JJNY : ‘ธนาธร’ งัดข้อมูลโต้อนุทิน│สรท.แนะนำเข้าวัคซีนกระจายยี่ห้อ│เยอรมนีประกาศระลอก3!│ร้องทัพเมียนมาก่ออาชญากรรมฯ

‘ธนาธร’ งัดข้อมูลโต้ ขอยืนยันคำเดิม “อนุทิน” กำลังโกหกประชาชน เรื่อง AstraZeneca
https://www.matichon.co.th/politics/news_2621871

 
‘ธนาธร’ งัดข้อมูลโต้ อนุทิน ถ้าไม่สับสนไทม์ไลน์ตัวเอง ก็คงตั้งใจบิดเบือนประเด็น
 
กรณีเหตุการณ์ การถกเถียงใน ห้องสนทนาคลับเฮาส์ ห้อง “วัคซีนไทยควรไปต่อหรือพอแค่นี้” ซึ่งมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข (สธ.) เข้าร่วมตอบคำถามประชาชนในห้องดังกล่าว นายอนุทิน ได้ชี้แจงแผนการให้บริการวัคซีน ซึ่งยังเป็นไปตามเป้า ช่วงหนึ่ง นายธนาธร ได้เข้ามาในห้องสนทนา และกล่าวว่า นายอนุทิน กำลังโกหกประชาชน และมีการนำเสนอข้อมูลตอบโต้กัน
 
ล่าสุด นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อดีตส.ส.พรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความแสดงความเห็นระบุว่า
 
ผมไม่แน่ใจว่าคุณอนุทินสับสนไทม์ไลน์เอง หรือตั้งใจบิดเบือนประเด็นมาบอกว่าผมโกหกประชาชน ทั้งที่ตัวเองกำลังโกหกคำโตอยู่
 
พอดีเมื่อคืนผมเห็นว่ามีห้องคลับเฮาส์ที่พูดคุยแลกเปลี่ยนกันเรื่องวัคซีนโควิดเลยกดเข้าไปฟังโดยไม่ได้ตระหนักแต่แรกว่ามีคุณอนุทินอยู่ในห้องด้วย และเมื่อผู้ดำเนินรายการเชิญให้ผมขึ้นพูด ผมก็ปฏิเสธและขอฟังคนอื่นพูดคุยแลกเปลี่ยนกันไปก่อน เนื่องจากผมเองก็กำลังทานอาหารอยู่ด้วย
ผู้ดำเนินรายการจึงถามคุณอนุทินว่า “ทำไมเราเลือกไลเซนส์ AstraZeneca ให้แก่ Siam Bioscience เป็นผู้ผลิต?” และ “ทำไมเราถึงต้องเลือกบริษัท Siam Bioscience ด้วย?” เมื่อผมฟังคำตอบของคุณอนุทินแล้ว ผมยังยืนยันว่าคุณอนุทินไม่ได้พูดความจริงกับประชาชน โดย:
 
1. ประโยคที่ว่า AstraZeneca มีความพร้อมที่จะส่งมอบวัคซีนตามกำหนด หรือที่คุณอนุทินพูดว่า “สอดคล้องกับเวลาที่เราต้องการ” นั้นมีปัญหาแน่ๆ เพราะเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2563 เอกสารกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ที่ชี้แจงในชั้น กมธ. ยังบอกเองว่าจะมีไทม์ไลน์การฉีดวัคซีนในประเทศไทยจนถึงปี 2566 หรืออีก 3 ปี หลังจากนี้จึงจะฉีดได้ประมาณ 50% ของประชากร
 
หมายความว่าฉีด 50% ได้ภายในปลายปี 2566 หรืออีก 3 ปีหลังจากนี้ เรียกว่าตรงต่อเวลาที่เราต้องการหรือ?
 
คุณอนุทินยังมาโพสต์ตามหลังอีกว่า ผมโกหกประชาชนโดยใช้แผนไทม์ไลน์เก่า ตอนนี้ปรับใหม่แล้ว ปัญหาคือรัฐบาลเพิ่งประกาศแผนใหม่เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2564 (หรือเมื่อ 67 วันที่แล้วเอง) ให้ฉีดได้เพียง 50% ของประชากรภายในสิ้นปี 2564
  
แต่ประเด็นใหญ่ก็คือ แผนเดิมของรัฐบาล ที่บอกว่า AstraZeneca จะส่งมอบวัคซีนปี 2564 ได้แค่ 16 ล้านโดส และปี 2565 อีก 10 ล้านโดส แล้วจะบอกว่าตรงกับความต้องการเวลาส่งมอบ ซึ่งเพิ่งมาเปลี่ยนเป็นส่งมอบทั้ง 26 ล้านโดสภายในปีนี้ได้อย่างไร?!?
 
สรุปแล้ว ที่คุณอนุทินชี้แจงว่าตอนดีลกันเมื่อปีก่อน แล้วบอกว่าเขาจะส่งมอบวัคซีนให้ “สอดคล้องกับเวลาที่เราต้องการ” นี่คือไทม์ไลน์ไหนกันแน่ ไม่แน่ใจว่าคุณอนุทินตั้งใจบิดเบือนประเด็นที่ผมคุย หรือคุณแอบสับสนเองหรือเปล่า?
 
