คิดถึง 2 บทที่ 66

กระทู้สนทนา

.
                    ไดอารี่ความคิดถึง

                   หลังทำบุญตักบาตรเสร็จ พวกเธอก็ไม่ได้เข้าไปในเมืองอย่างที่พูดกันเอาไว้ เพราะโดนลุงวิทย์บ่น สองฝาแฝดจึงไม่ไป พอสองคนนี้ไม่ได้ไปเธอกับจ๋อมจึงไม่ไปด้วยอีกคน ต่างคนต่างอยู่บ้านของใครของมัน เพราะลุงวิทย์บ่นสองฝาแฝดนั่นแหละ เธอจึงไม่กล้าไปเล่นด้วยอยู่บ้านดีกว่า

                      วันนี้ยายไปนอนวัดหนึ่งคืน สิบเอ็ดโมงเช้าบอสก็ต้องนำกับข้าวไปส่งเพลยายอีก ยายบอกให้ซื้อส้มตำกับก๋วยเตี๋ยวมาให้ ส่วนข้าวไม่ต้องก็ได้ หม้อหุงข้าวพังยายจึงให้เอาแค่กับข้าวมาก็พอ

                     พี่ปาวเตรียมเงินไว้ให้เธอเพื่อไปซื้อกับข้าวให้ยาย ส่วนเจ้าตัวกับพี่แป้งขอไปเล่นที่บ้านตนเองที่คุ้มใต้ บอสก็ไม่ว่าอะไร

                    “บอสกับบีมถ้าจะลงไปเล่นนำเอื้อยกะพากันมาเด้อ เอาแนวกินไปส่งยายแล้วกะมาถ้าสิมา พาน้องระวังรถนำแน่ละขั้นมานะ” พี่ปาวสั่งก่อนจะไปบ้าน

                    “จ้า อาจบ่ไปบอสเบิ่งก่อน” เธอตอบ “น้องบีมไปบ่” หันไปถามน้องสาว น้องบีมส่ายหัวปฏิเสธเหมือนกัน

                     “เงินเอื้อยเอาค้างไว้หลังตู้เย็นนะ ซื้อแนวกินไปส่งยายนำ บ่ไปกะแล้วแต่ บอมเข่ากับแนวกินในตู้เย็นเด้อกูเฮ็ดไว้เมิดล่ะ บ่ายสามกูจังสิกลับมา” พี่ปาวหันไปสั่งพี่บอมอีกคนก่อนจะไปบ้านกับพี่แป้ง

                      “ไปถ่าบักอุ้ยติ” พี่บอมปรายตามองน้องสาวลูกพี่ลูกน้องพร้อมถามคำถาม บอสกับพี่แป้งหัวเราะอึกอัก บอสสังเกตว่าพี่ปาวเบิกตากว้างด้วยก่อนจะทำตัวปกติ บอสรู้ว่าที่พี่ปาวเที่ยวไปบ้านในวันเสาร์อาทิตย์เพราะอะไร ทว่าก็ไม่มีอะไรเสียหาย ญาติ ๆ ที่อยู่คุ้มใต้ก็คอยสอดส่อง

                      “ฮู้ดีน้อบักฮามืง กูไปปัดกวาดเฮือนกูแหมะ” พี่ปาวตอบแบบจิกกัดพี่บอม ข้อหารู้ทันดีนัก

                     “เหรอ !”

                    “เออ ! “ แล้วพี่ปาวก็ขับรถมอเตอร์ไซค์ของตนเองไปกับพี่แป้ง พี่บอมก็แค่ถามไม่ได้จะเซ้าซี้อะไรอยู่แล้ว ส่วนพี่ชายคนลองพี่บอลไปเล่นกับเพื่อนตั้งแต่กลับจากวัดมา

                    บอสนั่งไกวเปลฟังเพลงเอ็มพีสามในโทรศัพท์ของตนเองอย่างเพลิดเพลิน ไกวเปลไปพร้อมฟังเพลงไปด้วยมันช่างมีความสุขเสียจริง วันนี้ไม่มีที่ไปก็เล่นคนเดียว เล่นกับน้องบีมที่บ้านนี่แหละ เย็น ๆ ค่อยไปหาสองฝาแฝดก็ได้

