.
ไดอารี่ความคิดถึง
ก่อนจะกลับบ้านในวันที่ 10 เมษายน ซึ่งเหลืออีกไม่กี่วันก็จะถึงแล้ว แม่กับพ่อจึงหยุดขายของและพาเธอกับน้องบีมไปเที่ยวตามที่ได้สัญญากันเอาไว้เมื่อครั้งไปเที่ยววัดหลวงพ่อโสธร จุดหมายก็คือหาดบางแสน และจะต้องไปรับพี่แป้งไปด้วยตามคำสัญญา บอสขอแม่ให้พาไปพัทยาแม่ไม่ยอมพาไป แต่แค่บางแสนก็พอใจแล้วเหมือนกัน
วันนี้น้องบีมกับเธอตื่นเช้ามาก เช่นเคย น้องบีมตื่นก่อนเธออีก ตื่นโดยไม่ต้องปลุกหลายรอบเหมือนทุก ๆ วัน อาบน้ำแต่งตัวเองไม่ต้องให้พูดพร่ำเพรื่อ เห็นอาการตื่นเต้นของน้องสาวแล้วก็อดขำไม่ได้ จะตื่นเต้นอะไรนักหนา นึกเอ็นดูก็มิปาน
“กะดึกกะดึ้นน้อบีม !” ว่าพร้อมมองค้อนน้องสาวแบบหมั่นไส้นัก “เอาชุดไปเปลี่ยนด้วยถ้าจะเล่นน้ำอ่ะ ชุดตัวเองเตรียมเองเลย” ออกคำสั่งน้องสาว ส่วนตนเองไม่จำเป็นเพราะจะไม่เล่นน้ำอยู่แล้ว แค่อยากไปเปิดหูเปิดตาเพียงเท่านั้น
“ฮะ ! ต้องเอาชุดไปด้วยเหรอ” น้องบีมตอบด้วยความไม่เข้าใจ สงสัยคงคิดว่าไม่ได้ไปนอนค้างทำไมถึงต้องเตรียมชุดไปด้วย
“ก็จะเล่นน้ำทะเลไม่ใช่เหรอ ก็เอาไปเปลี่ยนเวลากลับจะได้ไม่ต้องใช่ชุดเปียกกลับไง”
“พี่บอสก็ต้องเตรียมมั้ย”
“ไม่ ! เอาแค่ชุดบีมเพราะพี่ไม่เล่นน้ำ มันเค็มจะตาย ไม่เคยเล่นเหรอ ตอนเด็ก ๆ แม่ก็พาไปมาแล้ว จำไม่ได้เหรอ พี่ยังจำได้เลย ” สองคนพี่น้องคุยกันในห้องนอนของตนเอง จะพูดไปก็ไปเที่ยวทะเลทุกปีนั่นแหละทุก ๆ ปิดเทอมที่มาอยู่กับแม่ ทว่าไม่เคยพ้นบางแสนกับพัทยาเลยสักครั้ง
บอสสวมกางเกงขาสั้นเจเจ กางเกงมีโลโก้ตัวเจสองตัวจึงเรียกว่ากางเกงเจเจ ซึ่งพวกเธอฮิตใส่กันมาก ๆ ช่วงนี้ พร้อมเสื้อยืดตัวโปรด ทีแรกเธอใส่กางเกงวอร์มพละของโรงเรียน แอบพับใส่กระเป๋าติดมาด้วย กลัวแม่ดุจึงเปลี่ยนใส่กางเกงเจเจแทน เลือกตัวที่มีสีและลายสวยหน่อย มันก็เข้ากันกับเสื้อยืดคอวีได้เป็นอย่างดี
กระเป๋าสะพายข้างใบเล็กคู่ใจ กระจกพับอันเล็ก ส่วนแป้งฝุ่นบอสเทแป้งใส่ถุงร้อนพับปากถุง นำยางมามัดไว้อีกทีเก็บใส่ในกระเป๋าไว้ พร้อมหวีและน้ำยาอุทัยทิพย์ อุปกรณ์แต่งสวยพร้อมมาก ๆ น้องบีมก็พร้อมเหมือนกัน วันนี้ออกเดินทางเช้าหน่อย
บอสกับน้องบีมพร้อมแล้ว ออกมานั่งรอแม่ที่ห้องโถงของบ้าน เปิดทีวีดูข่าวรอแม่เตรียมของกินไปปิคนิค ที่เสาต้นหนึ่งของบ้านมีซึงไฟฟ้าวางอยู่แม่กำลังนึ่งกุ้งไว้ กลิ่นของมันหอมเย้ายวนใจเรียกน้ำย่อยในช่วงเช้า ๆ แบบนี้มาก แม่ก็กำลังง่วนอยู่กับการนึ่งข้าวเหนียวในครัว และเตรียมมะละกอมะนาวอุปกรณ์ต่าง ๆ ไปปิคนิคที่นั่นด้วย จะได้ไม่ต้องซื้อเขาเยอะ เปลืองตังค์เปล่า ๆ
ส่วนพ่อออกไปเคลียร์รถอยู่หน้าบ้าน แม่ให้ยกหลังคารถลงเลย เนื่องจากจะหยุดกลับบ้านกันแล้ว พอพูดถึงเรื่องนี้บอสก็ดีใจตื่นเต้นไม่แพ้กัน คิดถึงบ้าน คิดถึงตากับยาย คิดถึงสองฝาแฝดพิมพ์แพรวและจ๋อมสามเพื่อนซี้จะแย่ อีกไม่กี่วันก็ได้กลับแล้ว อดทนอีกนิดเดียวเท่านั้น
