ออกตัวก่อนนะคะว่า ดิฉันไม่ใช่นักจิตวิทยาหรือนักวิชาการใด ๆ ทั้งสิ้น 

ไม่แน่ใจว่าจะ tag อย่างไรถึงจะเรียกว่าเข้ากลุ่มถูก ผิดถูกอย่างไรทีมงานแก้ tag เอาละกันค่ะ

สิ่งที่เขียนถึงในกระทู้นี้มาจากข้อสังเกต ฟัง ๆ มา ได้ยินมา อ่าน ๆ มา หรือเจอคนลักษณะนี้มา   
ก็เลยเอามาเรียบเรียงเขียนกระทู้เพื่อแลกเปลี่ยนกับเพื่อน ๆ ในพันทิป 
และด้วยความที่เขียนเอาตามความรู้สึกและการประเมินของตนเอง 
ถ้าผิดไปจากหลักการหรือความเป็นจริงด้านอื่น ๆ ที่ดิฉันยังไม่เคยทราบอย่างไร ก็ขอเรียนเชิญทุกท่านแก้ไขหรือเพิ่มเติมความเห็น ดิฉันจะรู้สึกขอบคุณมากนะคะ

มูลเหตุของความสนใจเรื่องบุคลิกภาพนี้ เกิดจากลูกสาวสองคนโตที่เล่าให้ฟังว่าในวิชาแนะแนวอาจารย์เอาแบบทดสอบเรื่อง 16 บุคลิกภาพมาให้ลองทำดู
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(สนใจอ่านเพิ่มเติมได้จาก 
https://www.16personalities.com )

ปรากฎว่า ลูกสาวคนโต ทำแบบทดสอบกี่ครั้ง ๆ ก็เป็น INFP คือ หลัก ๆ เลยคือมีความเป็น introvert แบบสม่ำเสมอมาก

ลูกสาวคนรองทำแบบทดสอบ บางครั้งผลลัพธ์ในช่วงปีสองปีที่ผ่านมาแกว่งไปมา เป็น introvert บ้าง extrovert บ้างสลับกันไปแต่ส่วนใหญ่จะเป็น ENFJ
ลูกเอามาให้ดิฉันลอง ก็พบว่า บางครั้งก็สลับไปมาอยู่เหมือนกัน 

แล้วพออะไรที่มีลูกเป็นตัวตั้งแล้ว มักปลุกความสนใจของดิฉันให้ตั้งข้อสังเกตอะไรต่ออะไรเรื่อยเปื่อยไปด้วยเสมอ   ก็เลยเป็นที่มาของกระทู้นี้ค่ะ
จะพูดถึง 16 บุคลิกภาพเลย มันคงดูยาวและเป็นวิชาการเกินกว่าที่ความรู้ดิฉันจะสามารถพูดไปถึงได้

ขอคุยสั้น ๆ แบบตั้งข้อสังเกตของแค่บุคลิกระหว่าง introverts กับ extroverts ก็แล้วกันค่ะ

Extrovert คืออะไร 
Introvert คืออะไร

ดิฉันอ้างอิงความหมายคร่าว ๆ จากเว็บนี้ค่ะ 
https://www.dictionary.com/e/introvert-vs-extrovert/

Extrovert คือ คนที่ชอบเข้าสังคม ชอบอยู่กับคนอื่น ไม่ใช่คนขี้อายและเข้ากับคนอื่นได้ง่ายโดยไม่รู้สึกเครียด

ส่วน Introvert คือ คนขี้อาย (จริง ๆ ดิฉันไม่ค่อยเห็นด้วยกับคำว่าขี้อาย พวก introverts ไม่ได้ขี้อายนะคะ แต่ไม่พูด เพราะบางทีไม่เห็นเหตุผลที่จะพูดมากกว่า แต่บทจะพูดออกมา มันจะจริง ตรงประเด็นกันซะจนหงายเงิบกันไปทั้งวงล่ะค่ะ) เก็บตัวและครุ่นคิดกับความรู้สึกและความคิดของตัวเอง ชอบอยู่กับตัวเองมากกว่า   แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า introvert ไม่เข้าสังคมหรือไม่ได้ไปปาร์ตี้นะคะ พวกเค้าอาจเป็นตัวชูโรงของงานเลี้ยงเลยล่ะ  แต่บางครั้งลึก ๆ เค้าจะรู้สึกเหนื่อยกับการไปงานและจะต้องกลับมาชาร์จพลังด้วยการอยู่กับตัวเองมากกว่าไปลั้นลาตลอดเวลา    ไม่เหมือนกับ extrovert ที่ได้พลังจากการพูดคุย หรือถูกแวดล้อมด้วยผู้คนอยู่เสมอ