                  “พี่บอสนั่งด้วย” น้องบีมเดินออกมาจากในบ้าน ขอนั่งเปลด้วยคน บอสกลอกตาถอนหายใจให้น้องสาว ยังจะมาแย่งนั่งอีก ทำไมไม่ดูทีวีกับพี่บอม ทว่าก็ไม่ได้หวงอะไรนั่งด้วยกันได้ น้องบีมรั้งเปลให้หยุดแล้วขึ้นนั่ง ไม่กลัวเชือกขาดอยู่แล้วเพราะตาใช้สายพานผูกแทนเชือก ที่เสาก็รองด้วยผ้าอย่างหนาเอาไว้

                     “ฟังด้วยมั้ย” บอสถามน้องสาว พร้อมยื่นหูฟังให้ฟังคนละข้าง “บีมเคยฟังเพลงนี้มั้ยอ่ะ ลองฟังดู”

                      “หื่อ น้องบีมไม่ฟัง” น้องบีมปฏิเสธ

                       “ตามใจ !” บอสเก็บหูฟังคืน ฟังเอ็มพีสามคนเดียว นั่งไกวเปลไปกับน้องสาว แต่แล้วก็นึกอะไรได้ “บีมพี่ใช้อะไรหน่อย ลุกไปเอาวิทยุของยายมาให้พี่หน่อยเร็ว งั้นไม่ให้นั่งด้วยนะ” ด้วยความขี้เกียจลุกแต่อยากฟังจึงขู่น้องบีมซะหน่อย ให้ไปเอามาให้

                        “โถ่ ! ทำไมไม่ไปเอาเอง” น้องบีมค่อนขอดให้ แต่ก็ยังลุกเดินไปหยิบมาให้เธอ เดินเข้าไปในบ้านสักพักเดินออกมายืนเท้าสะเอวหน้าประตูบ้าน “พี่บอสวิทยุยายอยู่ตรงไหนไม่เห็น”

                      บอสถอนหายใจอีก หาของแค่นี้ก็หาไม่เจอ “ก็อยู่ในบ้านไง ถามพี่บอมดิ” น้องบีมเดินหันขวับเข้าไปในบ้านอีก สักพักเดินกลับมาหยุดยืนหน้าประตูอีกครั้ง

                      “ไม่เห็นหาแล้ว พี่บอมก็บอกไม่เห็น” น้องบีมตอบ

                      “ในมุ้งยายหายัง ถ้ายังก็ไปหาด่วน อีหนิหาหยังบ่เคยเห็นจักเทือ” บ่นน้อง

                      “คือบ่มาหาเอง !” บ่นเธอคืน แต่ก็ยังเดินกลับไปหาในห้องนอนของยายอีครั้ง ชอบถามหลายรอบนัก หาตรงนี้ไม่เจอแทนที่จะเข้าไปหาในห้องนอนยายด้วย ชอบถามเฉย ๆ นั่นแหละ เอ็ดน้องสาวในใจทว่าแสดงออกด้วยสีหน้าและแววตา “เห็นแล้ว” น้องบีมเดินถือวิทยุธานินทร์มาให้เธอ

                      “เอามาสิเปิดฟัง” รับวิทยุจากน้องสาว น้องบีมขึ้นมานั่งที่เปลอีกรอบ บอสถือวิทยุไปวางไว้บนแคร่ ยกเสาอากาศขึ้น ยายนำสายไฟเล็ก ๆ มามัดเข้ากับเสาอากาศเพื่อนำไปมัดกับขื่ออีกทีหนึ่ง การทำแบบนี้จะทำให้สัญญาณมันชัดเพิ่มมากขึ้น บอสเปิดช่อง FM ฟังรายการวิทยุที่ชอบฟังมาก ดีจีพี่เป๊กกับพี่จอร์นขาประจำนั่นเอง