เธอกับน้องบีมนอนดูทีวีรอพ่อแม่เตรียมของไปเที่ยวอย่างสบายใจ โดยเฉพาะน้องบีมที่ทำท่าจะหลับกันแล้ว ยังไม่ออกจากบ้านเลย อยากตื่นเช้าก็แบบนี้แหละ บอสปรายตามองน้องบีมที่กำลังเคลิ้มจะหลับ และชอบแกล้งสะกิดให้ตื่นทุกทีเวลาน้องหลับตาลง
“บอสดูหม้อนึ่งกุ้งให้แม่ที ถ้าสุกแล้วก็ถอดปลั๊กออกเลย ตักกุ้งใส่กล่องซุปเปอร์แวร์เลย” แม่พูดออกมาจากในครัว กลิ่นข้าวเหนียวนึ่งสุกใหม่ ๆ ก็หอมไม่แพ้กัน ยิ่งทำให้เธอหิวเข้าไปอีก ชิมกุ้งแม่สักตัวคงไม่เป็นไร
“แม่สุกแล้ว” ตะโกนบอกแม่ไป บอสเปิดฝาหม้อออก กลิ่นลอยคลุ้งเตะจมูกมาก ๆ ทั้งกลิ่นกุ้งและกลิ่นสมุนไพรที่แม่ใส่ลงไปด้วย เป็นกุ้งนึ่งสมุนไพร หอมมาก หอมจนน้องบีมต้องเขยิบมาดูด้วย
“แน่ใจนะ” แม่ย้ำ
“แน่ ! “ บอสตอบแม่ก่อนจะหันมาใช้น้องบีมเดินไปเอากล่องมาใส่กุ้ง น้องบีมก็ทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย พร้อมหยิบกุ้งไปชิมด้วย ชิมแบบร้อน ๆ นั่นแหละ “รู้ว่าร้อนก็หยิบนะบีม !” เอ็ดน้องไปที จะหิวอะไรขนาดนั้น เมื่อน้องบีมเอากล่องมาให้แล้วเธอก็จัดการตักกุ้งใส่กล่องซุปเปอร์แวร์ทันที
ส่วนตัวเองก็แอบแกะกุ้งกินด้วยเช่นกัน คลายหิวไปได้ ตัวแรกผ่านไป ตัวที่สองที่สามค่อย ๆ ผ่านไป ไม่ต้องเกรงว่าจะหมดก่อนได้ไปบางแสน แม่นึ่งกุ้งตั้งสองโลสามโล กะจะไปนั่งทั้งวันกันเลย เย็น ๆ ค่อยกลับ
“ปะ ๆ แม่เสร็จยัง เด็ก ๆ พร้อมยังสายแล้ว” เมื่อพ่อเตรียมรถเสร็จก็เดินมาเรียกพวกเธอในบ้าน ยืนพิงประตูบ้านเรียกพวกเธอกับแม่ ส่วนพ่อพร้อมมาก ๆ
“เสร็จแล้ว ๆ บอสบีมมาเก็บของไปใส่รถเร็ว ป่านนี่พี่แป้งคอยแย่แล้ว”
“จ้า “
บอสกับน้องบีมรีบลุกกุลีกุจอขนข้าวของที่จะไปปิคนิคกัน ขนไปใส่ไว้กระบะหลังรถของพ่อ อุปกรณ์การทำส้มตำ เสื่อ ของกินทุกอย่างบอสกับน้องบีมช่วยแม่ยกไปขึ้นรถคนละไม้คนละมือ แป๊บเดียวก็เสร็จครบทุกอย่าง
เมื่อทุกคนพร้อม อุปกรณ์ของกินพร้อมครบครัน ตรวจเช็คว่าไม่ลืมอะไรแน่นอน พ่อก็พาออกเดินทาง มุ่งหน้าไปที่บางแสนชลบุรี แต่ก่อนจะไปไม่ลืมที่จะแวะรับพี่แป้งด้วย คราวนี้ลุงปานกับป้าหนูไม่ขอตามไปด้วย ปล่อยให้พี่แป้งไปกับพวกเธอคนเดียว
“แม่ชลบุรีมันมีสวนสัตว์ด้วยนะ บอสเคยมาตอน ป.6 โรงเรียนพามา ไปนอนค่ายทหารด้วย ที่หาดน้ำหนาวที่สัตหีบ สนุกมาก แต่บอสจำไม่ได้ว่าสวนสัตว์มันอยู่แถวไหน มันชื่อว่าสวนสัตว์เปิดเขาเขียวอ่ะ” ที่เบาะหลังบอสชะโงกหน้ามาคุยกับแม่ระหว่างนั่งรถไปบางแสน
“อยากไปก็บอกพ่อพาไปถะแหมะ แม่ไม่ใช่คนขับรถ”
“พ่อไปไม่ถูก ! ไม่รู้จัก” พ่ออออกตัวก่อนเลย อย่างกับกลัวจะได้พาไป พวกเธอสามคนรวมพี่แป้งด้วยหัวเราะชอบใจกันใหญ่ ที่โดนพ่อชิ่งปฏิเสธตัดหน้าไปก่อน
