จากที่เขียนกระทู้ที่แล้ว
พาน้องหมาจากอเมริกากลับไทยอย่างละเอียด USA > Thailand (เวอชั่นโควิด) เจ้าตัวเล็กก็ต้องกลับมาอเมริกากับเราด้วย
กระทู้นี้ก็จะบอกรายละเอียดทุกอย่างในการเอาสุนัขจากเมืองไทยไปอเมริกา ย้ำว่าอเมริกานะคะ แต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกัน
ข้อมูลจากปศุสัตว์สามารถอ่านได้ที่นี่
http://aqs-suvarn-dld.go.th/wp/th/export/
เตรียมเอกสาร
สำเนาพาสปอร์ท และตัวจริง
หลักฐานการฉีดพิษสุนัขบ้า ตัวจริงและสำเนา ถ้าเรามาจากอเมริกาก็จะเป็น rabies certificate ถ้ายังไม่หมดอายุยา ก็ใช้ใบเดิมตอนเราเข้ามาได้เลย ถ้าภูมิลำเนามาจากไทย ก็จะเป็นสมุดฉีดวัคซีน
**สุนัขและแมวต้องมีอายุ 4 เดือนขึ้นไป (สุนัขต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเข็มแรกมาแล้ว 28 วัน)**
ใบรับรองการฝังไมโครชิพ ของเราเลขไมโครชิพมันอยู่บน rabies certificate เพราะฉะนั้นไม่ต้องทำสำเนาเพิ่มค่ะ
ยื่นเรื่องที่ด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
มายื่นเอกสารและตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์ที่ด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก่อนการเดินทางภายใน 3 วัน
อาบน้ำสัตว์เลี้ยงมาก่อนนะคะ สงสารคนทำงานตรงนั้น
ขับตาม google map มาได้เลยค่ะ ตึกแรกที่เราเห็นตอนเข้าเกทสุวรรณภูมิ เยื้องๆกับที่รับบัตรจอดรถ จอดหน้าตึกเลยคะ แต่อาจจะร้อนหน่อย
จะมีโต๊ะเล็กๆอยู่หน้าประตูเพราะกับกล่องใส่ฟอร์มเพื่อส่งออกสัตว์ กรอกข้อมูลเสร็จก็เดินเข้าไปยื่นเอกสารกับเจ้าหน้าที่เลยค่ะ
รอสักพักก็จะให้เราเข้าไปให้น้องหมาตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์และถ่ายรูปกับเจ้าของ 5นาทีก็เสร็จค่ะ จากนั้นก็รอเจ้าหน้าที่ทำเอกสาร
ถ้าไม่อยากนั่งรอตรงนั้น เดินมาหน่อยจะมี 7/11 ระหว่างทางมีหญ้าสวยๆให้น้องวิ่งนิดนึงเป็นกำไรชีวิต
พอถึงคิวเรา ก็จ่ายเจ้าหน้าที่ 260บาทค่ะ
ช่วงนี้โควิด คนไม่เยอะค่ะ เราไปถึงตอนสายๆ 9:10 พอ 10:45 ก็เสร็จแล้วค่ะ
ก่อนโควิดเพื่อนบอกว่าต้องไปรอเขาเปิดตั้งแต่ 7โมงเช้าเพราะคนเยอะมากๆๆ แต่ช่วงนี้สบายๆค่ะ
เอกสารทั้งหมด เขาจะให้สำเนาแนบมาด้วย เราแนะนำให้ทำสำเนาเพิ่มอีกชุดนึงคะ เพราะเพื่อนเคยเจอว่าตอนแว๊ะประเทศอื่น เขาเอาสำเนาไป
ขึ้นเครื่อง
เราบิน Korean Air เพราะถ้าไปนิวยอร์คเท่าที่ดูมา มีแต่ Korean Air กับ Asiana ที่ให้น้องหมาขึ้นบนแคบินได้ถ้ารวมกับกระเป๋าไม่เกิน 7กิโล