เทียบระหว่างลูกสองคนโต ดิฉันคิดว่าการ deal กับ introvert ยากกว่า ท้าทายกว่า เราต้องแยบยลกว่า เหมือนเดินลงไปในน้ำที่เราบางครั้งไม่สามารถคะเนความลึกหรือสภาพพื้นใต้น้ำได้ ดิฉันมาเริ่มสังเกต introvert หลายคนที่เคยรู้จักก็พบว่ามันเป็นแบบนั้นจริง ๆ extrovert ที่ช่างพูด ช่างคุย จะแสดงความรู้สึก ความชอบ ไม่ชอบได้ชัดเจน และสื่อสารออกมาอย่างตรงไปตรงมามากกว่าพวก introvert เลยทำให้เรารู้ว่า เค้าต้องการอะไร มันเลยทำให้อะไร ๆ ง่ายขึ้น

แต่วันนี้ เราจะมาพูดกลุ่มยากก่อนดีกว่าค่ะ

หลายคนมักปวดหัวกับ introvert และรู้สึกว่าพวกนี้ deal ด้วยยาก พวกติสต์แตก นึกอยากเงียบก็เงียบ นึกอยากหายก็หาย คบยาก คบแล้วเหนื่อย    แต่วันนี้ มีมุมมองดี ๆ จาก Daniel Wallen ที่พูดถึง introverts มาแชร์ค่ะ

Daniel Wallen บอกว่าพวก introverts นี้จะมีลักษณะอยู่ 10 อย่าง ดังนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.lifehack.org/articles/communication/10-quality-traits-all-introverts-have-even-they-dont-know-2.html

1.Introverts เป็นผู้ฟังที่ดี พวกเขาจะฟังก่อนพูดเสมอ คือ จะสังเกตการณ์จากริมสนาม บันทึกรายละเอียดไว้ในหัวก่อนจะเอาตัวเองเข้าไปในวง การเตรียมการณ์นี้ทำให้พวก introverts เข้าสู่การสนทนาได้อย่างมั่นใจ ไม่มีการสะดุดหัวคะมำกับคำพูดของตัวเองหรือสงสัยในสิ่งที่ตัวเองพูดออกไป

2.Introverts พึ่งพาตัวเองได้ อยู่ได้ด้วยตัวเอง พวกเขาเชื่อว่าการพึ่งพาคนอื่นเป็นเรื่องงี่เง่า ความรู้สึกว่าไม่ต้องพึ่งพาคนอื่นก็ได้นี้เอง ทำให้พวกเขารู้สึกว่าตนเองมีอำนาจในการจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิต

3.Introverts เป็นคนที่สมาธิดีเยี่ยม จดจ่อกับอะไรต่าง ๆ ได้ดี และสนใจในรายละเอียดหรือภาษาที่ไม่ได้สื่อออกมาเป็นคำพูดเพื่อค้นหาว่ามีความหมายอะไรซ่อนอยู่ในบทสนทนาที่ไม่ได้เอ่ยออกมา คนพวกนี้จะเข้าใจว่า การเล่าออกมาเป็นคำพูดนั้นบอกเล่าเรื่องได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น ความสามารถในการมองทะลุไปยังคำที่ไม่ได้พูดออกมานี้ทำให้ introverts สามารถเลี่ยงการตีความหรือเข้าใจผิดได้

4.Introverts เอาใจไม่ยาก
คนพวกนี้ ไม่ได้ต้องการอะไรมากมายเลยที่จะรู้สึกมีความสุข พวกนี้ชอบอยู่บ้าน อ่านหนังสือดี ๆ แช่ตัวในอ่างที่ตีฟองสบู่เยอะ ๆ มากกว่าจะไปเที่ยวที่เสียงดัง ๆ ดื่มอะไรแพง ๆ ข้อแตกต่างระหว่าง introverts กับ extroverts นี้เองที่ช่วยให้ introverts ประหยัดเงิน และสามารถผ่อนคลายได้หลังจากช่วงเวลาที่เครียด

5.INTROVERTS เป็นคนช่างสังเกตมาก มาก มาก
คนพวกนี้จะสังเกตความเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมได้รวดเร็ว พวกเขาจะเป็นคนแรกๆ ที่สังเกตว่าใครตัดผมใหม่   และคุณสมบัตินี้เองทำให้เพื่อนร่วมงานของ introverts มักจะรู้สึกขอบคุณในความเป็นคนช่างใส่ใจในผู้อื่นของเขา