“ตอน ป.6 โรงเรียนพามา ชลบุรีมันมีบ้านสุขาวดีด้วยนะแม่ ติดทะเล สวยหลังใหญ่มาก บอสก็เคยไปมาแล้ว และก็ไปนอนที่สัตหีบ เล่นน้ำทะเลด้วยไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ มันมีแต่โขดหิน ไปนอนค่ายทหาร แต่ไม่เห็นทหารสักคน” บอสโม้ให้ทุกคนฟัง
บอสเล่าเรื่องสมัยตอนอยู่ ป.6 มาเที่ยวกับทางโรงเรียนให้ทุกคนฟัง ซึ่งมันพึ่งผ่านมาแค่ปีเดียวเอง เธอจำเหตุการณ์ได้ทุกอย่าง ทว่าตอนนี้ให้จำทางไปก็จำไม่ได้แล้ว แต่ภาพเหตุการณ์มันยังชัดเจนเหมือนพึ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ไม่นานพ่อก็พาขับมาถึงบางแสน
พ่อค่อย ๆ ขับมาตามถนนเรียบหาด หาที่ ๆ คิดว่าเหมาะที่สุด วันนี้คนน้อยเพราะไม่ใช่วันเสาร์อาทิตย์นั่นแหละ อีกอย่างช่วงนี้ผู้คนบางส่วนทยอยกลับบ้านกันหมด จึงทำให้หาดบางแสนบางตา แม่ไม่เลือกนั่งโต๊ะที่เขาจัดไว้ให้ เพราะนำเสื่อนำอุปกรณ์ทำกับข้าวมาเองจะเสียเงินทำไม กินอิ่มกว่าด้วย
เมื่อได้ที่ ๆ เหมาะที่สุด พ่อจอดรถสนิทแล้วพวกเธอก็ช่วยกันขนกับข้าวที่เตรียมมาลงจากรถ แม่ปูเสื่อใต้ต้นไม้ พวกเธอสามพี่น้องช่วยกันขนกับข้าวลงมาอย่างขะมักเขม้น อีกทั้งตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจกับผืนทะเลอันกว้างใหญ่ไพรศาลสุดลูกหูลูกตาที่อยู่ตรงหน้านี้ แม้จะเคยมาแล้วก็ตาม ก็ยังตื่นเต้นเสมอเหมือนพึ่งเคยมา เสียงคลื่นของมันที่ซัดมากระทบฝั่งช่างน่าฟังเหลือเกิน
ตามชายหาดเช้านี้มีรถของคนมาเที่ยวหลายคัน อีกฝั่งของถนนเลียบหาดเป็นร้านขายของปกติธรรมดา ซึ่งตอนกลางคืนก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง มีเสื้อผ้าแขวนโชว์ขายสวยงาม มีรถนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างพื้นที่ทยอยกันมา ระหว่างนั้นก็มีแม่ค้าหาบเร่มาขายของกินให้ไม่ขาดสาย บ้างก็ปฏิเสธไปบ้างก็ช่วยอุดหนุน
พี่แป้งกำลังสับมะละกอช่วยแม่ ตนเองก็หยิบจับช่วยพี่สาวด้วยจะได้เสร็จเร็ว ๆ ส่วนน้องบีมกำลังตื่นเต้นกับชายหาดและน้ำทะเลอยู่ ถอดรองเท้าเดินเล่นเหยียบทรายไปมา แม่ต้องคอยปรามว่าอย่าเดินไปไกลจากตรงนี้เดี๋ยวหลงหาไม่เจอ รอกินข้าวเช้ากัน
“แม่น้องบีมเล่นน้ำทะเลนะ” น้องบีมวิ่งมานั่งลงที่เสื่อนั่งพับเพียบขอแม่ แต่ก็โดนแม่ปฏิเสธ แม่ให้ทานข้าวเช้ากันก่อน
“ไม่ได้ ใจร้อนจังเลยสิได้เล่นหรอกน้ำนั่น ทานข้าวก่อน” แม่ดุน้องบีมนิดหน่อย แล้วก็หันมาตำส้มตำไม่สนใจสีหน้าและท่าทางของลูกสาวคนเล็กเลย เธอกับพี่แป้งหัวเราะเยาะให้ น้องบีมไม่สนใจ วิ่งลงไปในทะเล หยุดยืนตรงรอยต่อของคลื่นที่ซัดซาดมา แค่เท้าได้แตะน้ำก็พอใจ จะเล่นจนตัวเปียกตอนนี้ก็กลัวแม่ดุ แล้วก็วิ่งกลับมา
“เดี๋ยวพี่พาเล่น” พี่แป้งเสนอตัว “แต่ว่าช่วยหยิบถาดให้พี่หน่อย จะใส่กุ้ง”
“ใบนี้เหรอ ขอชิมหน่อยตัวนึง” น้องบีมขอกุ้งนึ่งสมุนไพรจากพี่แป้ง
“อย่าว่าตัวนึงเลยบีมหลายตัวละ” บอสพูดประชดน้อง ที่บ้านก็กินไปหลายตัวแล้ว
