Nymphister kronaueri ซึ่งถูกเห็นติดอยู่บนเอวในหมู่มดทหารสายพันธุ์หนึ่งเท่านั้น C. von Beeren (Eciton mexicanum)
ผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร BMC Zoology ระบุว่า มีการพบแมลงปีกแข็งชนิดใหม่ที่เกาะติดไปที่ด้านหลังของมดทหารเพื่อเดินทาง ด้วงที่ค้นพบใหม่นี้มีชื่อว่า " Nymphister kronaueri " ที่ใช้ขากรรไกรล่างที่แข็งแรงยึดตัวเองให้แน่นเข้ากับลำตัวของมด เพื่อยึดติดไปกับกองทัพมด เมื่อพวกมันเร่ร่อนย้ายไปยังพื้นที่ทำรังแห่งใหม่ โดยส่วนใหญ่พบได้ในมดกองทัพโดยเฉพาะมดงานขนาดกลาง ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามันเป็นมดแขกที่มีความเชี่ยวชาญสูง
Nymphister kronaueri เป็นด้วงคอสตาริกาสายพันธุ์ที่เพิ่งถูกอธิบายใหม่ ถูกค้นพบเมื่อ 4 ปีก่อนโดยนักชีววิทยาศึกษามดในคอสตาริกา โดยนักวิจัยสังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างที่แปลกประหลาดเกี่ยวกับมดบางตัว ที่บางส่วนดูเหมือนว่าจะมีส่วนก้นสองส่วน โดยส่วนหนึ่งอยู่ด้านบนของอีกส่วน
เมื่อมองใกล้ ๆ นักวิจัยได้ตระหนักว่า ส่วนที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นแมลงขนาดเล็กที่กำลังขี่มดที่ลืมสังเกตุตัวเองไป ซึ่งจากการตรวจสอบเพิ่มเติม นักวิทยาศาสตร์เปิดเผยว่าแมลงปีกแข็งสามารถทำได้โดยแนบส่วนปากของพวกมันเข้ากับเอวของมดงาน เมื่อติดแล้วด้วงจะมีลักษณะคล้ายกับช่องท้องของมดอย่างมาก
ซึ่งเป็นรูปลักษณ์ที่เกือบสมบูรณ์แบบ โดยด้วงจะผลิตสารเคมีที่ดึงดูดมดและมีวิวัฒนาการของตัวเองเป็นคล้ายเปลือกที่มีลักษณะคล้ายกับตัวของมด
ทำให้มดไม่ทราบว่ามีแขกไม่ได้รับเชิญอยู่บนตัวท่ามกลางพวกมัน
มดที่ดูเหมือนจะมีหน้าท้องสองอัน ที่ถูกกัดติดโดยด้วงปลอมตัว
Cr.ภาพ: Christoph von Beeren, Alexey K. Tishechkin / Wikimedia CC
Dr. Christoph von Beeren นักนิเวศวิทยา และผู้เขียนนำการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Technical University Darmstadt ประเทศเยอรมนี กล่าวว่า
“ ในระหว่างการอพยพฝูงมดในกองทัพตอนกลางคืน เราเห็นว่าช่องท้องของมดบางตัวดูแปลก และสะท้อนแสงในลักษณะที่แตกต่างกันเล็กน้อย จากด้านบน ซึ่งยากที่จะสังเกตุ เนื่องจากตัวด้วงมีลักษณะใกล้เคียงกับช่องท้องของมด และเมื่อมองจากด้านข้างดูเหมือนว่ามดจะมีช่องท้องที่สอง ทำให้เราประหลาดใจกับส่วนแปลก ๆ นี้ที่มันคือแมลงปีกแข็ง "
" แม้จะมีขนาดและรูปร่างใกล้เคียงกับส่วนท้องของมดเจ้าบ้าน แต่เปลือกนอกของด้วงยังเรียบและเป็นมันเงาเล็กน้อยเมื่อมันติดกับตัวมด เหมือนมันคิดว่าการเลียนแบบส่วนนี้ของร่างกายมด อาจลดโอกาสในการรับรู้ของมด ทำให้ด้วงเดินทางโดยไม่ถูกตรวจพบ รวมถึงเศษอาหารที่อุดมสมบูรณ์และ
การป้องกันจากผู้ล่าด้วย "