6. Introverts เรียนเก่ง 
Introverts เชื่อว่า ความรู้คืออำนาจ พวกเขาสนใจในสิ่งที่พวกเขาให้ความใส่ใจอย่างเข้มข้นและอยากจะเรียนรู้ทุกสิ่งอย่างเกี่ยวกับประเด็นที่ชอบ ความกระตือรือร้นนี้เองทำให้คนกลุ่มนี้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาที่สนใจ

7. Introverts เป็นคนไว้ใจได้ 
Introverts รักษาความลับได้ เขารู้ดีว่า มัน “ยากเย็น” แค่ไหนที่จะเชื่อใจใครสักคนดังนั้น พวกเขาจะไม่ปากโป้งเอารายละเอียดส่วนตัวของคุณไปบอกใครถ้าคุณไม่อยากให้บอก  นี่เลยเป็นเหตุผลว่าทำไม พวก introverts ถึงสามารถเป็นเพื่อนรักที่สุดของคุณได้  

8. Introverts เป็นพวกมุ่งมั่นกับเป้าหมายของตนเอง 
Introverts มักจะเป็นคนมีวินัย พวกเขาไม่ได้ต้องการคำอนุมัติจากบุคคลภายนอกมาบอกว่าต้องทำอะไร แต่จะใช้พลังงานมุ่งไปที่เป้าหมายของตนเอง เลยทำให้กลุ่ม introverts นี้เป็นคนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง  

9. Introverts เข้าใจอารมณ์ตนเองได้ดี พวกเขาเป็นนายของอารมณ์ โดยพวกเขาจะคอยเฝ้าครุ่นคิดจนกว่าจะเข้าใจว่าอะไรเป็นเหตุให้พวกเขาเกิดความรู้สึกลบ การหันกลับมาพิจารณาตัวเองนี้ทำให้พวกเขาสามารถขุดลึกไปถึงต้นตอของความเชื่อทางลบที่บั่นทอนศักยภาพของเขา

10. Introverts เป็นคนจุดประกายความคิดอะไรดี ๆ เสมอเวลาพูด 
Introverts มักมีอะไรน่าสนใจในการพูดคุยเสมอ พวกเขาไม่ใช่พวกชอบคุยเจ๊าะแจ๊ะ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า พวกเขาไม่สามารถพูดคุยแบบลึกซึ้งได้  พวกเขามักถูกมองว่าเป็นคนเงียบ ที่เงียบนี่ใช่เพราะพวกเขาไม่ชอบผู้คน เพียงแต่ไม่ชอบพูดเรื่องเรื่องเปื่อยไม่มีแก่นสาร  ไม่เสียเวลากับบทสนนทนาตื้น ๆ  ถ้าคุณอยากรู้ว่า พวก Introverts มีเสน่ห์แบบแสนมหัศจรรย์แค่ไหน ก็แค่ต้องตั้งคำถามฉลาด ๆ เกี่ยวกับเนื้อเรื่องที่พวกเขาสนใจ แล้วคุณจะได้รู้

เอาละ คราวนี้ขอแชร์ประสบการณ์ที่เจอกับ introverts รอบตัวบ้างว่าเป็นอย่างไร ? ดีลด้วยยากตรงไหน ? และที่นาย Wallen พูดนี่จริงกี่เปอร์เซ็นต์
Again ย้ำอีกทีว่า นี่เป็นข้อมูลแบบอัตตวิสัยนะคะ เป็นส่วนตัวซึ่งอาจไม่สามารถเป็นตัวแทนของ introverts ทั้งโลกได้

ลูกสาวดิฉันเป็น introvert แบบที่เธอสามารถนิยามคำว่า introvert ได้เลย

ตั้งแต่เด็กมาแล้ว เวลาจะพูดหรือทำอะไร ลูกคนนี้จะสังเกตอย่างเงียบ ๆ ตลอด และยิ่งโต ก็ยิ่งเงียบ ยิ่งลึก จนดิฉันต้องระมัดระวังตลอดเวลาว่า ทำอย่างไรถึงจะสนิทกับลูกได้แบบสนิทใจจริง ๆ โดยลูกต้องรู้สึกสบายใจ วางใจ และดิฉันต้องระวังการล้ำเส้น หรือการพยายามจะ “เผือก”เรื่องส่วนตัวของลูกมาก ๆ

