็ส่งออกมาเลย คิดว่าคนขอคงน้อยช่วงโควิด
ขึ้นเครื่อง
พนักงานจะตรวจเอกสารทั้งหมดก่อนขึ้นเครื่อง แต่ไม่มีการเอาเอกสารอะไรไปเลยค่ะ
ตรวจเสร็จ จ่ายเงินก็เรียบร้อยค่ะ
พักเครื่องที่เกาหลี
ไม่ว่าจะอยู่กี่ชม ห้ามออกนะคะ เพราะการนำสัตว์เข้าออกเกาหลีนั้นต้องมีการตรวจ antibody ของวัคซีนพิษสุนัขบ้า ซึ่งใช้เวลาเป็นอาทิตย์ในการเตรียม
ตอนเราเดินผ่านที่ตรวจ ก็ฉลุยค่ะ ไม่ขอดูอะไรเลย แต่เตรียมเอกสารให้พร้อมนะคะ เขาจะขอดูเมื่อไหร่ก็ได้
พอผ่านที่ตรวจมาแล้วก็จับน้องใส่ผ้าอ้อมแล้วก็เดินเล่นสบายใจเลยค่ะ
ปลายทางสนามบินสุวรรณภูมิ ยื่นเอกสารและเสียค่าทำเนียมและภาษีนำเข้า
เมื่อถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว จากสายพานรับกระเป๋า เดินไปทางขวามือเกือบสุดจะมีห้องออฟฟิศของปศุสัตว์อยู่ ให้เอาเอกสาร import permit และ Health Certificate ไปยื่นพร้อมกับค่าธรรมเนียม 510บาท ต้องเตรียมมาพอดีนะคะ
เมื่อทำเอกสารเรียบร้อยแล้ว ตอนทางออกต้องเสียภาษีนำเข้าอีกตัวละ 1000บาท แต่ถ้าเก็บใบเสร็จไว้ คราวหน้าไม่ต้องจ่ายอีกค่ะ
สำหรับช่างโควิด
แนะนำว่าตั้งแต่ลงเครื่องควรบอกเจ้าหน้าที่เลยว่าเรามีสัตว์เลี้ยง เพราะถ้าเราออกช้า ทุกคนย้ำว่าทุกคนต้องรอเราก่อนจะไปโรงแรมกักตัวได้ซึ่งรอเราประเป็นชมเพราะเจ้าหน้าที่ไม่สื่อสารกันสุดท้ายทุกคนมากดดันอยู่ที่ปศุสัตว์
คุยกับเจ้าหน้าที่เพื่อให้เขาช่วยเอาสัตว์เลี้ยวเราไปส่งให้เพื่อนเรา ซึ่งเจ้าหน้าที่แต่ละคนบอกคนละอย่าง ควรจะมีวิธีติดต่อกับคนรับได้ตลอดเวลาเพื่อจะได้ไม่สับสน
พาน้องหมาจากอเมริกากลับไทยอย่างละเอียด USA > Thailand (เวอชั่นโควิด)
เราได้พาน้องหมาพันธุ์มัลทีสจากนิวยอร์คกลับเมืองไทยเมื่อตุลา2020 ตอนโควิดกำลังระบาด ตอนที่ทำเครียดมากเพราะไม่เคยทำมาก่อน และไม่มีเพื่อนที่เคยทำด้วย กระทู้เอย เวปไชท์ของปศุสัตว์เอยก็อ่านแล้วยังงงๆมีขาดมีเกิน เลยคิดว่ามาตั้งกระทู้แชร์ประสบการณ์อย่างละเอียดให้พ่อแม่สัคว์เลี้ยงไว้ใช้ในการนำลูกเข้าไทย
ขอทิ้ง disclaimer ไว้ตรงนี้ว่ากรมปศุสัตว์หรือ USDA อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงวิธีทำหรือขอเอกสารอย่างอื่นในอนาคต ขอให้เช็คกับเวปไซท์ โทรหรืออีเมลล์เพื่อป้องกันการผิดพลาด
อย่าเข้าใจผิดว่าเป็นม็อปถูกพื้นหรือขนมสายไหมนะคะ 😆
เลือกสายการบินสำหรับ pet on cabin
สำหรับสุนัขเรา นางหนักแค่ 4กิโล เราเลยเลือกสายการบินที่เอาสัตว์ขึ้นบนเครื่องได้ ชึ่งถ้าบินจาก JFK มีให้เลือกแค่ 2 คือ Korean Air and Asiana
เราบิน Korean Air ซึ่งตอนนี้ค่าธรรมเนียมขึ้นราคาเป็น $300 แล้ว
ตามกฎแล้วน้ำหนักสัตว์บวกกับกระเป๋าห้ามเกิน 7กิโลค่ะ เราซื้อ Amazon Basics Soft-Sided Mesh Pet Travel Carrier - Medium