พวกเธอช่วยกันจัดสำรับสำหรับมื้อเช้ากับแม่ ส่วนพ่อนั่งดูพวกเธอ จะช่วยก็กลัวจะเกะกะเปล่า ๆ และพวกเธอก็ไม่ต้องการให้พ่อช่วยด้วย นั่งรอทานข้าวเฉย ๆ ก็พอ แล้วพ่อก็ปลีกตัวไปยืนดูดบุหรี่นิดหน่อย ก่อนจะกลับมานั่งตามอัธยาศัย สายลมพัดยอดพร้าวเสียงดังซู่ซ่า อากาศเย็นสบายแดดยังไม่ร้อนมากนัก พอถึงตอนเที่ยงก็คงร้อนน่าดู
สาย ๆ ก็เริ่มมีนักท่องเที่ยวทยอยมาเที่ยวกันหลายครอบครัว บ้างมาเป็นครอบครัวเหมือนพวกเธอ บ้างมาเป็นกลุ่มเพื่อน และมาเป็นคู่รักหนุ่มสาว บอสมองดูผู้คนบริเวณรอบ ๆ ชายหาดอย่างเพลินตา ทีแรกขอแม่ให้พาไปพัทยา แต่บางแสนก็โอเคดี
“เอามะม่วงมั้ยจ๊ะ ส้มตำก็มี ตำมะม่วง ตำกล้วยก็มี ไข่นกกระทาก็มีนะ” แม่ค้าหาบเร่เดินมาขายของให้พวกเธอ ดูรูปร่างหน้าตาอายุเยอะพอควร เป็นยายของพวกเธอได้เลย ทำไมถึงยังต้องมาเร่ขายของอีกนะ ทำไมไม่พักผ่อนอยู่บ้าน เป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่บอสแอบสงสัย
“มีตำปลีมั้ยยาย เด็ก ๆ กินตำมะม่วงมั้ยนะ แต่ไม่เอาส้มตำนะ ของเราก็มี” แม่หันมาถามพวกเธอ
“แม่เอาตำกล้วย” บอสเสนอ
“เอาตำกล้วยจ้ะ มีตำปลีมั้ยน่ะ”
“มี ๆ “ แม่ค้าตอบ แล้วก็วางตะกร้าหาบลงกับพื้นริมถนน หยิบครกและสากใบเล็กขนาดพกพาออกมาตำกล้วยและตำปลีกล้วยให้แม่ ทั้งทำไปด้วยพูดคุยกับแม่ไปด้วย สุดท้ายก็คนภูมิลำเนาเดียวกันทว่าคนละจังหวัด หลังตำให้แม่เสร็จคุณยายแม่ค้าก็นั่งคุยกับพ่อแม่สักพักก่อนจะขอตัวหาบเร่ขายของต่อ
เธอ พี่แป้ง น้องบีม พ่อและแม่นั่งทานข้าวเช้ากันใต้ต้นไม้ริมหาด มีกุ้งนึ่งสมุนไพร ส้มตำ เนื้อหมูแดดเดียวทอด ข้าวเหนียว ลูกชิ้นทอดและตำกล้วย ตำปลีกล้วยที่แม่ซื้อมาเพิ่ม อร่อยมาก ๆ น้ำอัดลมแม่ก็เตรียมมาจากบ้าน น้ำเปล่า น้ำแข็งใส่กระติกมาจากบ้านด้วย แทบไม่ได้ซื้ออะไรเลย
สายลมพัดโชยให้ความเย็นผสมแสงแดดอุ่น ๆ ผนวกกับเสียงคลื่นน้ำทะเลซัดสาดมาเป็นระยะ ให้ความรู้สึกดีและมีความสุขมาก ๆ ทำให้อดนึกถึงตอน ป.6 ไม่ได้เลยที่โรงเรียนพามา นึกถึงจ๋อมและสองฝาแฝด อีกไม่กี่วันก็จะได้กลับบ้านไปหาแล้ว
“พี่แป้งพี่บอสเล่นน้ำกัน” เมื่อทานข้าวอิ่มน้องบีมก็ชวนพวกเธอเล่นน้ำกันเลย แม่กับพ่อก็ไม่ห้าม บอสกับพี่แป้งไม่ปฏิเสธ แต่ก็ไม่เล่น พาน้องบีมลงไปทะเลเฉย ๆ
“หาเก็บเปลือกหอยไปปล่อยในอ่างน้ำที่บ้านดีกว่า เอาสวย ๆ นะ” บอสกับพี่แป้งถอดรองเท้าเดินแช่น้ำทะเลเดินไปตามชายหาด เท้าย่ำทรายและน้ำทะเลมันรู้สึกดีสบายเท้าอย่างบอกไม่ถูก พากันเดินเล่นกับพี่แป้ง ด้วยความที่โตแล้ว จึงไม่อยากเล่นน้ำแบบเด็ก ๆ และมอง ๆ ดูแล้วมีแต่เด็ก ๆ เท่านั้นที่ลงเล่นน้ำกัน มีผู้ปกครองคอยดูอยู่ไม่ห่างด้วย แม่เองก็คอยดูน้องบีมไม่คาดสายตา
น้องบีมได้เพื่อนใหม่เล่นน้ำด้วยกัน เล่นห่วงยางโต้คลื่นทะเลด้วยกัน ไม่เคยรู้จักกันทว่าเล่นน้ำด้วยกันอย่างสนุกสนานอย่างกับรู้จักกันมาเป็นสิบปี เป็นเพื่อนกันไปโดยปริยาย
คิดถึง 2 บทที่ 47
.
