ก่อนอื่นผมต้องขอบอกก่อนนะครับว่า ผมเชื่อว่าเรื่องเงินเป็นปัญหาใหญ่ของชีวิตคู่
คำถามคือ แค่ไหนถึงเรียกว่าใหญ่
เริ่มจากผมอายุ 28 ปี คบกับแฟนมาประมาณ 5 เดือน ซึ่งก่อนหน้านั้น เรารู้จักเป็นเพื่อนกันมาประมาณ 10 ปี แล้ว ก่อนหน้านี้ก็เคยลองคบกัน แต่ก็ไปไม่รอด เนื่องด้วยเหตุผลอะไร ไม่ขอกล่าวถึง หลังจากเลิกกันไปไม่ติดต่อกันประมาณ 2 ปี เรากลับมาติดต่อกันอีก เอาเป็นว่า เราตั้งใจจะเริ่มกันใหม่ในตอนนี้
ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ผมทำงานตำแหน่งเล็กๆ ที่โรงงานแห่งนึงเงินเดือนก็ไม่ได้มากมาย มีเงินเก็บอยู่นิดหน่อย ระหว่างทำงาน ผมทำงานผมก็โสด และเรียน ป.โท ไปด้วย จนจบ ซึ่งหลังจากจบ ก็มีเหตุที่ผมกับแฟนมาเจอกัน แล้วเราก็คุยๆ กันจนตกลงเป็นแฟน
ซึ่งหลังจากผมจบ ป.โท ในความคิดผม ผมรู้สึกว่าการเรียนไปทำงานไปมันเหนื่อย และระหว่างทำงานผมก็พอใจกับการมีเงินเก็บ และตั้งใจจะหาความรู้ทางด้านการเงินสักระยะนึง แล้วพอมีเงินเก็บประมาณนึง ผมก็ว่าจะหาทุนเรียนต่อ ป. เอก เพราะผมอยากเป็นอาจารย์
ที่นี้มีปัญหาอยู่ว่า พอเริ่มมีแฟน ผมกับแฟนก็จะคุยกันเรื่องอนาคตว่าเราสองคนจะเป็นยังไงต่อ ประเด็นคือ
1.งานที่โรงงานเป็นงานกะ ที่ไม่ค่อยมีวันหยุด และมีโอที ที่บังคับให้ทำเยอะมาก จนผมไม่ค่อยมีเวลาให้แฟน
2.แฟนเห็นว่า ตำแหน่งที่ผมทำเป็นแค่หนุ่มโรงงาน ไม่ค่อยเหมาะกับเธอ (ซึ่งอันนี้ก็เป็นความคิดส่วนตัว)
เราก็เลยหางานใหม่กัน ซึ่งก็บอกตามตรงว่างานสายผมค่อนข้างหายาก บวกกับเวลาหางานใหม่ไม่ค่อยมี ก็เลยลำบากหน่อย ก็เลยเบนๆไปทางหาทุนเรียนต่อ ป.เอก ประเภทที่ มีเงินเดือนพอเลี้ยงตัวเองประมาณนึง
ใช้เวลา 2 เดือน ก็มาจบตรงที่ ทุน ป.เอก เงินค่าครองชีพต่อเดือนประมาณ 18000 บาท ในกรุงเทพ
ต่อมาผมก็ดำเนินการย้ายหอพักมาใกล้ๆ มหาลัย ก็มีค่าใช้จ่ายยิบย่อย จนเงินเก็บเริ่มหมด บวกกับระหว่างนั้นก็เที่ยวกับแฟน ค่อนข้างบ่อย ทำให้เงินเริ่มน้อยลงๆ แต่ผมก็ไม่อยากบอกให้แฟนรู้เลยเงียบๆอยู่ และในระหว่างนี้ผมก็ยังไม่ได้เงินค่าครองชีพของทุน เลยกังวลเล็กน้อยว่าอาจจะได้ช้ากว่าที่คิด
