ทหารที่อยู่ใน Winterberg ที่มีชื่อเสียง ซึ่งตั้งอยู่ใต้ทางเดินในป่า
Cr.PIERRE MALINOWSKI
ในเดือนพฤษภาคม 1917 ทหารเยอรมันมากกว่า 270 นายถูกฝังทั้งเป็นในอุโมงค์ Winterberg บนแนวรบ Chemin des Dames เมื่อฝรั่งเศสทิ้งระเบิดปิดผนึกทั้งสองด้าน แต่ตอนนี้อุโมงค์และศพที่อยู่ข้างในเพิ่งถูกพบโดยนักประวัติศาสตร์สมัครเล่นและลูกชายของเขา
จากข้อมูลของนสพ. The Irish Times การล่มสลายครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงการรบที่สองของจังหวัด Aisne ในฤดูใบไม้ผลิปี 1917 เมื่อฝรั่งเศสพยายามที่จะผลักดันทหารเยอรมันให้กลับไป โดยทหารเยอรมันที่อยู่ในอุโมงค์เป็นของกรมทหารราบสำรองที่ 111 จากเมือง Baden
อย่างไรก็ตาม หลังสงครามทั้งเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสและเยอรมันไม่กระตือรือร้นที่จะค้นหาอุโมงค์ Winterberg หรือชายที่ฝังอยู่ในนั้น ด้วยเหตุนี้ มันจึงยังคงสูญหายไปกับประวัติศาสตร์จนกระทั่ง Alain Malinowski และลูกชายของเขาออกเดินทางเพื่อค้นหามันด้วยตัวเอง โดยไปที่หอจดหมายเหตุของทหารใน Château de Vincennes เป็นประจำ และรวบรวมเอกสารแผนที่บันทึกการสอบสวนนักโทษและคำอธิบายในอีก 15 ปีถัดมา
ในที่สุดในปี 2009 Malinowski ได้ค้นพบแผนที่ซึ่งดูเหมือนจะระบุตำแหน่งที่แน่นอนของอุโมงค์ได้ อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกประหลาดใจที่ทั้งทางการฝรั่งเศสและเยอรมัน ดูเหมือนไม่สนใจที่จะขุดอุโมงค์อีกแล้ว ดังนั้น ในปี 2020 เขาและ Pierre ลูกชายของเขาจึงเริ่มขุดกันเองและพบทางเข้า
แผนที่ในช่วงสงครามของเยอรมันแสดงให้เห็นอุโมงค์ด้านนอก Craonne
Cr.111 RESERVE INFANTRY REGIMENT
แม้ว่าจะยังไม่มีใครเคยเข้าไปในอุโมงค์ แต่เป็นที่ทราบกันดีว่าที่นี่เป็นสถานที่พำนักสุดท้ายของทหารเยอรมันหลายร้อยคน ที่ถูกฝังทั้งเป็นที่นั่น
เมื่อฝรั่งเศสทิ้งระเบิดทางเข้าเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 1917 การระเบิดทำให้กระสุนของเยอรมันที่เก็บอยู่ภายในระเบิด และเป็นเวลาหกวันที่กองทหารที่อยู่ภายในขาดอากาศหายใจ แต่มีชายสามคนรอดชีวิตมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งนานพอที่จะได้รับการช่วยเหลือ
ผู้รอดชีวิตคนหนึ่งชื่อ Karl Fisser ได้เขียนบันทึกไว้ว่า “ ทุกคนต่างเรียกร้องหาน้ำ แต่มันก็ไร้ผล ความตายยืนเฝ้าเราอยู่บนเครื่องกีดขวาง จึงไม่มีใครสามารถหนีได้ บางคนเรียกร้องการช่วยเหลือ ส่วนคนอื่น ๆ เรียกร้องหาน้ำ และมีสหายคนหนึ่งนอนอยู่บนพื้นข้างๆฉัน และส่งเสียงดังเพื่อให้ใครบางคนบรรจุกระสุนปืนพกให้เขา ”
Malinowski กล่าวว่า ชาวเยอรมันมักเรียกสงครามโลกครั้งที่ 1 ว่า “forgotten war” ซึ่งอาจอธิบายปฏิกิริยานี้ได้จาก Diane Tempel-Barnett โฆษกขององค์กร German War Graves Commission ที่ไม่ได้ตื่นเต้นกับการค้นพบนี้มากนัก อย่างไรก็ตาม ภายหลังทั้งฝรั่งเศสและเยอรมันก็ยอมพิจารณาการขุดศพของทหารต่อสาธารณะ โดยนักประวัติศาสตร์ได้ติดตามสืบเชื้อสายของทหารเก้านายที่เสียชีวิตในอุโมงค์ Winterberg แล้ว