ไดอารี่ความคิดถึง
ก่อนจะกลับบ้านในวันที่ 10 เมษายน ซึ่งเหลืออีกไม่กี่วันก็จะถึงแล้ว แม่กับพ่อจึงหยุดขายของและพาเธอกับน้องบีมไปเที่ยวตามที่ได้สัญญากันเอาไว้เมื่อครั้งไปเที่ยววัดหลวงพ่อโสธร จุดหมายก็คือหาดบางแสน และจะต้องไปรับพี่แป้งไปด้วยตามคำสัญญา บอสขอแม่ให้พาไปพัทยาแม่ไม่ยอมพาไป แต่แค่บางแสนก็พอใจแล้วเหมือนกัน
วันนี้น้องบีมกับเธอตื่นเช้ามาก เช่นเคย น้องบีมตื่นก่อนเธออีก ตื่นโดยไม่ต้องปลุกหลายรอบเหมือนทุก ๆ วัน อาบน้ำแต่งตัวเองไม่ต้องให้พูดพร่ำเพรื่อ เห็นอาการตื่นเต้นของน้องสาวแล้วก็อดขำไม่ได้ จะตื่นเต้นอะไรนักหนา นึกเอ็นดูก็มิปาน
“กะดึกกะดึ้นน้อบีม !” ว่าพร้อมมองค้อนน้องสาวแบบหมั่นไส้นัก “เอาชุดไปเปลี่ยนด้วยถ้าจะเล่นน้ำอ่ะ ชุดตัวเองเตรียมเองเลย” ออกคำสั่งน้องสาว ส่วนตนเองไม่จำเป็นเพราะจะไม่เล่นน้ำอยู่แล้ว แค่อยากไปเปิดหูเปิดตาเพียงเท่านั้น
“ฮะ ! ต้องเอาชุดไปด้วยเหรอ” น้องบีมตอบด้วยความไม่เข้าใจ สงสัยคงคิดว่าไม่ได้ไปนอนค้างทำไมถึงต้องเตรียมชุดไปด้วย
“ก็จะเล่นน้ำทะเลไม่ใช่เหรอ ก็เอาไปเปลี่ยนเวลากลับจะได้ไม่ต้องใช่ชุดเปียกกลับไง”
“พี่บอสก็ต้องเตรียมมั้ย”
“ไม่ ! เอาแค่ชุดบีมเพราะพี่ไม่เล่นน้ำ มันเค็มจะตาย ไม่เคยเล่นเหรอ ตอนเด็ก ๆ แม่ก็พาไปมาแล้ว จำไม่ได้เหรอ พี่ยังจำได้เลย ” สองคนพี่น้องคุยกันในห้องนอนของตนเอง จะพูดไปก็ไปเที่ยวทะเลทุกปีนั่นแหละทุก ๆ ปิดเทอมที่มาอยู่กับแม่ ทว่าไม่เคยพ้นบางแสนกับพัทยาเลยสักครั้ง
บอสสวมกางเกงขาสั้นเจเจ กางเกงมีโลโก้ตัวเจสองตัวจึงเรียกว่ากางเกงเจเจ ซึ่งพวกเธอฮิตใส่กันมาก ๆ ช่วงนี้ พร้อมเสื้อยืดตัวโปรด ทีแรกเธอใส่กางเกงวอร์มพละของโรงเรียน แอบพับใส่กระเป๋าติดมาด้วย กลัวแม่ดุจึงเปลี่ยนใส่กางเกงเจเจแทน เลือกตัวที่มีสีและลายสวยหน่อย มันก็เข้ากันกับเสื้อยืดคอวีได้เป็นอย่างดี
กระเป๋าสะพายข้างใบเล็กคู่ใจ กระจกพับอันเล็ก ส่วนแป้งฝุ่นบอสเทแป้งใส่ถุงร้อนพับปากถุง นำยางมามัดไว้อีกทีเก็บใส่ในกระเป๋าไว้ พร้อมหวีและน้ำยาอุทัยทิพย์ อุปกรณ์แต่งสวยพร้อมมาก ๆ น้องบีมก็พร้อมเหมือนกัน วันนี้ออกเดินทางเช้าหน่อย
บอสกับน้องบีมพร้อมแล้ว ออกมานั่งรอแม่ที่ห้องโถงของบ้าน เปิดทีวีดูข่าวรอแม่เตรียมของกินไปปิคนิค ที่เสาต้นหนึ่งของบ้านมีซึงไฟฟ้าวางอยู่แม่กำลังนึ่งกุ้งไว้ กลิ่นของมันหอมเย้ายวนใจเรียกน้ำย่อยในช่วงเช้า ๆ แบบนี้มาก แม่ก็กำลังง่วนอยู่กับการนึ่งข้าวเหนียวในครัว และเตรียมมะละกอมะนาวอุปกรณ์ต่าง ๆ ไปปิคนิคที่นั่นด้วย จะได้ไม่ต้องซื้อเขาเยอะ เปลืองตังค์เปล่า ๆ
ส่วนพ่อออกไปเคลียร์รถอยู่หน้าบ้าน แม่ให้ยกหลังคารถลงเลย เนื่องจากจะหยุดกลับบ้านกันแล้ว พอพูดถึงเรื่องนี้บอสก็ดีใจตื่นเต้นไม่แพ้กัน คิดถึงบ้าน คิดถึงตากับยาย คิดถึงสองฝาแฝดพิมพ์แพรวและจ๋อมสามเพื่อนซี้จะแย่ อีกไม่กี่วันก็ได้กลับแล้ว อดทนอีกนิดเดียวเท่านั้น