ผมเริ่มเรียนไปได้ ประมาณ 3 เดือน โดยใช้เงินเก็บที่มีเลี้ยงตัว จนเดือนนี้เดือนที่สาม พอถึงเดือนที่สอง ผมก็เริ่มเห็นว่าเริ่มมีภาระงานเยอะแล้ว ผมเริ่มขอแฟนว่า เราอาจจะเจอกันได้น้อยลงนะ เราก็ทะเลาะกันนิดหน่อย ความคิดของเธอคือ เธอคิดว่าถ้าบริหารเวลาดีๆ เราก็ยังเจอกันบ่อยๆได้ ผมก็อธิบายไปว่าภาระงานมันเยอะ และผมมีเวลาเรียน ป.เอก แค่ 3 ปี สำหรับสายวิทย์ แล้วจากประสบการณ์ของผม ถ้าไม่ทุ่มเทเวลามากๆ คงไม่สามารถจบในสามปีได้แน่ สรุปว่า เราตกลงกันว่าเสาร์อาทิตย์เจอกันเป็นหลัก วันธรรมดาอาจมีบ้างบางครั้ง
พอถึงเดือนที่สาม เงินเก็บผมเริ่มหมด ผมเริ่มกังวลว่าอาจจะได้ช้ากว่าที่คิด ผมก็เริ่มขอเธอว่า ที่ผ่านมาเราเที่ยวกันมาเยอะแล้ว เงินผมเริ่มไม่มี ให้เรามาหาอะไรทำที่ไม่ต้องเสียเงินเยอะเหมือนก่อนๆได้มั้ย ซึ่งมันเป็นปัญหาตอนนี้ คือ เธอไม่เชื่อว่าผมไม่มีจริงๆ ซึ่งจะให้พูดตีเป็นเลขกลมๆ ผมคิดแล้วว่ามันเสี่ยงเกินไปที่จะใช้เงินอย่างไม่ระวังตอนนี้
เราทะเลาะกันมาสองสามวัน จนผมเริ่มโหลดแอพมาทำงบการเงินแล้วตั้งใจจะเปิดอกคุยกับแฟน
ประเด็นที่เป็นปัญหาตอนนี้
1.เธอยอมที่จะเจอกันอาทิตย์ละครั้ง เพื่อลดรายจ่ายของผม ซึ่งอันนี้ในความคิดของผมคือ ช่วงที่ผมกังวลนี่ผมก็จะเจอน้อยลงหน่อย ซึ่งเมื่อผมได้ค่าครองชีพปกติแล้ว เราก็ยังเจอตามที่ตกลงกัน หรือไปเที่ยวกันบางครั้งได้ ซึ่งก็ใช้เงินตามเหมาะสม (ซึ่งเดี๋ยวเราคงต้องมาเถียงกันอีกแน่ว่าแค่ไหนถึงจะเหมาะสม)
2.ไม่นานมานี้ เราตั้งใจจะนัดเจอกันที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง แล้วคุยกันว่าจะแยกกันกลับหรือจะให้ผมตามไปส่งที่บ้านด้วย ปัญหาคือ ผมฉุกใจคิดไปแป๊บนึงว่า ถ้าผมไปส่งแฟน ผมจะต้องเสียค่ารถเพิ่มขึ้นมั้ย ซึ่งจุดนี้มันทำให้เธอคิดว่าผมขี้เหนียวเกินไป เธอบอกว่าเธอทนไม่ไหวที่ผมกังวลเรื่องเงินขนาดนั้น เธอจึงโมโหผมมากและจะเลิกกับผม
คำถามคือ 1.จากสถานการณ์ข้อหนึ่ง คิดว่ามีอะไรที่ผมทำได้มั้ยในการแก้ปัญหานี้ บางทีผมก็เหนื่อยจากการเรียน หรือบางทีทำงานไม่ทัน ซึ่งผมพยายามสุดความสามารถแล้ว