การปรับเปลี่ยนแผนทีหลังเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่ตอนเซ็นสัญญานี่ยังเป็นแผนเดิมคือฉีด 50% ภายในปลายปี 2566 (ซึ่งช้ามากๆ ประชาชนคนทำมาหากินเขารอไม่ได้แน่ๆ) แล้วค่อยมาปรับแผนทีหลัง แล้วจะมาบอกว่าผมโกหกได้อย่างไร? ก็ในเมื่อตอนดีลคุณดีลอยู่บนไทม์ไลน์นี้
 
2. คุณอนุทินบอกว่า รัฐบาลไทยไม่ได้เป็นคนเลือก Siam Bioscience แต่เพราะเราทำสัญญากับ AstraZeneca ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีน และคัดเลือก Siam Bioscience ให้เป็นผู้ผลิตในประเทศไทยเอง ซึ่งเขาเชื่อว่าเป็นโรงงานที่มีความพร้อมที่สุด ไม่เกี่ยวอะไรกับรัฐบาลไทย เราไม่ได้มีสัญญาอะไรกับ Siam Bioscience
 
แต่จากร่องรอยเอกสารราชการทั้งหมดที่มี บ่งชี้ไปว่า รัฐบาลไทยเริ่มกระบวนการให้การสนับสนุนงบประมาณแผ่นดินไปช่วยเตรียมความพร้อมให้แก่บริษัทเอกชนแห่งนี้อย่างน้อย 6 ร้อยล้านบาท ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2563 ก่อนที่จะมีการลงนาม 4 ฝ่ายใน Letter of Intent เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2563 เพื่อจัดหาวัคซีน AstraZeneca ให้แก่รัฐบาลเสียด้วย
 
แล้วคุณอนุทินจะมาบอกว่าการตั้ง Siam Bioscience ให้เป็นผู้ผลิตในประเทศไทย เป็นการตัดสินใจฝ่ายเดียวของ AstraZeneca ไม่เกี่ยวอะไรเลยกับรัฐบาลไทย รัฐบาลไทยไม่รู้ไม่เห็นได้อย่างไร!?!
  
สุดท้าย ผมยังยืนยันคำเดิม “คุณอนุทินโกหกประชาชนแบบนี้ไม่ได้นะครับ”
  
https://www.facebook.com/ThanathornOfficial/posts/1058204321249908
 

 
สรท.มอง ‘บิ๊กตู่’ เลื่อนฉีดไม่กระทบเชื่อมั่น แนะรัฐนำเข้าวัคซีนกระจายยี่ห้อ
https://www.matichon.co.th/economy/news_2621741
 
สรท.มอง ‘บิ๊กตู่’ เลื่อนฉีดไม่กระทบเชื่อมั่น แนะรัฐนำเข้าวัคซีนกระจายยี่ห้อ
 
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีอีก 11 คน เลื่อนวันฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แอสตราเซเนกา ว่า กรณีดังกล่าวไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนเกี่ยวกับการฉีดวัคซีน เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ทราบเหตุผลดี จากรายงานต่างประเทศมีการประกาศระงับการฉีดวัคซีนดังกล่าว เนื่องจากพบผู้รับวัคซีนเกิดลิ่มเลือดและมีผู้เสียชีวิตจากภาวะลิ่มเลือดอุดตัน เป็นผลให้ประเทศไทยต้องระงับการใช้วีคซีนดังกล่าวชั่วคราวก่อน
 
เชื่อว่าประเทศต้นทางจะใช้เวลาในการตรวจสอบหาสาเหตุไม่นาน เพราะการระงับใช้วัคซีนดังกล่าวได้รับผลกระทบเหมือนกันทุกประเทศ แต่จากการตรวจพบผลดังกล่าวในต่างประเทศ ก่อนที่ไทยจะเริ่มฉีด มีด้านดีอยู่ตรงที่ได้รับทราบปัญหาและป้องกันได้ทัน ซึ่งการระงับฉีดชั่วคราวถือเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนได้เช่นกัน” นายวิศิษฐ์กล่าว
  
ผลจากการหยุดฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แอสตราเซเนกา ยังไม่กระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจเนื่องจากประเทศไทยไม่ได้นำเข้าวัคซีนยี่ห้อเดียว และเชื่อว่าหลังจากนี้จะมีหลายประเทศผลิตออกมาเรื่อยๆ แต่ในกรณีที่แย่ที่สุดคือ แอสตราเซเนกา ไม่สามารถฉีดได้แล้ว สิ่งที่รัฐต้องเร่งดำเนินการคือ ต้องเร่งนำเข้าวัคซีนมาทดแทน และต้องให้เพียงพอต่อความต้องการด้วย
 
ดังนั้น โอกาสที่ปี 2564 ตัวเลขเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) จะเติบโตถึง 3-4% และส่งออกเติบโต 3-4% ยังมีโอกาสเป็นไปได้ เพราะไทยมีปัจจัยสำคัญอย่างวัคซีนเข้ามาช่วยสร้างความมั่นใจแล้ว อีกทั้งประชาชน และผู้ประกอบการเริ่มปรับตัวอยู่กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้แล้ว จึงเชื่อว่าหลังจากนี้เศรษฐกิจไทยจะค่อยๆ เงยหัวขึ้นแน่นอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่