เธอกับน้องบีมนอนดูทีวีรอพ่อแม่เตรียมของไปเที่ยวอย่างสบายใจ โดยเฉพาะน้องบีมที่ทำท่าจะหลับกันแล้ว ยังไม่ออกจากบ้านเลย อยากตื่นเช้าก็แบบนี้แหละ บอสปรายตามองน้องบีมที่กำลังเคลิ้มจะหลับ และชอบแกล้งสะกิดให้ตื่นทุกทีเวลาน้องหลับตาลง
“บอสดูหม้อนึ่งกุ้งให้แม่ที ถ้าสุกแล้วก็ถอดปลั๊กออกเลย ตักกุ้งใส่กล่องซุปเปอร์แวร์เลย” แม่พูดออกมาจากในครัว กลิ่นข้าวเหนียวนึ่งสุกใหม่ ๆ ก็หอมไม่แพ้กัน ยิ่งทำให้เธอหิวเข้าไปอีก ชิมกุ้งแม่สักตัวคงไม่เป็นไร
“แม่สุกแล้ว” ตะโกนบอกแม่ไป บอสเปิดฝาหม้อออก กลิ่นลอยคลุ้งเตะจมูกมาก ๆ ทั้งกลิ่นกุ้งและกลิ่นสมุนไพรที่แม่ใส่ลงไปด้วย เป็นกุ้งนึ่งสมุนไพร หอมมาก หอมจนน้องบีมต้องเขยิบมาดูด้วย
“แน่ใจนะ” แม่ย้ำ
“แน่ ! “ บอสตอบแม่ก่อนจะหันมาใช้น้องบีมเดินไปเอากล่องมาใส่กุ้ง น้องบีมก็ทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย พร้อมหยิบกุ้งไปชิมด้วย ชิมแบบร้อน ๆ นั่นแหละ “รู้ว่าร้อนก็หยิบนะบีม !” เอ็ดน้องไปที จะหิวอะไรขนาดนั้น เมื่อน้องบีมเอากล่องมาให้แล้วเธอก็จัดการตักกุ้งใส่กล่องซุปเปอร์แวร์ทันที
ส่วนตัวเองก็แอบแกะกุ้งกินด้วยเช่นกัน คลายหิวไปได้ ตัวแรกผ่านไป ตัวที่สองที่สามค่อย ๆ ผ่านไป ไม่ต้องเกรงว่าจะหมดก่อนได้ไปบางแสน แม่นึ่งกุ้งตั้งสองโลสามโล กะจะไปนั่งทั้งวันกันเลย เย็น ๆ ค่อยกลับ
“ปะ ๆ แม่เสร็จยัง เด็ก ๆ พร้อมยังสายแล้ว” เมื่อพ่อเตรียมรถเสร็จก็เดินมาเรียกพวกเธอในบ้าน ยืนพิงประตูบ้านเรียกพวกเธอกับแม่ ส่วนพ่อพร้อมมาก ๆ
“เสร็จแล้ว ๆ บอสบีมมาเก็บของไปใส่รถเร็ว ป่านนี่พี่แป้งคอยแย่แล้ว”
“จ้า “
บอสกับน้องบีมรีบลุกกุลีกุจอขนข้าวของที่จะไปปิคนิคกัน ขนไปใส่ไว้กระบะหลังรถของพ่อ อุปกรณ์การทำส้มตำ เสื่อ ของกินทุกอย่างบอสกับน้องบีมช่วยแม่ยกไปขึ้นรถคนละไม้คนละมือ แป๊บเดียวก็เสร็จครบทุกอย่าง
เมื่อทุกคนพร้อม อุปกรณ์ของกินพร้อมครบครัน ตรวจเช็คว่าไม่ลืมอะไรแน่นอน พ่อก็พาออกเดินทาง มุ่งหน้าไปที่บางแสนชลบุรี แต่ก่อนจะไปไม่ลืมที่จะแวะรับพี่แป้งด้วย คราวนี้ลุงปานกับป้าหนูไม่ขอตามไปด้วย ปล่อยให้พี่แป้งไปกับพวกเธอคนเดียว
“แม่ชลบุรีมันมีสวนสัตว์ด้วยนะ บอสเคยมาตอน ป.6 โรงเรียนพามา ไปนอนค่ายทหารด้วย ที่หาดน้ำหนาวที่สัตหีบ สนุกมาก แต่บอสจำไม่ได้ว่าสวนสัตว์มันอยู่แถวไหน มันชื่อว่าสวนสัตว์เปิดเขาเขียวอ่ะ” ที่เบาะหลังบอสชะโงกหน้ามาคุยกับแม่ระหว่างนั่งรถไปบางแสน
“อยากไปก็บอกพ่อพาไปถะแหมะ แม่ไม่ใช่คนขับรถ”
“พ่อไปไม่ถูก ! ไม่รู้จัก” พ่ออออกตัวก่อนเลย อย่างกับกลัวจะได้พาไป พวกเธอสามคนรวมพี่แป้งด้วยหัวเราะชอบใจกันใหญ่ ที่โดนพ่อชิ่งปฏิเสธตัดหน้าไปก่อน
