ภาพดาวศุกร์จากยานสำรวจเวเนรา 14

Cr.https://apod.nasa.gov/apod/ap210317.html

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2021 ที่ผ่านมา ทางเพจเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความชวนดูพื้นผิวของ #ดาวศุกร์ ดาวเคราะห์ที่สภาพอากาศโหดร้ายที่สุดในระบบสุริยะ ที่ถ่ายจากยานเวเนรา 14 โดยระบุดังนี้

ภาพนี้เป็นมุมมองบนพื้นผิวดาวศุกร์ที่ถ่ายจากยานเวเนรา 14 (Venera 14) ยานของอดีตสหภาพโซเวียตที่ฝ่าชั้นบรรยากาศหนาทึบไปลงจอดบนดาวเคราะห์ที่ได้ฉายาว่าเป็น " ฝาแฝดของโลก " ในเดือนมีนาคม ค.ศ.1982 ภูมิประเทศรกร้างบนดาวศุกร์ที่ปรากฏในภาพนี้ เป็นบริเวณพื้นที่ Phoebe Regio ที่อยู่ใกล้กับเส้นศูนย์สูตรของดาวศุกร์ แสดงก้อนหินที่มีลักษณะแบน

พื้นผิวที่แทบจะว่างเปล่าไม่ค่อยมีก้อนหินระเกะระกะ และท้องฟ้าอันราบเรียบที่ไม่แสดงร่องรอยอะไรเลย บริเวณทางซ้ายของฐานยานในภาพมีอุปกรณ์ที่เรียกว่า " Penetrometer " ที่มีลักษณะเป็นหัวเจาะวัดความแข็งและการบดอัดของดิน และชิ้นส่วนสีอ่อนทางขวาของ Penetrometer คือฝาครอบเลนส์กล้องที่กระเด็นออกมาจากยานเวเนรา 

ภายใต้สภาวะแวดล้อมโหดร้ายนี้ บนพื้นผิวดาวศุกร์มีอุณหภูมิสูงถึง 450 องศาเซลเซียส และความดันจากชั้นบรรยากาศสูงถึง 75 เท่าของโลก โดยยานเวเนรา 14 สามารถปฏิบัติภารกิจบนพื้นผิวดาวศุกร์ได้เป็นระยะเวลา 57 นาที ถึงแม้ว่ายานเวเนรา 14 จะลงจอดบนดาวศุกร์มาเกือบ 40 ปีแล้ว แต่ปัจจุบันก็ยังคงมีการนำข้อมูลดังกล่าวกลับมาประมวลผลใหม่

ภาพประกอบของวีนัสนี้ สร้างขึ้นโดยการรวมข้อมูลจากภารกิจของนาซ่าสองภารกิจกับข้อมูลจากยานอวกาศเวเนราของโซเวียต

Cr.https://astronomy.com/news/2020/08/interplanetary-probes-from-behind-the-iron-curtain-the-soviet-venera-program

และเมื่อไม่นานมานี้ นักวิทยาศาสตร์ได้วิเคราะห์ข้อมูลจากการสังเกตการณ์ดาวศุกร์ในย่านรังสีอินฟราเรดโดยยาน Venus Express ขององค์การอวกาศยุโรป (ESA) ผลที่ได้บ่งชี้ว่าดาวศุกร์อาจยังมีภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่บนพื้นผิวดาว

สำหรับโครงการ Venera ของสหภาพโซเวียตนั้น เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 1961 - 1985 เป็นความพยายามครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในการศึกษาดาวเคราะห์ดวงอื่น

ซึ่งพื้นฐานของการออกแบบยานอวกาศระหว่างดาวเคราะห์และการสำรวจระยะไกลนี้ ได้รับการยอมรับใน Venera missions โดยความสำเร็จประกอบด้วย ยานสำรวจชั้นบรรยากาศ 3 ลำ,การลงจอด 10 ครั้ง, ยานอวกาศ 4 ลำ, flybys (บินผ่านวัตถุท้องฟ้าเพื่อทำกkiสังเกตการณ์) หรือ impacts

11 ลำ และบอลลูนสำรวจในเมฆ 2 ลำ 

ซึ่งในปัจจุบัน มีการค้นพบทางวิทยาศาสตร์มากมายเกี่ยวกับดาวศุกร์จากข้อมูลที่ดึงมาจากยานสำรวจเวเนรา ตัวอย่างเช่น หลังจากวิเคราะห์ภาพเรดาร์ที่ส่งมาจากเวเนรา 15 และ 16 สรุปได้ว่า สันเขาและร่องบนพื้นผิวของดาวศุกร์เป็นผลมาจากการเปลี่ยนรูปของเปลือกโลก

โดยโปรแกรมเวเนราหมายถึง “Venus” ในภาษารัสเซียเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์สงครามเย็นที่น่าสนใจ และไม่ได้ครอบคลุมอย่างกว้างขวาง

ในตะวันตก หลายคนจึงไม่รู้ว่าสหภาพโซเวียตได้ส่งข้อมูลและภาพลึกลับจากพื้นผิวดาวศุกร์มายังพื้นโลกได้อย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน

เรียบเรียง : พิสิฏฐ นิธิยานันท์ – เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์ชำนาญการ สดร.

อ้างอิง : https://apod.nasa.gov/apod/ap210317.html / https://nssdc.gsfc.nasa.gov/planetary/venera.html

Cr.https://www.bigberm.com/society/55250/

Cr.https://davidgrunwaldblog.wordpress.com/2017/09/19/soviet-%D0%B2%D0%B5%D0%BD%D0%B5%D1%80%D0%B0-venera-space-program-1970-1982-venera-7-14/DAVIDGRUNWALDBLOG