เป็น Introvert ในอเมริกา รอดมั้ย



ถ้าพูดถึงอเมริกันชน เราจะนึกภาพคน extrovert ที่มีลักษณะนิสัยตรงไปตรงมา กล้าเเสดงออก โดยเฉพาะเรื่องเสรีภาพทางความคิดเเละการคำพูด (Freedom of speech) เละมีความเท่าเทียมด้านการเเสดงความคิดเห็น ในการทำงาน หรือเวลาหางาน traits ลักษณะนิสัยที่นายจ้างมองหามักจะเป็นคนที่กล้าเเสดงออก ในทางกลับกัน stereotype ของเอเชียอย่างของในไทย จะให้ความสำคัญกับการร่วมมือ ความอะลุ่มอล่วยออกไปในทางยืดหยุ่น รวมทั้งความคมในฝัก การไม่แสดงความเห็นไม่ถือว่าเป็นสิ่งที่แปลก
การย้ายจากวัฒนธรรมตะวันออกมาสู่ตะวันตก สำหรับเราถือเป็นการเปลี่ยนแปลงของจังหวะชีวิตเเละวัฒนธรรม ในระยะเกือบสองปีที่ผ่านมา เราผ่าน culture shock มาพอสมควร โดยเฉพาะการวางตัวในสังคมเเละการงาน ประกอบกับเป็นคน Introvert ที่เลือกสายอาชีพครูในสภาพเเวดล้อมที่บังคับให้เป็น Extrovert ทำให้เราขาดความมั่นใจทั้งเรื่องภาษาเเละการทำงานร่วมกับคนที่นี่ มันดูขัดเเย้งกันอยู่ที่ทำไมเราเลือกงานที่ต้องเจอคนหมู่มาก เเละเป็น center of attention เราเปรียบเทียบตัวเองเหมือนนักเเสดงที่สงวนท่าทีอย่าง Johnny Debb ที่ชีวิตจริงดูต่างจากบทที่ได้รับอย่าง Jack Sparrow โจดสลัดผู้โผงผาง

การที่เราไปโรงเรียนทุกวัน เจอคนเยอะ เเล้วต้องพูดทั้งวัน มันทำให้เราไม่มีเวลาส่วนตัว การเป็นครูประถมที่นี่ เเม้เเต่เวลาไปห้องน้ำยังไม่มี เพราะต้องเฝ้าเด็กตลอดทั้งวัน มันจะมีเวลาที่เราต้องการความเงียบคนเดียว เลยเดินไปเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าเเล้วส่องกระจก ถอนหายใจสักสองสามรอบเเล้วรู้สึกดีขึ้น จนปลายปี 2020 เราลองค้นหาข้อมูลเรื่อง Introversion in Classroom ปรากฎว่าเจอหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อ Quiet: The Power of Introverts in a World That Can’t Stop Talking ของนักเขียนชื่อ Susan Cain


ต้องย้อนกลับไปว่าช่วงเรียนมหาลัยนั้นไม่รู้ตัวเองว่าเป็น Introvert มีหลายช่วงในชีวิตที่สงสัยว่าการเป็นคนเงียบๆนี่มันผิดหรือเปล่า ตอนอยู่อนุบาลครูเคยบอกแม่ว่า เป็นคนเพื่อนน้อย ไม่ค่อยพูด ชอบเล่นคนเดียว พอช่วงประถม เราเจอเพื่อนคนนึงที่เรียนเก่งเเล้วตลก พูดจาเฮฮา เราก็อยากเป็นแบบนั้นเลยพยายามปรับตัวเองให้พูดเยอะขึ้น จนถึง ม.ปลายก็คิดว่าเป็นคนกล้าแสดงออก ที่เป็นแบบนั้นเพราะคุ้นชินกับเพื่อนที่เรียนด้วยกันมาตั้งหลายปี เลยไม่เคอะเขิน พอมาตอนเข้ามหาลัยจึงรู้ว่า เห้ย ทำไมเรารู้สึก awkward กับเพื่อนในคณะที่เราไม่คุยด้วย ไม่ชอบทำกิจกรรมสันทนาการ (ฮา) เราพบว่าตัวเองชอบการอยู่คนเดียว วาดรูป เล่นกีตาร์ คุยกับเพื่อนสนิทไม่กี่คน ในช่วงห้าปีเเรกที่ทำงาน มีพี่ที่รู้จักเเนะนำให้ทำบททดสอบนิสัย MBTI ของ Myer Briggs ผลลัพธ์ที่ออกมาคือ mediator – INFP นักคิด ผู้ไกล่เกลี่ย เลยสนใจเรื่อง Introversion อย่างจริงจัง
กลับมาที่หนังสือเรื่อง Quiet เเละคำถามในใจเราว่าเราจะทำงานเเละอยู่ในวัฒนธรรมที่เทคะเเนนให้ extroversion เเละบาลานซ์การทำงานอย่างไรในเมื่อตัวเองเป็น Introvert
 