https://www.amazon.com/gp/product/B00QHC0050
ทรานสิทที่เกาหลีก็สะดวกมาก ไม่ต้องมีเอกสารเพิ่มเติม แต่แนะนำให้ซื้อผ้าอ้อมหมาไปด้วยจะได้ไม่ทำเลอะเทอะ
ขอ Import Permit จากกรมปศุสัตว์ ด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
http://en.dld.go.th/index.php/en/pet-travel-menu/importation-animal-animal-products
Import Permit มีอายุ 60วัน จากวันออกเอกสาร แต่ต้องทำอย่างน้อย 14วันก่อนวันเดินทาง เพราะฉะนั้นเราสามารถขอไว้ก่อนได้เลย
เอกสารที่ต้องเตรียมและอีเมลส่งไปที่ด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ qsap_bkk@dld.go.th
1 ก๊อปปี้พาสปอร์ตของเจ้าของ
2 ก๊อปปี้พาสปอร์ตหรือบัตรประชาชนของผู้ที่มารับสัตว์เลี้ยง สำหรับผู้ที่ไม่ได้มากับสัตว์เลี้ยง หรือช่วงโควิดที่เราต้องไปกักตัวแต่สัตว์เลี้ยงเราไปด้วยไม่ได้
3 แบบ ร1/1 ด่านล่าง ย้ำว่าใช้ฟอร์มนี้นะคะ
4 ประวัติการฉีดวัคซีน ตามฟอร์มด่านล่าง ให้สัตวแพทย์กรอกนะคะ
5 รูปของสัตว์เลี้ยง
6 วันที่และเวลา เที่ยวบิน อย่างคร่าวถ้ายังไม่ได้ซื้อตั๋ว (เขียนในฟอร์ม ร1/1แล้ว แต่เราเขียนแยกให้อีก)
7 Port of exit สนามบินที่ออกจาก USA
8 Certificate of microship เอกสารของเราจาก Banfield (คลินิกใน USA ที่เราใช้) จะมีเลข microship อยู่ในเอกสารอยู่แล้ว ก็ส่งเอกสารนั้นไปเลย
อีเมลเอกสารทั้งหมดไปที่ด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ qsap_bkk@dld.go.th
ถ้ามีอะไรตกหล่น เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ทราบทันที เพราะฉะนั้น สบายใจได้
ใช้เวลาประมาณ 1-2 ก็จะส่ง Import Permit มาให้เรา แต่ต้องตรวจเอกสารนะคะ เพราะเราเขาส่งผิดตัวมาให้
ขอ Health Certificate และขอการรับรองจาก APHIS Vet Services Endorement Office
https://www.aphis.usda.gov/aphis/pet-travel/by-country/pettravel-thailand
https://www.aphis.usda.gov/aphis/ourfocus/animalhealth/endorsement-offices/vs-service-center-state-contact/new-york
อันนี้เครียดมากบอกเลย เพราะไม่เคยทำมาก่อนและ Health Certificate อยู่ได้แค่ 10วันเท่านั้น และ Endorement Office ไม่เปิดเสาร์อาทิตย๋และต้องส่งไปรษณีย์ไปมาทำให้กลัวว่าจะมีปัญหา แต่ไม่ต้องกลัวค่ะ เราเจอปัญหามาแล้ว เลยรู้ว่าไม่ยากเลย แต่อาจจะขึ้นอยู่กับเมืองที่เราทำเรื่องด้วย ที่นิวยอร์คช่วยเหลือดีมากเลย
ก่อนจะทำข้อนี้ สัตว์เลี้ยงจะต้องโตกว่า 6 เดือน และฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าสม่ำเสมอนะคะ ถ้าเพิ่งฉีดกระตุ้นสัตว์เลี้ยงจะไม่สามารถขึ้นเครื่องได้ระยะหนึ่ง ตรวจสอบกับสัตวแพทย์ให้ดีนะคะ