“ตอน ป.6 โรงเรียนพามา ชลบุรีมันมีบ้านสุขาวดีด้วยนะแม่ ติดทะเล สวยหลังใหญ่มาก บอสก็เคยไปมาแล้ว และก็ไปนอนที่สัตหีบ เล่นน้ำทะเลด้วยไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ มันมีแต่โขดหิน ไปนอนค่ายทหาร แต่ไม่เห็นทหารสักคน” บอสโม้ให้ทุกคนฟัง
บอสเล่าเรื่องสมัยตอนอยู่ ป.6 มาเที่ยวกับทางโรงเรียนให้ทุกคนฟัง ซึ่งมันพึ่งผ่านมาแค่ปีเดียวเอง เธอจำเหตุการณ์ได้ทุกอย่าง ทว่าตอนนี้ให้จำทางไปก็จำไม่ได้แล้ว แต่ภาพเหตุการณ์มันยังชัดเจนเหมือนพึ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ไม่นานพ่อก็พาขับมาถึงบางแสน
พ่อค่อย ๆ ขับมาตามถนนเรียบหาด หาที่ ๆ คิดว่าเหมาะที่สุด วันนี้คนน้อยเพราะไม่ใช่วันเสาร์อาทิตย์นั่นแหละ อีกอย่างช่วงนี้ผู้คนบางส่วนทยอยกลับบ้านกันหมด จึงทำให้หาดบางแสนบางตา แม่ไม่เลือกนั่งโต๊ะที่เขาจัดไว้ให้ เพราะนำเสื่อนำอุปกรณ์ทำกับข้าวมาเองจะเสียเงินทำไม กินอิ่มกว่าด้วย
เมื่อได้ที่ ๆ เหมาะที่สุด พ่อจอดรถสนิทแล้วพวกเธอก็ช่วยกันขนกับข้าวที่เตรียมมาลงจากรถ แม่ปูเสื่อใต้ต้นไม้ พวกเธอสามพี่น้องช่วยกันขนกับข้าวลงมาอย่างขะมักเขม้น อีกทั้งตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจกับผืนทะเลอันกว้างใหญ่ไพรศาลสุดลูกหูลูกตาที่อยู่ตรงหน้านี้ แม้จะเคยมาแล้วก็ตาม ก็ยังตื่นเต้นเสมอเหมือนพึ่งเคยมา เสียงคลื่นของมันที่ซัดมากระทบฝั่งช่างน่าฟังเหลือเกิน
ตามชายหาดเช้านี้มีรถของคนมาเที่ยวหลายคัน อีกฝั่งของถนนเลียบหาดเป็นร้านขายของปกติธรรมดา ซึ่งตอนกลางคืนก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง มีเสื้อผ้าแขวนโชว์ขายสวยงาม มีรถนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างพื้นที่ทยอยกันมา ระหว่างนั้นก็มีแม่ค้าหาบเร่มาขายของกินให้ไม่ขาดสาย บ้างก็ปฏิเสธไปบ้างก็ช่วยอุดหนุน
พี่แป้งกำลังสับมะละกอช่วยแม่ ตนเองก็หยิบจับช่วยพี่สาวด้วยจะได้เสร็จเร็ว ๆ ส่วนน้องบีมกำลังตื่นเต้นกับชายหาดและน้ำทะเลอยู่ ถอดรองเท้าเดินเล่นเหยียบทรายไปมา แม่ต้องคอยปรามว่าอย่าเดินไปไกลจากตรงนี้เดี๋ยวหลงหาไม่เจอ รอกินข้าวเช้ากัน
“แม่น้องบีมเล่นน้ำทะเลนะ” น้องบีมวิ่งมานั่งลงที่เสื่อนั่งพับเพียบขอแม่ แต่ก็โดนแม่ปฏิเสธ แม่ให้ทานข้าวเช้ากันก่อน
“ไม่ได้ ใจร้อนจังเลยสิได้เล่นหรอกน้ำนั่น ทานข้าวก่อน” แม่ดุน้องบีมนิดหน่อย แล้วก็หันมาตำส้มตำไม่สนใจสีหน้าและท่าทางของลูกสาวคนเล็กเลย เธอกับพี่แป้งหัวเราะเยาะให้ น้องบีมไม่สนใจ วิ่งลงไปในทะเล หยุดยืนตรงรอยต่อของคลื่นที่ซัดซาดมา แค่เท้าได้แตะน้ำก็พอใจ จะเล่นจนตัวเปียกตอนนี้ก็กลัวแม่ดุ แล้วก็วิ่งกลับมา
“เดี๋ยวพี่พาเล่น” พี่แป้งเสนอตัว “แต่ว่าช่วยหยิบถาดให้พี่หน่อย จะใส่กุ้ง”
“ใบนี้เหรอ ขอชิมหน่อยตัวนึง” น้องบีมขอกุ้งนึ่งสมุนไพรจากพี่แป้ง
“อย่าว่าตัวนึงเลยบีมหลายตัวละ” บอสพูดประชดน้อง ที่บ้านก็กินไปหลายตัวแล้ว