Susan บอกว่าสมัยก่อน ประเทศอเมริกาเคยเป็น Culture of Characters คือค่านิยมของความสำเร็จมาจากเกียรติยศ ศีลธรรม หน้าที่ เห็นคุณค่าของการถ่อมตัว ทำดีไม่หวังผล นึกถึงกัปตันอเมริกา เเต่ตอนนี้ทัศนคติของอเมริกาปัจจุบันคือ Culture of Personality คนที่ประสบความสำเร็จอยู่ที่นิสัย ไม่ว่าจะเป็นการกล้าเเสดงออก มีเสน่ห์ดึงดูด มีพลัง นี่เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้นักเขียนออกมาสร้าง movement ให้เห็นว่า introvert มีลักษณะนิสัยหลายอย่างที่เป็นตัวอย่างแห่งความสำเร็จได้ ดูอย่างบุคคลสำคัญของโลกก็เปลี่ยนแปลงโลกไปในทางที่ดีขึ้น เราจึงมีวรรณกรรมดีๆให้อ่านกัน เช่น แฮร์รี่ พอตเตอร์ หรือ The Lord of the Rings , คานธีผู้จุดประกายการประท้วงด้วยสันติ Bill Gates ผลิตคอมให้เราใช้กันที่บ้าน หรือแม้เเต่ Elon Musk ที่ไม่หยุดพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเปลี่ยนแปลงโลก นิสัยที่เราเรียนรู้ได้จาก Introversion คือ การใช้ความเงียบ การอยู่กับตัวเองเพื่อค้นหาไอเดีย ความคิด เมื่อนำมาใช้กับที่ทำงาน Introvert ต้องร่วมมือกับทีม การที่ชอบเป็นผู้ฟังที่ดีช่วยเอื้อให้ introvert ประมวลความคิด เเละกลั่นกรองไอเดียใหม่ๆให้กับโปรเจคได้
นิสัยที่เราเรียนรู้ได้จาก Introversion คือ การใช้ความเงียบ การอยู่กับตัวเองเพื่อค้นหาไอเดีย ความคิด เมื่อนำมาใช้กับที่ทำงาน
ในหนังสือช่วยทำให้เราเปิดใจกับ introversion ยอมรับตัวเองในแบบที่ตัวเองเป็น เเล้วยังช่วยเเนะนำให้เราหาจุดกึ่งกลางในการปรับตัวเข้ากับที่ทำงาน มี introverts อีกหลายคนที่เราดูไม่ออกด้วยซ้ำว่าตอนเลิกงาน เค้าชอบกลับบ้านไปชาร์ตพลังงานกับเเมว อยู่คนเดียวเงียบๆ ไม่ชอบพบปะสังสรรค์ เเต่พออยู่ในที่ทำงานกลับพูดจาโดยไม่มีการเขิน เเถมตบมุกให้คนหัวเราะอีกต่างหาก บางทีเราต้องสวมบทบาทในหน้าที่นั้นๆ Traits Characters คือลักษณะนิสัยที่เราเป็นได้ ถ้าอยากเป็น เหมือนกับการเเสดงนั้นเเหละ ถ้าเรากลัวที่จะพูดในที่สาธารณะ คนที่เป็น introvert อาจจะตื่นเต้น เหงื่อตก เพราะรู้สึกว่าชั้นไปทำอะไรอยู่บนเวทีเป็นที่จับจ้องของคนหมู่มาก เเต่ Susan แนะว่าเราต้องเตรียมตัว คนอื่นอาจจะพูดได้อย่างธรรมชาติ เเต่ถ้าเราทำไม่ได้ ก็ต้องเขียนสคริปต์ ท่องเอา เราว่า pratice makes perfect หรือ fake it until you make it อาจจะเป็นเรื่องจริง เเม้ว่ามันจะดูขัดเขินในช่วงเเรกๆ เเต่ถ้าทำบ่อยๆ คงชินไปเอง