2.การที่ผมกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปส่งแฟน แฟนผมบอกว่า เค้าไม่สบายใจที่เห็นผมกังวลแบบนี้ คืออันนี้ผมผิดเอง แต่ผมห้ามใจไม่ให้คิดไม่ได้ ผมเผลอคิดออกมาจนทำให้เค้าไม่สบายใจ ถ้ามีโอกาสผมจะพยายามทำให้เค้าสบายใจมากกว่านี้ แล้วตอนนี้มีทางที่จะให้เราเข้าใจกันได้มั้ย
ด้วยสถานการณ์นี้ ผมก็ยอมรับว่าผมยังไม่พร้อมมีแฟน แล้วผมพร้อมจะเลิกแล้วก็จะยังไม่มีใครจนกว่าผมจะพร้อมดูแลใครสักคนมากกว่านี้ ประเด็นคือถ้าจะให้ผมพยายามมากกว่านี้ ผมก็ไม่ไหวแล้ว ใครจะว่าผมยอมแพ้ง่าย ไม่รักจริง ไม่ทุ่มเทพอ หรืออะไรก็ตาม แต่ผมเหนื่อยจริงๆ
ถ้าการเงินของผมตอนนี้มันไม่เป็นปัญหาเกินไป ผมก็ไม่ได้อยากเลิกกับเธอ
https://drive.google.com/drive/folders/19w_ZunQ1uaEE2P5-GLxJugfY1zb0ifoo
อันนี้งบการเงินของผม เธอบอกว่าผมกังวลเกินไปเพราะคิดว่าผมยังมีเงินใช้ได้ตามปกติอยู่ ซึ่งผมคิดว่าการเงินผมเริ่มไม่ดีแล้วจริง แต่เรามีความเห็นไม่ตรงกัน ก็เลยฝากไว้ขอความเห็นหน่อยว่าการเงินตอนนี้ผมทำอะไรได้หรือไม่ได้บ้าง
ฝากปัญหาเรื่องเงินกับชีวิตคู่อีกหนึ่งเคส
คำถามคือ แค่ไหนถึงเรียกว่าใหญ่
เริ่มจากผมอายุ 28 ปี คบกับแฟนมาประมาณ 5 เดือน ซึ่งก่อนหน้านั้น เรารู้จักเป็นเพื่อนกันมาประมาณ 10 ปี แล้ว ก่อนหน้านี้ก็เคยลองคบกัน แต่ก็ไปไม่รอด เนื่องด้วยเหตุผลอะไร ไม่ขอกล่าวถึง หลังจากเลิกกันไปไม่ติดต่อกันประมาณ 2 ปี เรากลับมาติดต่อกันอีก เอาเป็นว่า เราตั้งใจจะเริ่มกันใหม่ในตอนนี้
ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ผมทำงานตำแหน่งเล็กๆ ที่โรงงานแห่งนึงเงินเดือนก็ไม่ได้มากมาย มีเงินเก็บอยู่นิดหน่อย ระหว่างทำงาน ผมทำงานผมก็โสด และเรียน ป.โท ไปด้วย จนจบ ซึ่งหลังจากจบ ก็มีเหตุที่ผมกับแฟนมาเจอกัน แล้วเราก็คุยๆ กันจนตกลงเป็นแฟน
ซึ่งหลังจากผมจบ ป.โท ในความคิดผม ผมรู้สึกว่าการเรียนไปทำงานไปมันเหนื่อย และระหว่างทำงานผมก็พอใจกับการมีเงินเก็บ และตั้งใจจะหาความรู้ทางด้านการเงินสักระยะนึง แล้วพอมีเงินเก็บประมาณนึง ผมก็ว่าจะหาทุนเรียนต่อ ป. เอก เพราะผมอยากเป็นอาจารย์