พนักงานใช้วิธีถ่ายรูปเอกสารตัวจริง แต่ไม่เอาตัวที่เป็นกระดาษไปเลย ไม่แน่ใจว่าเพราะว่าช่วงโควิดหรือเปล่า ที่จริงน่าจะทำนานแล้ว ฮ่าๆๆ
แล้วก็จ่ายค่าตัวน้อง $300 ค่ะ
พักเครื่องที่เกาหลี
ไม่ว่าจะอยู่กี่ชม ห้ามออกนะคะ เพราะการนำสัตว์เข้าออกเกาหลีนั้นต้องมีการตรวจ antibody ของวัคซีนพิษสุนัขบ้า ซึ่งใช้เวลาเป็นอาทิตย์ในการเตรียม
ตอนเราเดินผ่านที่ตรวจ ก็ฉลุยค่ะ ไม่ขอดูอะไรเลย แต่เตรียมเอกสารให้พร้อมนะคะ เขาจะขอดูเมื่อไหร่ก็ได้
เราพาน้องหมาเราเดินออกกำลังเดินเล่นทั่วสนามบินประมาณชมครึ่งก็ไม่มีใครมาเตือนอะไร เลยคิดว่าสามารถเอาหมาเดินได้ค่ะ
พกมาผ้าอ้อมหมามาด้วยนะคะ
ถึง JFK Airport
ช่วงโควิดสำหรับ US resident and citizen เขาปิดตู้ที่ตรวจเอกสารอัตโนมัติ ต้องผ่านเจ้าหน้าที่ทุกคน
ตอนแรกเจ้าหน้าที่ไม่เห็นตัวเล็ก แต่พอเขาถามเราว่าเอาอะไรมารึเปล่า เราบอกว่าเอาหมามาด้วย เขาก็บอกไหนๆเอาเอกสารมาดูสิ
พอเรายื่นให้เขาแล้วบอกว่าที่จริงเรามาจากอเมริกา เขาก็ยื่นเอกสารคืนเลย แล้วบอกว่า คนข้างนอกอาจจะขอดูเอกสารนะแล้วก็ให้เข้ามาเลย
การเรียกขอดูเอกสารขึ้นอยู่กับบุคคลนะคะ ขอให้เตรียมทุกอย่างมาให้พร้อมดึกว่ามาแก้ปัญหาที่หลังค่ะ
ขอให้เดินทางปลอดภัยนะทุกคน
พาน้องหมาจากไทยบินไปอเมริกาอย่างละเอียด Thailand > USA (เวอชั่นโควิด)
กระทู้นี้ก็จะบอกรายละเอียดทุกอย่างในการเอาสุนัขจากเมืองไทยไปอเมริกา ย้ำว่าอเมริกานะคะ แต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกัน
ข้อมูลจากปศุสัตว์สามารถอ่านได้ที่นี่ http://aqs-suvarn-dld.go.th/wp/th/export/
เตรียมเอกสาร
สำเนาพาสปอร์ท และตัวจริง
หลักฐานการฉีดพิษสุนัขบ้า ตัวจริงและสำเนา ถ้าเรามาจากอเมริกาก็จะเป็น rabies certificate ถ้ายังไม่หมดอายุยา ก็ใช้ใบเดิมตอนเราเข้ามาได้เลย ถ้าภูมิลำเนามาจากไทย ก็จะเป็นสมุดฉีดวัคซีน
**สุนัขและแมวต้องมีอายุ 4 เดือนขึ้นไป (สุนัขต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเข็มแรกมาแล้ว 28 วัน)**
ใบรับรองการฝังไมโครชิพ ของเราเลขไมโครชิพมันอยู่บน rabies certificate เพราะฉะนั้นไม่ต้องทำสำเนาเพิ่มค่ะ
ยื่นเรื่องที่ด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
มายื่นเอกสารและตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์ที่ด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก่อนการเดินทางภายใน 3 วัน
อาบน้ำสัตว์เลี้ยงมาก่อนนะคะ สงสารคนทำงานตรงนั้น