กลับมาย้อนดูที่ตัวเอง หนังสือเล่มนี้ช่วยทำให้เราเข้าใจตัวเองให้มากขึ้น จริงๆเเล้วเราเป็นแบบนี้มาตั้งเเต่อยู่ไทยเเล้ว เเต่ในสังคมไทยเราไม่ได้เจอความกดดันตนเองเช่นที่นี่ เพราะ mindset ของคนที่นี่คือชอบคนกล้าพูด กล้าเเสดงออก ในหนังสือช่วยทำให้คนอเมริกันยอมรับตัวตนในมุมมองที่ไม่ได้รับสปอร์ตไลท์ส่องให้เห็น เเต่เราในฐานะคนจากวัฒนธรรมตะวันออก นอกจากจะยอมรับเรื่อง introversion เรายังเรียนรู้ว่าการ กล้าเเสดงออก อย่างมีเหตุผล เเละเเสดงจุดยืนตัวเองในที่ทำงานเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ไม่ว่าจะอยู่ประเทศอะไรถ้าเอาหลัก balance นี้ไปใช้ ไม่ใช่เเค่สำหรับ Introvert นะ เเต่ใครก็ตาม เราว่ารอด

ปล. ทุกคนจัดการกับ introversion ยังไงที่ทำงาน?
เเล้วสำหรับคนที่กล้าเเสดงออก เป็น extrovert คิดยังไงกับเพื่อนร่วมงาน introvert?  มีข้อเเนะนำมั้ย

ขอบคุณค่า

เพิ่มเติมเรื่องบุคลิกภาพ ที่มา Klinhom, P. (2020, February 05). Introvert & Extrovert เราเป็นคนยังไงกันนะ?
*ผู้ที่มีบุคลิกภาพแบบ Introvert มักใช้ความคิดได้ดีเมื่ออยู่ลำพัง ชอบใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ไม่ชอบแสดงความคิดเห็นมักหลีกเลี่ยงการพูดคุยหรือปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น หรือการพูดคุยกับผู้ที่กำลังหงุดหงิดไม่ค่อยเริ่มต้นสื่อสารกับผู้อื่นก่อนไม่ชอบเปิดการสนทนากับคนที่ไม่สนิท

*ผู้ที่มีบุคลิกภาพแบบ I Extrovert เป็นคนที่มีความร่าเริง มีมนุษยสัมพันธ์ดี เข้าได้กับทุกคน เป็นคนมีความมั่นใจสูง ชื่นชอบการเข้าสังคมและการแสดง ชอบเป็นจุดสนใจท่ามกลางผู้คน ต้องการการยอมรับจากสังคม ปรับตัวเก่ง ช่างพูดช่างเจรจา จึงชอบการพูดมากกว่าการเขียน เป็นคนไม่ชอบทำงานที่ต้องอยู่คนเดียว หรือใช้ความคิดที่ซับซ้อนเท่าไหร่นัก

ถ้าสงสัยว่าตัวเองนิสัยยังไง ลองทำแบบทดสอบดู http://www.getrealme.com/

จริงเรามีเพจ เเต่เงียบงันนะ นานๆทีโพสต์ประสบการณ์  FB - 9081 Miles from here
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่