ด้วงชนิดนี้ได้รับการตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ Daniel Kronauer นักชีววิทยาภาคสนามที่ The Rockefeller University, New York คนแรกที่ค้นพบสายพันธุ์ที่อยู่บนด้านหลังของมดอพยพ ซึ่เป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตหลายชนิดรวมทั้ง silverfish ตัวต่อ ด้วง ไร และแมลงวัน ที่รู้กันดีว่าใช้ประโยชน์จาก
ฝูงกองทัพมด
การตรวจสอบอย่างใกล้ชิดเผยให้เห็นว่า "ช่องท้อง" ที่อยู่บนสุดนั้นแท้จริงแล้วเป็นด้วงตัวเล็ก ๆ
ซึ่งเป็นสัตว์ปีกชนิดหนึ่งที่ไม่รู้จักทางวิทยาศาสตร์โดยใช้ขากรรไกรล่างคาบเองมดไว้แน่น เพื่อพรางตัวให้คล้ายกับส่วนท้ายของมดที่มันเกาะอยู่
การค้นพบใหม่นี้เกิดขึ้นในระหว่างการประเมินความหลากหลายทางชีวภาพของ " ant guests " ที่สถานีชีววิทยา La Selva ซึ่งเป็นป่าฝนแอตแลนติกที่ราบต่ำในคอสตาริกา โดย Von Beeren และเพื่อนร่วมงานของเขา Alexey Tishechkin ผู้ร่วมเขียนบทความได้รวบรวมปรสิตมดจากพื้นที่เขตร้อนหลายแห่ง แต่ค้นพบเพียงด้วงชนิดใหม่ในโฮสต์สปีชีส์เดียวในคอสตาริกา
Von Beeren กล่าวเพิ่มเติมว่า “ มดกองทัพ (Army ants) ได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวางโดยนักวิจัย แต่สายพันธุ์ใหม่ที่โดดเด่นนี้ยังถูกมองข้ามไป
จนถึงปัจจุบันไม่ค่อยมีใครรู้เกี่ยวกับมดกองทัพสายพันธุ์อื่น ๆ และชุมชนแขกของพวกมัน ซึ่งเห็นได้ชัดว่ายังมีอีกหลายชนิดอย่างเช่น N. kronaueri ที่ยังคงต้องมีการค้นพบต่อไป "
มดกองทัพนั้นไม่ได้สร้างรังถาวร แต่อาณานิคมขนาดใหญ่ที่สามารถนับได้เป็นหมื่น ๆ ตัว จะเดินทางเป็นกลุ่มระหว่างพื้นที่ทำรังชั่วคราวที่เรียกว่า "bivouacs" ซึ่งสร้างขึ้นรอบ ๆ ราชินีและตัวอ่อน จากร่างที่ยังมีชีวิตของมดงาน (bivouac สามารถเกิดขึ้นได้จากมดงานหลายแสนตัวที่จับขาของกันและกันเพื่อสร้างโครงสร้างชั่วคราว)
Nymphister kronaueri ใช้ขากรรไกรล่างยาวจับ "เอว" ของมดทหารไว้
(Cr.ภาพ: von Beeren และ Tishechkin DOI 10.1186 / s40850-016-0010-x)
ทั้งนี้ มดกองทัพในสกุล Eciton ที่อาศัยอยู่ในแหล่งที่อยู่อาศัยแบบเขตร้อนชื้น (neotropical) มักจะอยู่นิ่ง ๆ เป็นเวลาสามสัปดาห์และจะอพยพเป็นเวลาสองสัปดาห์ โดยจะย้ายไปที่รังใหม่ทุกคืนในช่วงการอพยพ ซึ่งเป็นกระบวนการที่อาจใช้เวลาถึง 9 ชั่วโมง
กองทัพมดจะล่าแมลงและสัตว์ขาปล้องอื่น ๆ เช่น แมงมุม ไรและกิ้งกือ แต่สัตว์ขาปล้องหลายชนิดที่รู้จักกันในชื่อ myrmecophiles หรือ " ant lovers "
ต้องพึ่งพามดเพื่อความอยู่รอด โดยอาศัยเศษขยะหรือซ่อนตัวอยู่ในอาณานิคมของมด เพื่อเป็นการป้องกันจากนักล่าอื่น ๆ และเพื่อให้ทันกับการอพยพของกองทัพมด " ant lovers "บางชนิดรวมถึง แมลงปีกแข็งหลายชนิดจะใช้มดเป็นเหมือนรถแท็กซี่ เพื่ออิงแอบไปกับมดงานหรือตัวอ่อนของพวกมัน
myrmecophiles หรือ " ant lovers "
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
" hitchhiking beetle " ด้วงจิ๋วที่ติดอยู่บนหลังของมดทหาร