ขับตาม google map มาได้เลยค่ะ ตึกแรกที่เราเห็นตอนเข้าเกทสุวรรณภูมิ เยื้องๆกับที่รับบัตรจอดรถ จอดหน้าตึกเลยคะ แต่อาจจะร้อนหน่อย
จะมีโต๊ะเล็กๆอยู่หน้าประตูเพราะกับกล่องใส่ฟอร์มเพื่อส่งออกสัตว์ กรอกข้อมูลเสร็จก็เดินเข้าไปยื่นเอกสารกับเจ้าหน้าที่เลยค่ะ
รอสักพักก็จะให้เราเข้าไปให้น้องหมาตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์และถ่ายรูปกับเจ้าของ 5นาทีก็เสร็จค่ะ จากนั้นก็รอเจ้าหน้าที่ทำเอกสาร
ถ้าไม่อยากนั่งรอตรงนั้น เดินมาหน่อยจะมี 7/11 ระหว่างทางมีหญ้าสวยๆให้น้องวิ่งนิดนึงเป็นกำไรชีวิต
พอถึงคิวเรา ก็จ่ายเจ้าหน้าที่ 260บาทค่ะ
ช่วงนี้โควิด คนไม่เยอะค่ะ เราไปถึงตอนสายๆ 9:10 พอ 10:45 ก็เสร็จแล้วค่ะ
ก่อนโควิดเพื่อนบอกว่าต้องไปรอเขาเปิดตั้งแต่ 7โมงเช้าเพราะคนเยอะมากๆๆ แต่ช่วงนี้สบายๆค่ะ
เอกสารทั้งหมด เขาจะให้สำเนาแนบมาด้วย เราแนะนำให้ทำสำเนาเพิ่มอีกชุดนึงคะ เพราะเพื่อนเคยเจอว่าตอนแว๊ะประเทศอื่น เขาเอาสำเนาไป
ขึ้นเครื่อง
เราบิน Korean Air เพราะถ้าไปนิวยอร์คเท่าที่ดูมา มีแต่ Korean Air กับ Asiana ที่ให้น้องหมาขึ้นบนแคบินได้ถ้ารวมกับกระเป๋าไม่เกิน 7กิโล
พนักงานใช้วิธีถ่ายรูปเอกสารตัวจริง แต่ไม่เอาตัวที่เป็นกระดาษไปเลย ไม่แน่ใจว่าเพราะว่าช่วงโควิดหรือเปล่า ที่จริงน่าจะทำนานแล้ว ฮ่าๆๆ
แล้วก็จ่ายค่าตัวน้อง $300 ค่ะ
พักเครื่องที่เกาหลี
ไม่ว่าจะอยู่กี่ชม ห้ามออกนะคะ เพราะการนำสัตว์เข้าออกเกาหลีนั้นต้องมีการตรวจ antibody ของวัคซีนพิษสุนัขบ้า ซึ่งใช้เวลาเป็นอาทิตย์ในการเตรียม
ตอนเราเดินผ่านที่ตรวจ ก็ฉลุยค่ะ ไม่ขอดูอะไรเลย แต่เตรียมเอกสารให้พร้อมนะคะ เขาจะขอดูเมื่อไหร่ก็ได้
เราพาน้องหมาเราเดินออกกำลังเดินเล่นทั่วสนามบินประมาณชมครึ่งก็ไม่มีใครมาเตือนอะไร เลยคิดว่าสามารถเอาหมาเดินได้ค่ะ
พกมาผ้าอ้อมหมามาด้วยนะคะ
ถึง JFK Airport
ช่วงโควิดสำหรับ US resident and citizen เขาปิดตู้ที่ตรวจเอกสารอัตโนมัติ ต้องผ่านเจ้าหน้าที่ทุกคน
ตอนแรกเจ้าหน้าที่ไม่เห็นตัวเล็ก แต่พอเขาถามเราว่าเอาอะไรมารึเปล่า เราบอกว่าเอาหมามาด้วย เขาก็บอกไหนๆเอาเอกสารมาดูสิ
พอเรายื่นให้เขาแล้วบอกว่าที่จริงเรามาจากอเมริกา เขาก็ยื่นเอกสารคืนเลย แล้วบอกว่า คนข้างนอกอาจจะขอดูเอกสารนะแล้วก็ให้เข้ามาเลย
การเรียกขอดูเอกสารขึ้นอยู่กับบุคคลนะคะ ขอให้เตรียมทุกอย่างมาให้พร้อมดึกว่ามาแก้ปัญหาที่หลังค่ะ
ขอให้เดินทางปลอดภัยนะทุกคน