ทหารเยอรมันเดินออกจากอุโมงค์ในภูมิภาค Chemin des Dames
ย้อนกลับไปในฤดูใบไม้ผลิปี 1917 กองกำลังฝรั่งเศสได้เปิดฉากการรุกอย่างเต็มที่บนสันเขา Chemin des Dames ทางตะวันออกเฉียงเหนือของปารีสเพื่อพยายามยึดคืนพื้นที่ของ Aisne ที่ชาวเยอรมันได้ยึดไว้มานานกว่าสองปี และมีระบบป้องกันใต้ดินที่ซับซ้อน โดยสร้างเป็นอุโมงค์ใต้ดินระยะทางกว่า 300 เมตร (984 ฟุต) ทางด้านเหนือของสันเขาใกล้หมู่บ้าน Craonne
ตามข้อมูลของ David T. Zabecki นักเขียนประวัติศาสตร์ชาวเยอรมัน ระบุว่า เส้นทางตามแนว Chemin des Dames นั้นเรียกอีกอย่างว่า “ Ladies Path” ซึ่งได้รับชื่อนี้ในศตวรรษที่ 18 หลังจากที่มันกลายเป็นเส้นทางการเดินทางบ่อยครั้งของพระธิดาของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 มีความยาวเกือบ 20 ไมล์
ถนนจะวิ่งจากทิศตะวันออกไปตะวันตก ระหว่างหุบเขาแม่น้ำใน Ailette ทางทิศเหนือและหุบเขาแม่น้ำใน Aisne ทางทิศใต้
และในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ฝ่ายสัมพันธมิตรและเยอรมันได้ต่อสู้กับสงครามใหญ่ 3 ครั้งตามแนวสันเขา Chemin des Dames (การรบครั้งแรกของ Aisne เริ่มขึ้นในวันที่ 13–28 กันยายน 1914) โดยได้ขุดอุโมงค์ด้านหลัง Aisne และยึดครองพื้นที่สูงทางตอนเหนือมาเป็นเวลากว่าสองปี ซึ่งการที่ชาวเยอรมันยึดแนวยุทธศาสตร์ดังกล่าว สามารถป้องกันการตอบโต้ของฝรั่งเศสได้ทั้งหมด
การเติบโตของต้นไม้และใบไม้ในช่วงหลายสิบปีหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้อุโมงค์ถูกบดบังทั้งหมด
ในที่สุด เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 1917 ทหารเยอรมันกว่า 270 นายต้องเข้ากำบังภายในอุโมงค์แห่งนี้ เมื่อมีการระดมยิงอย่างหนักจากฝรั่งเศสทั้งทางเข้าและทางออก ทำให้กระสุนสำรองที่ถูกเก็บไว้ระเบิดขึ้นและปิดผนึกพวกเขาไว้ ในขณะที่ เพลาระบายอากาศก็ถูกปิดทำให้อุโมงค์เต็มไปด้วยก๊าซพิษ
หกวันต่อมาเมื่อออกซิเจนหมดทำให้ทุกคนหายใจไม่ออก ส่วนหนึ่งฆ่าตัวตายไปก่อน มีเพียงสามคนเท่านั้นที่รอดชีวิตมาได้และบอกเล่าถึงสถานการณ์ที่พวกเขาต้องเผชิญที่นั่น
เวลาผ่านไป ต้นไม้และใบหญ้าเติบโตขึ้นเหนือสนามรบทำให้ไม่เห็นว่าอุโมงค์อยู่ที่ไหน สถานที่แห่งนี้จึงยังคงเป็นปริศนามาเป็นเวลาหนึ่งศตวรรษก่อนที่ Alain Malinowski จะค้นพบที่ตั้งเพื่อระบุตำแหน่งในโลกแห่งความเป็นจริง โดยเขาและลูกชายพบถังหน้ากากป้องกันแก๊สพิษหลายร้อยถัง ศพ 2 ศพ ดาบปลายปืนกระดิ่งเพื่อส่งเสียงเตือน และปืนอีกหลายกระบอก