ที่นี้มีปัญหาอยู่ว่า พอเริ่มมีแฟน ผมกับแฟนก็จะคุยกันเรื่องอนาคตว่าเราสองคนจะเป็นยังไงต่อ ประเด็นคือ
1.งานที่โรงงานเป็นงานกะ ที่ไม่ค่อยมีวันหยุด และมีโอที ที่บังคับให้ทำเยอะมาก จนผมไม่ค่อยมีเวลาให้แฟน
2.แฟนเห็นว่า ตำแหน่งที่ผมทำเป็นแค่หนุ่มโรงงาน ไม่ค่อยเหมาะกับเธอ (ซึ่งอันนี้ก็เป็นความคิดส่วนตัว)
เราก็เลยหางานใหม่กัน ซึ่งก็บอกตามตรงว่างานสายผมค่อนข้างหายาก บวกกับเวลาหางานใหม่ไม่ค่อยมี ก็เลยลำบากหน่อย ก็เลยเบนๆไปทางหาทุนเรียนต่อ ป.เอก ประเภทที่ มีเงินเดือนพอเลี้ยงตัวเองประมาณนึง
ใช้เวลา 2 เดือน ก็มาจบตรงที่ ทุน ป.เอก เงินค่าครองชีพต่อเดือนประมาณ 18000 บาท ในกรุงเทพ
ต่อมาผมก็ดำเนินการย้ายหอพักมาใกล้ๆ มหาลัย ก็มีค่าใช้จ่ายยิบย่อย จนเงินเก็บเริ่มหมด บวกกับระหว่างนั้นก็เที่ยวกับแฟน ค่อนข้างบ่อย ทำให้เงินเริ่มน้อยลงๆ แต่ผมก็ไม่อยากบอกให้แฟนรู้เลยเงียบๆอยู่ และในระหว่างนี้ผมก็ยังไม่ได้เงินค่าครองชีพของทุน เลยกังวลเล็กน้อยว่าอาจจะได้ช้ากว่าที่คิด
ผมเริ่มเรียนไปได้ ประมาณ 3 เดือน โดยใช้เงินเก็บที่มีเลี้ยงตัว จนเดือนนี้เดือนที่สาม พอถึงเดือนที่สอง ผมก็เริ่มเห็นว่าเริ่มมีภาระงานเยอะแล้ว ผมเริ่มขอแฟนว่า เราอาจจะเจอกันได้น้อยลงนะ เราก็ทะเลาะกันนิดหน่อย ความคิดของเธอคือ เธอคิดว่าถ้าบริหารเวลาดีๆ เราก็ยังเจอกันบ่อยๆได้ ผมก็อธิบายไปว่าภาระงานมันเยอะ และผมมีเวลาเรียน ป.เอก แค่ 3 ปี สำหรับสายวิทย์ แล้วจากประสบการณ์ของผม ถ้าไม่ทุ่มเทเวลามากๆ คงไม่สามารถจบในสามปีได้แน่ สรุปว่า เราตกลงกันว่าเสาร์อาทิตย์เจอกันเป็นหลัก วันธรรมดาอาจมีบ้างบางครั้ง
พอถึงเดือนที่สาม เงินเก็บผมเริ่มหมด ผมเริ่มกังวลว่าอาจจะได้ช้ากว่าที่คิด ผมก็เริ่มขอเธอว่า ที่ผ่านมาเราเที่ยวกันมาเยอะแล้ว เงินผมเริ่มไม่มี ให้เรามาหาอะไรทำที่ไม่ต้องเสียเงินเยอะเหมือนก่อนๆได้มั้ย ซึ่งมันเป็นปัญหาตอนนี้ คือ เธอไม่เชื่อว่าผมไม่มีจริงๆ ซึ่งจะให้พูดตีเป็นเลขกลมๆ ผมคิดแล้วว่ามันเสี่ยงเกินไปที่จะใช้เงินอย่างไม่ระวังตอนนี้
เราทะเลาะกันมาสองสามวัน จนผมเริ่มโหลดแอพมาทำงบการเงินแล้วตั้งใจจะเปิดอกคุยกับแฟน