                      “พี่บอสน้องบีมอยากเล่นเกมงูอ่ะ ขอโทรศัพท์เล่นเกมได้มั้ย” เมื่อเธอกลับมานั่งเปลฟังวิทยุต่อ ไกวไปพร้อมฟังดีเจจัดรายการไปด้วย พี่จอร์นกับพี่เป๊กพูดสนุกมาก

                      “ได้ ! เปลี่ยนกัน ใครเล่นตายเปลี่ยนกันนะ ให้น้องบีมเล่นก่อนเลย” บอสให้โทรศัพท์กับน้องอย่างว่าง่าย เปิดวิทยุฟังไปด้วย อีกสักพักก็จะไปซื้อกับข้าวเพื่อนำไปส่งยายแล้ว ขณะนั้นนึกอะไรขึ้นมาได้ เพื่อเป็นการทำบุญไปในตัว และ ตนเองก็ได้ทานด้วยเช่นกัน บอสจึงคิดจะหุงข้าวไปถวายเพลพระด้วย แม้หม้อหุงข้าวไม่มีก็หุงได้ ยายเคยสอนเอาไว้

                        พอคิดได้ดังนั้นจึงลุกจากเปลทันควัน “ โอ้ยพี่บอสอ่ะ จะลุกทำไมไม่บอก น้องบีมตายเลย กำลังจะชนะอยู่แล้วอ่ะ” โดนน้องบีมบ่นให้อีก เนื่องจากเธอลุกแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ทำให้เปลมันกระเด้งกระทบมือของน้องบีม ทำให้บังคับเกมพลาด ที่บ่นเพราะตายแล้วต้องเปลี่ยนให้เธอเล่น น้องบีมเสียดายนั่นเอง

                        “เล่นต่อเลยพี่ไม่เล่น”

                       “จริงอ่ะ !” น้องบีมเผยยิ้มดีใจ บอสเห็นแล้วหมั่นไส้นัก ทีเมื่อครู่ยังจะเอาเรื่องเธออยู่เลย

                        “อือ !” ตอบน้องสาวก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านหาพี่ชาย “พี่บอมกินข้าวจ้าวมั้ย “ บอสถามพร้อมเดินเข้าไปในครัว “ว่าจะหุงให้ยายด้วย น่าจะทันนะ เก้าโมงเอง เดี๋ยวสักสิบโมงกว่า ๆ ค่อยไปซื้อส้มตำให้ยายก็ได้”

                        “เอาอะไรหุง ไหนยายบอกหม้อพังไง” พี่บอมถาม ทว่าก็ยักคิ้วให้เป็นคำตอบว่าตกลง พี่บอมนอนดูโทรทัศน์บนโต๊ะไม้ เปิดโทรทัศน์ตั้งแต่กลับจากวัดจนขณะนี้ยังไม่ยอมปิดเลย ถ้ายายอยู่บ้านป่านนี้โดนบ่นไปแล้ว สรุปว่าวันนี้พวกเธอเป็นอิสระ จะทำอะไรก็ได้ ตาก็ไม่อยู่ไปเลี้ยงวัว ค่ำ ๆ นู่นถึงจะกลับ

                          “ก็หุงหวดไง บอสเคยทำ ยายสอน” พูดพลางตักข้าวเจ้าใส่หม้อแกงเตรียมจะนำไปล้างก่อนหุง

                      “เอาดี ๆ ลามืง เสียเข่าถิ่มเด้ “ ถึงจะตอบตกลงพี่บอมก็ดูลังเล กลัวว่าจะทำเสียของเปล่า ๆ

                      “เชื่อฝีมือบอสโลดน่า บอสเคยเฮ็ด ยายสอน บอสจำขั้นตอนได้” พูดเป็นมั่นเป็นเหมาะ มั่นใจในฝีมือของตนเองมาก ๆ เพราะเคยทำจริง ๆ ยายสอยให้ทำ สามารถหุงข้าวโดยที่ไม่ใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้าก็ได้