แม้ว่าทางการฝรั่งเศสจะอ้างว่าทั้งคู่ทำผิดกฎหมายในการขุดพบโบราณสถาน แต่ Malinowski ก็ยืนกรานว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่จะทำ และหวังว่าทางการจะตัดสินใจฝังศพชายเหล่านี้อย่างเหมาะสม ซึ่งในความเป็นจริงแล้วความพยายามในการติดตามลูกหลานของผู้ที่เสียชีวิตในอุโมงค์นั้น ประสบความสำเร็จบางส่วน
และจากข้อมูลของกรมทหารที่ 111 ที่ได้คัดเลือกทหารในเขต Baden ของเทือกเขา Swabian Alps ในตอนนั้น ขณะนี้มีการระบุทหารเก้าคนที่เสียชีวิตในวันที่ 4 และ 5 พฤษภาคม 1917 แล้ว ทั้งนี้ อุโมงค์ Winterberg ไม่ได้เป็นเพียงหลุมศพขนาดใหญ่ที่พบในฝรั่งเศส โดยในปี 1973 มีการค้นพบศพทหารเยอรมันมากกว่า 400 ศพในอุโมงค์ที่ Mont Cornillet ทางตะวันออกของ Reims ซึ่งเสียชีวิตในลักษณะเดียวกัน
ก่อนหน้านี้อุโมงค์ Winterberg ถูกบุกรุกโดยขโมย ซึ่งโชคดีที่ขุดไม่ลึกพอ
ขณะนี้มีการระบุทหาร 270 นายที่เสียชีวิตในอุโมงค์ Winterberg แล้ว
Cr.HOHENZOLLERN MEMORIAL BOOK 1914-1918
เศษซากบางส่วนที่ค้นพบโดยรถบรรทุกในพื้นที่
Cr.
https://www.iflscience.com/editors-blog/archaeologists-find-entrance-to-the-infamous-winterberg-tunnel-disaster/
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
" Winterberg " อุโมงค์แห่งความตายที่ซ่อนตัวอยู่ในฝรั่งเศสมานานกว่าศตวรรษ
อย่างไรก็ตาม หลังสงครามทั้งเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสและเยอรมันไม่กระตือรือร้นที่จะค้นหาอุโมงค์ Winterberg หรือชายที่ฝังอยู่ในนั้น ด้วยเหตุนี้ มันจึงยังคงสูญหายไปกับประวัติศาสตร์จนกระทั่ง Alain Malinowski และลูกชายของเขาออกเดินทางเพื่อค้นหามันด้วยตัวเอง โดยไปที่หอจดหมายเหตุของทหารใน Château de Vincennes เป็นประจำ และรวบรวมเอกสารแผนที่บันทึกการสอบสวนนักโทษและคำอธิบายในอีก 15 ปีถัดมา
ในที่สุดในปี 2009 Malinowski ได้ค้นพบแผนที่ซึ่งดูเหมือนจะระบุตำแหน่งที่แน่นอนของอุโมงค์ได้ อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกประหลาดใจที่ทั้งทางการฝรั่งเศสและเยอรมัน ดูเหมือนไม่สนใจที่จะขุดอุโมงค์อีกแล้ว ดังนั้น ในปี 2020 เขาและ Pierre ลูกชายของเขาจึงเริ่มขุดกันเองและพบทางเข้า
เมื่อฝรั่งเศสทิ้งระเบิดทางเข้าเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 1917 การระเบิดทำให้กระสุนของเยอรมันที่เก็บอยู่ภายในระเบิด และเป็นเวลาหกวันที่กองทหารที่อยู่ภายในขาดอากาศหายใจ แต่มีชายสามคนรอดชีวิตมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งนานพอที่จะได้รับการช่วยเหลือ
ผู้รอดชีวิตคนหนึ่งชื่อ Karl Fisser ได้เขียนบันทึกไว้ว่า “ ทุกคนต่างเรียกร้องหาน้ำ แต่มันก็ไร้ผล ความตายยืนเฝ้าเราอยู่บนเครื่องกีดขวาง จึงไม่มีใครสามารถหนีได้ บางคนเรียกร้องการช่วยเหลือ ส่วนคนอื่น ๆ เรียกร้องหาน้ำ และมีสหายคนหนึ่งนอนอยู่บนพื้นข้างๆฉัน และส่งเสียงดังเพื่อให้ใครบางคนบรรจุกระสุนปืนพกให้เขา ”
