ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา การเติบโตอย่างรวดเร็วของ Alibaba กลุ่มบริษัทขนาดยักษ์ที่ครอบคลุมตั้งแต่การขายของ online จนถึงการให้กู้ยืมเงินส่วนบุคคล (Personal loan) อาจมีอิทธิพลต่อประชาชนและรัฐบาลจีนมากเกินไป รัฐบาลพญามังกรจึงลงดาบให้ยุติการเข้าตลาดของ Ant Group ส่งผลให้เกิดแรงกดดันมากมายไปยังบริษัทร่วมอุตสาหกรรมเทคโนโลยี และเมื่อพี่ใหญ่อย่าง Alibaba โดยจัดการไปแล้ว ก็ถึงคราวที่พี่รองอย่าง Tencent จะโดนซิวไปด้วยครับ

---

โดนจับตามองโดยหน่วยงานภาครัฐ



สำนักงานบริหารจัดการกฎระเบียบตลาดแห่งรัฐ (State Administration for Market Regulation: SAMR) ซึ่งเป็นหน่วงงานที่กำกับดูระเบียบข้อบังคับ ต่างๆ ของตลาดในประเทศจีนได้ประกาศว่ามี 12 บริษัทที่ละเมิดกฎหมายผูกขาดตลาด (Anti-monopoly rules) ครับ โดยกลุ่มบริษัทดังกล่าวปรากฏชื่อของคู่แข่งคนสำคัญของ Alibaba อย่าง Tencent ด้วยครับ 

นอกจากการจับตามองอย่างใกล้ชิดจากหน่วยงานภาครัฐ ประธานาธิบดี Xi Jinping ก็ออกมาตอกย้ำเรื่องนี้โดยเขาได้ออกคำสั่งไปยังหน่วยงานรัฐทั่วประเทศให้เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบการดำเนินการของบริษัทเทคโนโลยีครับ 

จากการประกาศของ SAMR และคำสั่งของท่าน Xi ทำให้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มูลค่าหุ้นของบริษัท Tencent ดิ่งเหวหายไปถึง 60,000 ล้านดอลล่าห์ หลังจากที่นักลงทุนมีความกังวลว่ารัฐบาลจีนจะเข้ามา “จัดการ” Tencent เนื่องจากมีอิทธิพลมากต่อความมั่นคงของประเทศจีนมากเกินไปครับ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอย่างน้อยๆ Tencent อาจต้องขายกิจการสื่อบันเทิงต่างๆของตนเองเซ่นเรื่องนี้ด้วยครับ

---

ย้อนรอย Jack Ma กับ Alibaba ที่เกือบล่มสลาย



มูลเหตุที่ทำให้สถาณการณ์ของ Tencent อยู่ในสภาวะหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้เริ่มต้นในช่วงตุลาคมปี 2020 เมื่อ Jack Ma ที่ตอนนั้นกำลังประสบความสำเร็จอย่างฉุดไม่อยู่ได้ออกมาพูดต่อต้านการดำเนินนโยบายของประเทศจีนที่อาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของบริษัทเทคโนโลยีทางการเงิน (Finance Technology)

หลังจากการพูดครั้งนั้น ภาครัฐของจีนได้ตอบโต้โดยการตรวจสอบ Alibaba อย่างหนัก และอาจมีการออกกฎหมายต่างๆ มากมายที่เล็งเป้าไปยัง Alibaba ที่ครองตลาด e-commerce อยู่ นอกจากนี้ทางรัฐบาลจีนยังออกคำสั่งห้ามไม่ให้ Ant group เข้าสู่ตลาด (IPO) ทำให้พลาดจากการเป็น IPO ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ครับ

---

เคราะห์ซ้ำกรรมซัด

นอกจากกฎหมายผูกขาดทางการตลาดแล้ว Tencent ก็ยังโดนตรวจสอบด้านความปลอดภัยโดยหน่วยงานเฝ้าระวังไซเบอร์แห่งชาติจีน (Cyberspace Administrator of China) ว่าด้วยเรื่องปัญหาการใช้เทคโนโลยีปลอมใบหน้า Deepfakes และการพัฒนา application สื่อสังคม online ทางเสียงเลียนแบบ Clubhouse ครับ โดยภาครัฐได้สั่งให้บริษัทที่โดนตรวจสอบทำการวัดความปลอดของระบบของตนและส่งรายงานมาให้หน่วยงานภาครัฐตรวจสอบทุกครั้งที่จะเพิ่ม function อะไรก็ตามที่ “อาจส่งผลให้สังคมเคลื่อนไหว”  

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเนื่องจากในช่วงที่ผ่านมามี application เลียนแบบ Clubhouse เกิดขึ้นมามากมาย และเริ่มมีการเสวนาในเนื้อหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศจีนได้ เช่น ค่ายกักกันชาว มุสลิมในซินเจียง หรือการแยกตัวเป็นอิสระของเกาะฮ่องกงเป็นต้นครับ

---

ตอนนี้ไม่ว่า Tencent จะขยับตัวไปทางไหนก็คงโดนจับตามองอย่างใกล้ชิดครับ แต่อย่างไรก็ตามการที่ภาครัฐเข้ามาจัดระเบียบและแทรกแทรงกิจกรรมต่างของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ในจีนเป็นตัวบ่งชี้ที่แน่ชัดว่าอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในจีนจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแน่นอนครับ 

แนะนำ ติดชมได่เลยนะครับ และขอฝากติดตาม กด like กด share ข้อมูลดีๆ ได้ทาง https://www.facebook.com/Unboxthinking
หรือ https://www.blockdit.com/pages/5f4b6519e807060cb777cdbf ด้วยนะครับ

Reference: https://www.reuters.com/article/us-china-cyberspace-idUSKBN2BA09H
Reference: https://hypebeast.com/2019/9/viral-deepfake-app-zao-facial-recognition-swap