พวกเธอช่วยกันจัดสำรับสำหรับมื้อเช้ากับแม่ ส่วนพ่อนั่งดูพวกเธอ จะช่วยก็กลัวจะเกะกะเปล่า ๆ และพวกเธอก็ไม่ต้องการให้พ่อช่วยด้วย นั่งรอทานข้าวเฉย ๆ ก็พอ แล้วพ่อก็ปลีกตัวไปยืนดูดบุหรี่นิดหน่อย ก่อนจะกลับมานั่งตามอัธยาศัย สายลมพัดยอดพร้าวเสียงดังซู่ซ่า อากาศเย็นสบายแดดยังไม่ร้อนมากนัก พอถึงตอนเที่ยงก็คงร้อนน่าดู
สาย ๆ ก็เริ่มมีนักท่องเที่ยวทยอยมาเที่ยวกันหลายครอบครัว บ้างมาเป็นครอบครัวเหมือนพวกเธอ บ้างมาเป็นกลุ่มเพื่อน และมาเป็นคู่รักหนุ่มสาว บอสมองดูผู้คนบริเวณรอบ ๆ ชายหาดอย่างเพลินตา ทีแรกขอแม่ให้พาไปพัทยา แต่บางแสนก็โอเคดี
“เอามะม่วงมั้ยจ๊ะ ส้มตำก็มี ตำมะม่วง ตำกล้วยก็มี ไข่นกกระทาก็มีนะ” แม่ค้าหาบเร่เดินมาขายของให้พวกเธอ ดูรูปร่างหน้าตาอายุเยอะพอควร เป็นยายของพวกเธอได้เลย ทำไมถึงยังต้องมาเร่ขายของอีกนะ ทำไมไม่พักผ่อนอยู่บ้าน เป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่บอสแอบสงสัย
“มีตำปลีมั้ยยาย เด็ก ๆ กินตำมะม่วงมั้ยนะ แต่ไม่เอาส้มตำนะ ของเราก็มี” แม่หันมาถามพวกเธอ
“แม่เอาตำกล้วย” บอสเสนอ
“เอาตำกล้วยจ้ะ มีตำปลีมั้ยน่ะ”
“มี ๆ “ แม่ค้าตอบ แล้วก็วางตะกร้าหาบลงกับพื้นริมถนน หยิบครกและสากใบเล็กขนาดพกพาออกมาตำกล้วยและตำปลีกล้วยให้แม่ ทั้งทำไปด้วยพูดคุยกับแม่ไปด้วย สุดท้ายก็คนภูมิลำเนาเดียวกันทว่าคนละจังหวัด หลังตำให้แม่เสร็จคุณยายแม่ค้าก็นั่งคุยกับพ่อแม่สักพักก่อนจะขอตัวหาบเร่ขายของต่อ
เธอ พี่แป้ง น้องบีม พ่อและแม่นั่งทานข้าวเช้ากันใต้ต้นไม้ริมหาด มีกุ้งนึ่งสมุนไพร ส้มตำ เนื้อหมูแดดเดียวทอด ข้าวเหนียว ลูกชิ้นทอดและตำกล้วย ตำปลีกล้วยที่แม่ซื้อมาเพิ่ม อร่อยมาก ๆ น้ำอัดลมแม่ก็เตรียมมาจากบ้าน น้ำเปล่า น้ำแข็งใส่กระติกมาจากบ้านด้วย แทบไม่ได้ซื้ออะไรเลย
สายลมพัดโชยให้ความเย็นผสมแสงแดดอุ่น ๆ ผนวกกับเสียงคลื่นน้ำทะเลซัดสาดมาเป็นระยะ ให้ความรู้สึกดีและมีความสุขมาก ๆ ทำให้อดนึกถึงตอน ป.6 ไม่ได้เลยที่โรงเรียนพามา นึกถึงจ๋อมและสองฝาแฝด อีกไม่กี่วันก็จะได้กลับบ้านไปหาแล้ว
“พี่แป้งพี่บอสเล่นน้ำกัน” เมื่อทานข้าวอิ่มน้องบีมก็ชวนพวกเธอเล่นน้ำกันเลย แม่กับพ่อก็ไม่ห้าม บอสกับพี่แป้งไม่ปฏิเสธ แต่ก็ไม่เล่น พาน้องบีมลงไปทะเลเฉย ๆ
“หาเก็บเปลือกหอยไปปล่อยในอ่างน้ำที่บ้านดีกว่า เอาสวย ๆ นะ” บอสกับพี่แป้งถอดรองเท้าเดินแช่น้ำทะเลเดินไปตามชายหาด เท้าย่ำทรายและน้ำทะเลมันรู้สึกดีสบายเท้าอย่างบอกไม่ถูก พากันเดินเล่นกับพี่แป้ง ด้วยความที่โตแล้ว จึงไม่อยากเล่นน้ำแบบเด็ก ๆ และมอง ๆ ดูแล้วมีแต่เด็ก ๆ เท่านั้นที่ลงเล่นน้ำกัน มีผู้ปกครองคอยดูอยู่ไม่ห่างด้วย แม่เองก็คอยดูน้องบีมไม่คาดสายตา
น้องบีมได้เพื่อนใหม่เล่นน้ำด้วยกัน เล่นห่วงยางโต้คลื่นทะเลด้วยกัน ไม่เคยรู้จักกันทว่าเล่นน้ำด้วยกันอย่างสนุกสนานอย่างกับรู้จักกันมาเป็นสิบปี เป็นเพื่อนกันไปโดยปริยาย