Malinowski กล่าวว่า ชาวเยอรมันมักเรียกสงครามโลกครั้งที่ 1 ว่า “forgotten war” ซึ่งอาจอธิบายปฏิกิริยานี้ได้จาก Diane Tempel-Barnett โฆษกขององค์กร German War Graves Commission ที่ไม่ได้ตื่นเต้นกับการค้นพบนี้มากนัก อย่างไรก็ตาม ภายหลังทั้งฝรั่งเศสและเยอรมันก็ยอมพิจารณาการขุดศพของทหารต่อสาธารณะ โดยนักประวัติศาสตร์ได้ติดตามสืบเชื้อสายของทหารเก้านายที่เสียชีวิตในอุโมงค์ Winterberg แล้ว
ตามข้อมูลของ David T. Zabecki นักเขียนประวัติศาสตร์ชาวเยอรมัน ระบุว่า เส้นทางตามแนว Chemin des Dames นั้นเรียกอีกอย่างว่า “ Ladies Path” ซึ่งได้รับชื่อนี้ในศตวรรษที่ 18 หลังจากที่มันกลายเป็นเส้นทางการเดินทางบ่อยครั้งของพระธิดาของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 มีความยาวเกือบ 20 ไมล์
ถนนจะวิ่งจากทิศตะวันออกไปตะวันตก ระหว่างหุบเขาแม่น้ำใน Ailette ทางทิศเหนือและหุบเขาแม่น้ำใน Aisne ทางทิศใต้
และในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ฝ่ายสัมพันธมิตรและเยอรมันได้ต่อสู้กับสงครามใหญ่ 3 ครั้งตามแนวสันเขา Chemin des Dames (การรบครั้งแรกของ Aisne เริ่มขึ้นในวันที่ 13–28 กันยายน 1914) โดยได้ขุดอุโมงค์ด้านหลัง Aisne และยึดครองพื้นที่สูงทางตอนเหนือมาเป็นเวลากว่าสองปี ซึ่งการที่ชาวเยอรมันยึดแนวยุทธศาสตร์ดังกล่าว สามารถป้องกันการตอบโต้ของฝรั่งเศสได้ทั้งหมด
หกวันต่อมาเมื่อออกซิเจนหมดทำให้ทุกคนหายใจไม่ออก ส่วนหนึ่งฆ่าตัวตายไปก่อน มีเพียงสามคนเท่านั้นที่รอดชีวิตมาได้และบอกเล่าถึงสถานการณ์ที่พวกเขาต้องเผชิญที่นั่น
เวลาผ่านไป ต้นไม้และใบหญ้าเติบโตขึ้นเหนือสนามรบทำให้ไม่เห็นว่าอุโมงค์อยู่ที่ไหน สถานที่แห่งนี้จึงยังคงเป็นปริศนามาเป็นเวลาหนึ่งศตวรรษก่อนที่ Alain Malinowski จะค้นพบที่ตั้งเพื่อระบุตำแหน่งในโลกแห่งความเป็นจริง โดยเขาและลูกชายพบถังหน้ากากป้องกันแก๊สพิษหลายร้อยถัง ศพ 2 ศพ ดาบปลายปืนกระดิ่งเพื่อส่งเสียงเตือน และปืนอีกหลายกระบอก
แม้ว่าทางการฝรั่งเศสจะอ้างว่าทั้งคู่ทำผิดกฎหมายในการขุดพบโบราณสถาน แต่ Malinowski ก็ยืนกรานว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่จะทำ และหวังว่าทางการจะตัดสินใจฝังศพชายเหล่านี้อย่างเหมาะสม ซึ่งในความเป็นจริงแล้วความพยายามในการติดตามลูกหลานของผู้ที่เสียชีวิตในอุโมงค์นั้น ประสบความสำเร็จบางส่วน
และจากข้อมูลของกรมทหารที่ 111 ที่ได้คัดเลือกทหารในเขต Baden ของเทือกเขา Swabian Alps ในตอนนั้น ขณะนี้มีการระบุทหารเก้าคนที่เสียชีวิตในวันที่ 4 และ 5 พฤษภาคม 1917 แล้ว ทั้งนี้ อุโมงค์ Winterberg ไม่ได้เป็นเพียงหลุมศพขนาดใหญ่ที่พบในฝรั่งเศส โดยในปี 1973 มีการค้นพบศพทหารเยอรมันมากกว่า 400 ศพในอุโมงค์ที่ Mont Cornillet ทางตะวันออกของ Reims ซึ่งเสียชีวิตในลักษณะเดียวกัน