เมื่อมองใกล้ ๆ นักวิจัยได้ตระหนักว่า ส่วนที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นแมลงขนาดเล็กที่กำลังขี่มดที่ลืมสังเกตุตัวเองไป ซึ่งจากการตรวจสอบเพิ่มเติม นักวิทยาศาสตร์เปิดเผยว่าแมลงปีกแข็งสามารถทำได้โดยแนบส่วนปากของพวกมันเข้ากับเอวของมดงาน เมื่อติดแล้วด้วงจะมีลักษณะคล้ายกับช่องท้องของมดอย่างมาก
ซึ่งเป็นรูปลักษณ์ที่เกือบสมบูรณ์แบบ โดยด้วงจะผลิตสารเคมีที่ดึงดูดมดและมีวิวัฒนาการของตัวเองเป็นคล้ายเปลือกที่มีลักษณะคล้ายกับตัวของมด
ทำให้มดไม่ทราบว่ามีแขกไม่ได้รับเชิญอยู่บนตัวท่ามกลางพวกมัน
“ ในระหว่างการอพยพฝูงมดในกองทัพตอนกลางคืน เราเห็นว่าช่องท้องของมดบางตัวดูแปลก และสะท้อนแสงในลักษณะที่แตกต่างกันเล็กน้อย จากด้านบน ซึ่งยากที่จะสังเกตุ เนื่องจากตัวด้วงมีลักษณะใกล้เคียงกับช่องท้องของมด และเมื่อมองจากด้านข้างดูเหมือนว่ามดจะมีช่องท้องที่สอง ทำให้เราประหลาดใจกับส่วนแปลก ๆ นี้ที่มันคือแมลงปีกแข็ง "
" แม้จะมีขนาดและรูปร่างใกล้เคียงกับส่วนท้องของมดเจ้าบ้าน แต่เปลือกนอกของด้วงยังเรียบและเป็นมันเงาเล็กน้อยเมื่อมันติดกับตัวมด เหมือนมันคิดว่าการเลียนแบบส่วนนี้ของร่างกายมด อาจลดโอกาสในการรับรู้ของมด ทำให้ด้วงเดินทางโดยไม่ถูกตรวจพบ รวมถึงเศษอาหารที่อุดมสมบูรณ์และ
การป้องกันจากผู้ล่าด้วย "
ด้วงชนิดนี้ได้รับการตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ Daniel Kronauer นักชีววิทยาภาคสนามที่ The Rockefeller University, New York คนแรกที่ค้นพบสายพันธุ์ที่อยู่บนด้านหลังของมดอพยพ ซึ่เป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตหลายชนิดรวมทั้ง silverfish ตัวต่อ ด้วง ไร และแมลงวัน ที่รู้กันดีว่าใช้ประโยชน์จาก
ฝูงกองทัพมด
Von Beeren กล่าวเพิ่มเติมว่า “ มดกองทัพ (Army ants) ได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวางโดยนักวิจัย แต่สายพันธุ์ใหม่ที่โดดเด่นนี้ยังถูกมองข้ามไป
จนถึงปัจจุบันไม่ค่อยมีใครรู้เกี่ยวกับมดกองทัพสายพันธุ์อื่น ๆ และชุมชนแขกของพวกมัน ซึ่งเห็นได้ชัดว่ายังมีอีกหลายชนิดอย่างเช่น N. kronaueri ที่ยังคงต้องมีการค้นพบต่อไป "
มดกองทัพนั้นไม่ได้สร้างรังถาวร แต่อาณานิคมขนาดใหญ่ที่สามารถนับได้เป็นหมื่น ๆ ตัว จะเดินทางเป็นกลุ่มระหว่างพื้นที่ทำรังชั่วคราวที่เรียกว่า "bivouacs" ซึ่งสร้างขึ้นรอบ ๆ ราชินีและตัวอ่อน จากร่างที่ยังมีชีวิตของมดงาน (bivouac สามารถเกิดขึ้นได้จากมดงานหลายแสนตัวที่จับขาของกันและกันเพื่อสร้างโครงสร้างชั่วคราว)
กองทัพมดจะล่าแมลงและสัตว์ขาปล้องอื่น ๆ เช่น แมงมุม ไรและกิ้งกือ แต่สัตว์ขาปล้องหลายชนิดที่รู้จักกันในชื่อ myrmecophiles หรือ " ant lovers "
ต้องพึ่งพามดเพื่อความอยู่รอด โดยอาศัยเศษขยะหรือซ่อนตัวอยู่ในอาณานิคมของมด เพื่อเป็นการป้องกันจากนักล่าอื่น ๆ และเพื่อให้ทันกับการอพยพของกองทัพมด " ant lovers "บางชนิดรวมถึง แมลงปีกแข็งหลายชนิดจะใช้มดเป็นเหมือนรถแท็กซี่ เพื่ออิงแอบไปกับมดงานหรือตัวอ่อนของพวกมัน