[CR] การพาน้องหมาจากอเมริกากลับไทย


เพิ่งพาน้องหมาสองตัวกลับมาอยู่ไทยด้วยหลังเรียนจบค่ะ เลยอยากตั้งกระทู้เผื่อเป็นแนวทางให้คนที่คิดจะพาสัตว์เลี้ยงกลับไทยมาด้วย

รายละเอียดศึกษาได้จากสามลิงค์นี้ค่ะ
https://www.aphis.usda.gov/aphis/pet-travel/by-country/pettravel-thailand
https://thaiembdc.org/bringing-pets-into-thailand/
http://en.dld.go.th/index.php/en/pet-travel-menu/importation-animal-animal-products

เราจะช่วยสรุปคร่าวๆ ให้ดังนี้
1. ควรเตรียมตัวล่วงหน้าประมาณสองเดือนค่ะ เพื่อความปลอดภัย
2. น้องหมาต้องได้รับการฝังไมโครชิป และฉีดวัคซีนล่วงหน้าอย่างน้อย 21 วัน มีวัคซีนตัวบังคับประมาณห้าชนิด (Lepto ต้องฉีดสองเข็ม เว้นห่างกันอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ ดังนั้นควรนัดสัตวแพทย์ก่อนเวลาที่กำหนด)
3. ขอ Import permit จากกรมปศุสัตว์ ผ่านทางอีเมล เอกสารมีอายุสองเดือน ควรโทรติดตามหลังส่งอีเมลด้วยนะคะ เพราะบางทีเจ้าหน้าที่อาจจะลืม
4. หาสัตวแพทย์ที่ได้รับการรับรองจากรัฐที่คุณอยู่ว่าเป็น accredited veterinarian ที่สามารถออก Health certificate สำหรับเดินทางต่างประเทศให้สัตว์ได้ ไม่ใช่สัตวแพทย์ทุกคนจะออกได้ค่ะ ปกติถ้ามีคนที่ออกได้ ที่รพ.จะมีโฆษณาไว้ในเวบ
5. ติดต่อสายการบินล่วงหน้าว่าจะพาน้องหมาขึ้นเครื่องด้วย ของเราใช้บริการ Swiss air ค่อนข้างประทับใจเลยค่ะ คิดราคาตัวละ $126 เลือกสายการบินนี้เพราะกำหนดน้ำหนักน้องหมารวมกระเป๋าไม่เกิน 8 กิโล เราเลี้ยงชิสุหนักประมาณ 6 กิโล สายการบินอื่นๆ เช่น Korean air กำหนดไว้ให้ไม่เกิน 5 กิโล สำหรับเอาขึ้น cabin ด้วย สำหรับสุนัขและแมวหน้าสั้น ค่อนข้างมีปัญหาถ้าอากาศร้อน บางสายการบินจะไม่ให้เอาขึ้นถ้าอุณหภูมิเกิน 27 องศา ดังนั้นถ้าเลือกได้ พากลับช่วงที่อากาศไม่ร้อนจะดีกว่าค่ะ
6. Health certificate มีอายุแค่สิบวันเท่านั้น ต้องพาน้องหมาไปหาสัตวแพทย์ที่นัดไว้ภายในสิบวันก่อนเดินทาง และต้องนัด USDA เพื่อรับรองใบตรวจสุขภาพด้วยค่ะ ตอนอีเมลหรือโทรนัด เจ้าหน้าที่จะถามข้อมูลของสัตวแพทย์เพื่อยืนยันว่าเป็น accredited veterinarian จริง บางคนอาจเดินทางลำบาก สามารถทำเรื่องทางไปรษณีย์ได้ แต่เราไม่ค่อยอยากเสี่ยงกับไปรษณีย์เลยไปด้วยตัวเอง ค่าธรรมเนียม $38 ถ้าไม่ต้องมีการรับรองผลแล็บอะไรเพิ่มเติม
7. สายการบินจะกำหนดขนาดกระเป๋าน้องหมาที่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ ควรซื้อตามที่กำหนด และให้น้องหมาได้ทำความคุ้นเคยล่วงหน้า จะได้ไม่เครียดเวลาต้องอยู่ในกระเป๋า
8. งดน้ำอาหารสี่ชั่วโมงก่อนขึ้นเครื่อง และควรพาไปวิ่งให้เหนื่อยๆ ให้น้องอึให้เรียบร้อย
9. เตรียมเอกสารสำคัญไว้ตลอดค่ะ ตอนเช็คอินเขาจะขอเรียกดู health certificate, import permit, rabies certificate, และรายการวัคซีนทั้งหมด (อย่าลืมนำไปตอนขอรับรองจาก USDA ด้วยค่ะ)
10. ตอนอยู่บนเครื่องบิน ต้องให้น้องอยู่ในกระเป๋าตลอดค่ะ เราบินจาก NYC --> Zurich 7.5 ชั่วโมง สนามบิน Zurich ไม่ต้องผ่าน security check ถ้าแค่ทรานซิท ทำให้ค่อนข้างสะดวกค่ะ เราพาน้องหมาเข้าห้องน้ำคนพิการ แล้วกางแผ่น pee pad ให้น้องฉี่ เราใส่แผ่นไว้ในกระเป๋าด้วยเผื่อน้องทนไม่ไหว แต่โชคดีทนกันมาได้ หลังฉี่เสร็จ เราก็ให้น้ำและอาหาร มีเวลาพักทรานซิท 6 ชั่วโมง แล้วบินต่อ Zurich --> Bangkok อีก 10.5 ชั่วโมง ตอนอยู่บนเครื่องต้องคอยลุ้นไม่ให้เห่า โชคดีที่ค่อนข้างนอนเงียบๆกัน มีเห่าบ้างเล็กๆ สองสามคำ เราหาในยูทูปเปิดเสียงบนเครื่องบินให้น้องฟังล่วงหน้าเพื่อให้ชินด้วยค่ะ
11. หลังจากรับ checked baggage ให้ไปติดต่อที่ปศุสัตว์ของสุวรรณภูมิ เขาจะเช็คเอกสารทั้งหมด และเราต้องกรอกเอกสารเพิ่มอีกสองใบ มีค่าธรรมเนียมตัวละ 500 บาท และค่าเอกสารอีก 10 บาท
12. นำเอกสารที่ปศุสัตว์ออกให้ ไปยื่นที่ customs ช่องมีของต้องสำแดง ถ้าพาน้องหมาเข้าประเทศครั้งแรก ต้องเสียค่าธรรมเนียมตัวละ 1,000 บาท ควรเก็บใบเสร็จไว้ ครั้งถัดไปไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมอีก
13. แท็กซี่ไทยไม่ต้อนรับสุนัข แม้ว่าน้องหมาจะอยู่ในกระเป๋าก็ตาม เขาบอกว่าบางคนเขาถือ ไม่แน่ใจว่าถืออะไร ดังนั้นถ้ามีคนมารับจะดีกว่าค่ะ

หวังว่าจะค่อนข้างครอบคลุมแล้วนะคะ จำได้ว่าตอนเราหาข้อมูลนี่อ่านตาแฉะเลย อยากให้กระทู้นี้เป็นประโยชน์กับคนอื่นที่คิดพาสัตว์เลี้ยงกลับไทยในอนาคตค่ะ
ชื่อสินค้า:   Swiss air
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่