ย้อนไปอดีตกาล 92 กัปป์ที่แล้ว ในสมัยของ”พระวิปัสสีพุทธเจ้า” มีพระสังฆนายกปกครองภิกษุตามพระวินัย มีความโลภ มุ่งแสวงหาปัจจัยสี่มาบริโภคจำนวนมากโดยอ้างเป็นสาวกพระวิปัสสีพุทธเจ้า เมื่อตายไปตกมหานรกทั้ง 4 นานแสนนาน เมื่อหมดกรรมมาเกิดเป็นเปรตรูปร่างเป็นหินพูดไม่ได้นามว่า “มหาศิลาลวงใหญ่” เวลาผ่านไปจนสมัย พระกกุสันโธพุทธเจ้า ผู้เป็นพระองค์ที่ 1 ในมหาภัทรกัปป์นี้ เสด็จมาโปรดมหาศิลาเปรต โดยประทับพระพุทธบาท บริกรรมว่า “นักบวชควรทำตนเป็นผู้มีภาระน้อย”
ต่อมา “พระโกนาคมโนพุทธเจ้า” มาประทับรอยพุทธบาทซ้ำรอยที่ 2 จากนั้น “พระกัสสโปพุทธเจ้า” มาประทับรอยพุทธบาท ซ้ำรอยที่ 3 บริกรรม “นักบวชไม่ควรคะนอง” ลุถึงสมัย “พระโคตโมพุทธเจ้า” ทรงเล็งเห็นเป็นพุทธประเพณี จึงประทับซ้ำรอยที่ 4
ในอนาคตกาล “พระศรีอริยเมตไตรย” จะเสด็จมาประทับรอยพระพุทธบาทเป็นรอยที่ 5 พระพุทธบาทจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน หลังจากนั้น 2,000 ปี มหาศิลาก้อนนี้จะแตกสลาย ไปเกิดเป็นมนุษย์บรรลุเป็นพระอรหันต์แห่งพระศรีอริยเมตไตรยนั้นแล
เป็น 1 ใน 5 รอยพระพุทธบาทแห่งพระพุทธเจ้า ถือเป็นมหาบุญสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
รอยพุทธบาทนี้ พญาเม็งราย สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เสด็จมาทุนุบำรุงรักษาด้วยพระองค์เอง
นอกจากนี้พระอริยเจ้า เช่น หลวงปู่มั่น ครูบาศรีวิชัย หลวงปู่ชอบ หลวงปู่ตื้อ หลวงปู่แหวน หลวงปู่สิม หลวงปู่สิม พระอาจารย์ประสิทธิ์และพระอาจารย์เปลี่ยน เดินทางมานมัสการและกล่าวรับรองว่าเป็นของจริง
วันนี้เดินทางมากราบรอยพระพุทธบาท ถวายดอกไม้ ธูปเทียน น้ำหอมและปิดทองบูชา รอยพระพุทธบาทั้ง 4 รอย เป็นครั้งที่ 3
เอาบุญมาให้ทุกท่านร่วมอนุโมทนาบุญครับ ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ทุกท่านและข้าพเจ้า ได้เข้าพระนิพพานด้วยเถิด สาธุๆๆๆ