ขอ Health Certificate for Export of Dogs/Cats to Thailand จาก USDA accredited veterinarian ย้ำว่าต้องเป็นฟอร์มสำหรับเมืองไทย และสัตวแพทย์ได้รับการรับรองจาก USDA
ทางคลินิกของเราโปรมาก บอกแต่ประเทศก็จัดการได้เรียบร้อยเลย
ขอ Rabies certificate
เข้าไปที่ https://www.aphis.usda.gov/aphis/ourfocus/animalhealth/endorsement-offices เพื่อหา Endorement Office ใกล้บ้าน
ส่ง Health Certificate Rabies certificate เช็คหรือ money order จำนวน $38 (เหมือนจำได้ว่าของเราไม่รับเครดิทการ์ด)
การส่งเอกสาร
เนื่องจากโควิด Endorement Office รับเรื่องทางจดหมายเท่านั้นนะคะ
เราไปทำที่ FedEX แนะนำว่าเปิดบัญชีกับ FedEX เลยจะง่ายกว่าเยอะ เพราะการปริ้น Return Label โดยไม่มีบัญชียุ่งยากมาก
เราส่ง Standard overnight ทั้ง2ขาเพื่อความสบายใจ แต่อย่าให้ถึงเช้าไปนะคะ กลัวไม่มีคนรับ
เราลืมส่ง Rabies certificate ไปด้วย ทางเจ้าหน้าที่ก็โทรมาหาเลย แล้วให้อีเมลกับเบอร์เคส ให้ส่งทางอีเมลได้
เนื่องจากโควิด เจ้าหน้าที่บวกเวลาดำเนินการไปอีก 1 วัน แต่ของเราวันสองวันก็ส่งออกมาเลย คิดว่าคนขอคงน้อยช่วงโควิด
ขึ้นเครื่อง
พนักงานจะตรวจเอกสารทั้งหมดก่อนขึ้นเครื่อง แต่ไม่มีการเอาเอกสารอะไรไปเลยค่ะ
ตรวจเสร็จ จ่ายเงินก็เรียบร้อยค่ะ
พักเครื่องที่เกาหลี
ไม่ว่าจะอยู่กี่ชม ห้ามออกนะคะ เพราะการนำสัตว์เข้าออกเกาหลีนั้นต้องมีการตรวจ antibody ของวัคซีนพิษสุนัขบ้า ซึ่งใช้เวลาเป็นอาทิตย์ในการเตรียม
ตอนเราเดินผ่านที่ตรวจ ก็ฉลุยค่ะ ไม่ขอดูอะไรเลย แต่เตรียมเอกสารให้พร้อมนะคะ เขาจะขอดูเมื่อไหร่ก็ได้
พอผ่านที่ตรวจมาแล้วก็จับน้องใส่ผ้าอ้อมแล้วก็เดินเล่นสบายใจเลยค่ะ
ปลายทางสนามบินสุวรรณภูมิ ยื่นเอกสารและเสียค่าทำเนียมและภาษีนำเข้า
เมื่อถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว จากสายพานรับกระเป๋า เดินไปทางขวามือเกือบสุดจะมีห้องออฟฟิศของปศุสัตว์อยู่ ให้เอาเอกสาร import permit และ Health Certificate ไปยื่นพร้อมกับค่าธรรมเนียม 510บาท ต้องเตรียมมาพอดีนะคะ
เมื่อทำเอกสารเรียบร้อยแล้ว ตอนทางออกต้องเสียภาษีนำเข้าอีกตัวละ 1000บาท แต่ถ้าเก็บใบเสร็จไว้ คราวหน้าไม่ต้องจ่ายอีกค่ะ
สำหรับช่างโควิด
แนะนำว่าตั้งแต่ลงเครื่องควรบอกเจ้าหน้าที่เลยว่าเรามีสัตว์เลี้ยง เพราะถ้าเราออกช้า ทุกคนย้ำว่าทุกคนต้องรอเราก่อนจะไปโรงแรมกักตัวได้ซึ่งรอเราประเป็นชมเพราะเจ้าหน้าที่ไม่สื่อสารกันสุดท้ายทุกคนมากดดันอยู่ที่ปศุสัตว์
คุยกับเจ้าหน้าที่เพื่อให้เขาช่วยเอาสัตว์เลี้ยวเราไปส่งให้เพื่อนเรา ซึ่งเจ้าหน้าที่แต่ละคนบอกคนละอย่าง ควรจะมีวิธีติดต่อกับคนรับได้ตลอดเวลาเพื่อจะได้ไม่สับสน