                      “เฮ็ดกะเฮ็ดโลดสั่น หุงหลายจักนอยเด้อ อ้ายกะอยาก บอสขั้นไปซื้อตำ ซื้อมาให้เฮากินนำเด้อ คนละถุงกับของยาย”

                       “อือ”

                      คุยกับพี่บอมจบต่างคนก็ต่างเลิกสนใจกัน หลังจากเก็บเม็ดหญ้าสิ่งแปลกปลอมอะไรต่าง ๆ ออกจากเม็ดข้าวสารจนแน่ใจว่าหมดแล้ว จึงเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อนำข้าวไปล้างให้สะอาดอีกที บอสซาวน้ำสองรอบก็พอแล้ว จากนั้นก็มาก่อไฟ ที่บ้านของเธอใช้เตาถ่านในการทำกับข้าวทุกวัน

                      บอสถือหม้อข้าวเดินออกมาข้างนอก กำลังก่อไฟอยู่ “พี่บอสทำอะไรอ่ะ” น้องบีมเดินมาหาที่เตาพร้อมถามด้วยความอยากรู้

                     “หุงข้าวอ่ะ “ ตอบแบบไม่หันไปมอง มือก็กำลังขีดไม้ขีดอยู่

                     “แบตหมด” น้องบีมบอกพร้อมยื่นโทรศัพท์ของเธอคืนให้ด้วย

                     “แบตหมดก็เอาไปชาร์จตั้วบีม เอามาให้พี่ทำไม ชาร์จไว้ไม่ต้องเล่นนะ รอให้มันเต็มก่อน เดี๋ยวระเบิดใส่ตายห่าเลย” เอ็ดน้อง ถ้าแบตไม่หมดคงไม่ยอมเอามาคืนให้ “เอ่อ มีใครโทรเข้ามั้ย” ถามด้วยความอยากรู้เช่นกัน

                   “ไม่อ่ะ น้องบีมเอาไปชาร์จนะ” พูดจบน้องสาวของเธอก็เดินตัวปลิวเข้าไปในบ้าน ส่วนเธอก็ทำการหุงข้าวต่อไป

                      บอสทำการต้มข้าวสารก่อน ยายบอกว่าต้มข้าวให้เม็ดข้าวมันพุย ๆ คล้ายข้าวต้ม แต่ไม่ต้องพุซุยหรือเละขนาดนั้น หรือ ต้มให้เม็ดข้าวมันอ่อน ๆ เสียก่อน ระหว่างนั้นบอสก็เดินไปหยิบวิทยุมาวางไว้ใกล้ ๆ หาตำแหน่งที่สัญญาณดีที่สุด ต้มข้าวไปด้วยฟังวิทยุไปด้วยก็เพลินดี สักพักน้องบีมก็เดินออกมาหา มายืนดูเธอต้มข้าว มายืนเป็นเพื่อนคุย

                      “ทำไมต้องต้มข้าวอ่ะพี่บอส จะทำข้าวต้มเหรอ” น้องบีมถาม บอสเม้มปากกลอกตามองบนให้ เพราะพึ่งตอบไปหยก ๆ ว่าจะหุงข้าง ยังจะมาถามว่าจะทำข้าวต้มเหรออยู่อีก

                     “บ่ ! สิหุงข้าวกะยังวะ เฮาต้องต้มให้เข่ามันพุ ๆ ก่อน แล้วค่อยเอาไปนึ่ง” บอสสาธยายให้น้องสาวฟังอย่างใจเย็น น้องบีมพยักหน้ารับ บอสยืนคนหม้อไปเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้เข้าติดก้นหม้อ เที่ยวตักเม็ดข้าวมาแทะดูว่าอ่อนใช้ได้หรือยัง ถ้ายังแข็งอยู่ก็ต้มต่อไป