ประเด็นที่เป็นปัญหาตอนนี้
1.เธอยอมที่จะเจอกันอาทิตย์ละครั้ง เพื่อลดรายจ่ายของผม ซึ่งอันนี้ในความคิดของผมคือ ช่วงที่ผมกังวลนี่ผมก็จะเจอน้อยลงหน่อย ซึ่งเมื่อผมได้ค่าครองชีพปกติแล้ว เราก็ยังเจอตามที่ตกลงกัน หรือไปเที่ยวกันบางครั้งได้ ซึ่งก็ใช้เงินตามเหมาะสม (ซึ่งเดี๋ยวเราคงต้องมาเถียงกันอีกแน่ว่าแค่ไหนถึงจะเหมาะสม)
2.ไม่นานมานี้ เราตั้งใจจะนัดเจอกันที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง แล้วคุยกันว่าจะแยกกันกลับหรือจะให้ผมตามไปส่งที่บ้านด้วย ปัญหาคือ ผมฉุกใจคิดไปแป๊บนึงว่า ถ้าผมไปส่งแฟน ผมจะต้องเสียค่ารถเพิ่มขึ้นมั้ย ซึ่งจุดนี้มันทำให้เธอคิดว่าผมขี้เหนียวเกินไป เธอบอกว่าเธอทนไม่ไหวที่ผมกังวลเรื่องเงินขนาดนั้น เธอจึงโมโหผมมากและจะเลิกกับผม
คำถามคือ 1.จากสถานการณ์ข้อหนึ่ง คิดว่ามีอะไรที่ผมทำได้มั้ยในการแก้ปัญหานี้ บางทีผมก็เหนื่อยจากการเรียน หรือบางทีทำงานไม่ทัน ซึ่งผมพยายามสุดความสามารถแล้ว
2.การที่ผมกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปส่งแฟน แฟนผมบอกว่า เค้าไม่สบายใจที่เห็นผมกังวลแบบนี้ คืออันนี้ผมผิดเอง แต่ผมห้ามใจไม่ให้คิดไม่ได้ ผมเผลอคิดออกมาจนทำให้เค้าไม่สบายใจ ถ้ามีโอกาสผมจะพยายามทำให้เค้าสบายใจมากกว่านี้ แล้วตอนนี้มีทางที่จะให้เราเข้าใจกันได้มั้ย
ด้วยสถานการณ์นี้ ผมก็ยอมรับว่าผมยังไม่พร้อมมีแฟน แล้วผมพร้อมจะเลิกแล้วก็จะยังไม่มีใครจนกว่าผมจะพร้อมดูแลใครสักคนมากกว่านี้ ประเด็นคือถ้าจะให้ผมพยายามมากกว่านี้ ผมก็ไม่ไหวแล้ว ใครจะว่าผมยอมแพ้ง่าย ไม่รักจริง ไม่ทุ่มเทพอ หรืออะไรก็ตาม แต่ผมเหนื่อยจริงๆ
ถ้าการเงินของผมตอนนี้มันไม่เป็นปัญหาเกินไป ผมก็ไม่ได้อยากเลิกกับเธอ
https://drive.google.com/drive/folders/19w_ZunQ1uaEE2P5-GLxJugfY1zb0ifoo
อันนี้งบการเงินของผม เธอบอกว่าผมกังวลเกินไปเพราะคิดว่าผมยังมีเงินใช้ได้ตามปกติอยู่ ซึ่งผมคิดว่าการเงินผมเริ่มไม่ดีแล้วจริง แต่เรามีความเห็นไม่ตรงกัน ก็เลยฝากไว้ขอความเห็นหน่อยว่าการเงินตอนนี้ผมทำอะไรได้หรือไม่ได้บ้าง