                      น้องบีมก็เที่ยววิ่งเข้าวิ่งออกภายในบ้าน  ไปดูทีวีกับพี่บอม สักพักก็ออกมาหาเธอที่เตาไฟข้างนอกบ้าน น้องบีมเองก็ไม่ไปเล่นกับเพื่อนรุ่นเดียวกันเช่นกัน อยู่บ้านเล่นกับเธอ เพราะติดโทรศัพท์ต่างหาก ติดเกมในโทรศัพท์ ที่เที่ยววิ่งเข้าออกในบ้านก็เพื่อจะไปดูว่าแบตโทรศัพท์เต็มแล้วหรือยังต่างหาก ทำไมเธอจะไม่รู้ความคิดของน้องสาว

                         บอสยืนคนหม้อไปเรื่อย ๆ รอบนี้ลองแทะเม็ดข้าวดูรู้สึกว่ามันจะอ่อนมากแล้ว แค่นี้ยังไม่พอหรอก เพื่อความแน่ใจบอสจึงคน ๆ อีก สุ่มตักเม็ดข้าวมาแทะอีก ก็พบว่าอ่อนมากแล้ว จากนั้นก็ยกหม้อออกจากเตา ยัดฟืนใส่เตาไว้รอ ขั้นตอนต่อไปคือนำข้าวที่ต้มสุกแล้วมานึ่งต่อ นึ่งเหมือนข้าวเหนียวเลย นี่คือขั้นตอนสุดท้าย รอข้าวสุกอย่างเดียวก็เป็นอันเสร็จ ขั้นตอนนี้จะได้ข้าวสวยหรือข้าวเจ้าเหมือนที่เราหุงในหม้อไฟฟ้านั่นแหละ

                     “บีมดูเตารอพี่นะ อย่าให้ไฟมันดับล่ะ” กำชับน้องบีม น้องบีมพยักหน้าหงึก ๆ รับปาก แล้วเธอก็ถือหม้อเดินเข้าไปในห้องน้ำ แล้วก็เดินกลับมาถือหม้อนึ่งกับหวดนึ่งข้าวตามเข้าไปด้วย

                     เทน้ำใส่หม้อนึ่งประมาณสองข้อนิ้วของนิ้วกลางก็พอ นำข้าวที่ต้มเทใส่หวด ก่อนจะเทข้าวใส่หวดต้องเทน้ำราดหวดให้เปียกเสียก่อน กันไฟไหม้ จากนั้นจึงเทข้าวที่ต้มสุกแล้วลงในหวด ไอร้อนของข้าวที่ระเหยขึ้นมามันร้อนมาก ลำบากในการเทเหลือเกิน สุดท้ายเธอก็เทมันสำเร็จจนได้ จากนั้นก็นำหวดที่มีข้าวอยู่ในนั้นใส่หม้อนึ่งถือมาค้างเตาไฟอีกรอบ ปิดฝาหม้อให้เรียบร้อยแค่นี้ก็เป็นอันเสร็จ จากนั้นก็รอข้าวสวยสุกรอรับประทานได้เลย

                     บอสยืนมองผลงานของตนเองอย่างภูมิใจ “อีกนานมั้ยพี่บอสกว่าจะสุก” น้องบีมถาม ยืนมองผลงานของเธอด้วยคน “น้องบีมกินด้วยนะ”

                     “เค ! “ บอสตอบด้วยรอยยิ้ม

                     “เป็นตะได้กินบ่สูสองพี่น้องหนิ” พี่บอมเดินมาดูพวกเธอที่เตาไฟข้างบ้าน “จักนอยไปซื้อแนวกินให้ยายเด้อ ใกล้ฮอดเวลาล่ะ” พี่บอมกำชับ

                     “อือ เดี๋ยวบอสไปหรอก เข่าสุกก่อน” เธอตอบแล้วพี่บอมก็เดินกลับเข้าไปในบ้าน เดินขึ้นไปชั้นบนบ้านเพื่อไปคุยโทรศัพท์กับแฟน ปิดโทรทัศน์สักทีเถอะตั้งแต่เมื่อเช้า บอสค่อนขอดให้พี่ชาย มองพี่ชายเดินขึ้นไปบนบ้านจนลับตาจึงหันมาสนใจหม้อข้าวต่อ คอยเติมฟืนเรื่อย ๆ ไม่ให้ขาด
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่