 
ตอนเธออายุสักสี่ห้าขวบ กำลังหัดอ่านหนังสือ ลูกม้าน้อยนี่ก็อ่านออกเสียงเจื้อยแจ้วไปเรื่อย จนสามีตั้งข้อสังเกตว่า “เอ๊ะ... ลูกอ่านเรื่องนี้ด้วยหรือ ?” หลังจากนั้นเป็นต้นมา ลูกไม่เคยอ่านอะไรออกเสียงอีกเลย แต่เป็นคนสมาธิดีมาก เวลาตั้งใจอ่านหนังสือ จะตัดเสียง ตัดความรับรู้ภายนอกออกหมด จดจ่ออยู่กับหนังสืออย่างเดียว

ลูกคนนี้ทำอะไรได้ด้วยตัวเองตั้งแต่อายุไม่เท่าไร สนใจอยากไปเรียนที่ไหน หาข้อมูลเอง ทำอะไรเอง ลูกไปดูหนัง กินข้าวคนเดียวเองได้ตั้งแต่สมัยอยู่มัธยม เลือกคบเพื่อนอย่างระมัดระวัง ช่างสังเกตแต่ไม่แสดงออกให้ใครรู้ว่าตัวเองสังเกตเห็นอะไร ตั้งคำถามอะไรชวนคิดเสมอ (เคยเขียนกระทู้ไว้สามปีที่แล้ว https://ppantip.com/topic/37400748)   แต่แปลกที่เพื่อนมักมาปรึกษาหรือเล่าอะไร ๆที่เป็นความลับคับอกให้ฟังเสมอ ซึ่งลูกจะเก็บความลับของเพื่อนอย่างปิดสนิท ฟังมาแล้วไม่เคยเล่าต่อ แม้แต่แม่  ให้สนิทอย่างไร ถ้าลูกตรองดูแล้วว่า ถ้าเล่าแล้วเพื่อนจะฟังดูไม่ดี ลูกจะไม่เล่า 

Introverts ดีลด้วยยากตรงไหน และมีเสน่ห์ตรงไหน ?

ยากตรงที่บางครั้ง ถ้าคุณไม่ช่างสังเกตมากพอ คุณจะอึดอัดกับความเงียบและการหายตัวไปของเขา และเลวร้ายยิ่งไปกว่านั้นคือ คุณจะตีความการกระทำของเขาเปะปะในแง่ร้ายจนทำให้ความสัมพันธ์มันย่ำแย่ลงไป

บางที เวลาลูกเครียดหรือมีเรื่องต้องคิด การจะเข้าไปปลอบหรือแสดงความห่วงใย introvert นี่ต้องระมัดระวังและ handle with care จริง ๆ 

ด้วยความที่พวกนี้เป็นคนที่คิดเยอะ คือ อาจดูเหมือนเป็นคนที่มีความสุขง่าย เช่น ไม่ชอบกิน ชอบเที่ยวอะไรมากมาย ชอบนอนเขลง ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือที่บ้าน แต่ความคิดเยอะนี่ ทำให้เราต้องระวังท่าทีการเข้าหาให้ดี  

ความท้าทายอยู่ที่ว่า ตอนไหนควรจะปล่อยให้เขามีเวลาส่วนตัว ตอนไหนควรจะพูดปลอบ ซึ่งต้องดูทางลมด้วยนะคะ กลุ่ม introvert นี่ถ้าคุณสักแต่พูดปลอบเจื้อยแจ้วไปแบบไม่รู้คิดแล้วล่ะก็ มันจะทำให้ทุกอย่างยิ่งแย่ เวลาลูกสอบจะหายหน้าไปทั้งเดือน ดิฉันต้องชั่งใจอย่างมากว่าจะเข้าไปเซอร์ไพรส์หรือจะเลือกที่จะเชื่อใจ 

ที่เล่ามาทั้งหมดนี่ คือ ลองมาแล้วทุกทางค่ะ 

ท้ายที่สุด ก็พบว่า วิธีดีลกับ introvert ที่ดีที่สุด คือ การ “ลอก” เอาบุคลิกบางอย่างของพวกเขามาใช้บ้าง เพื่อทำให้พวกเขารู้สึก “อบอุ่น ปลอดภัย” คือ สังเกตเขาบ้าง ฟังสิ่งที่เขาพูดและไม่พูดบ้าง ปล่อยให้เขาเงียบและอยู่กับตัวเองโดยเราห้ามไปปล่อยพลังกดดันทางสายตากับเขาบ้าง แต่ทำให้เขาแน่ใจว่า เราจะอยู่ตรงนี้สำหรับเขาเสมอ อย่ากดดันให้เขาเล่า หรือพูด พวกนี้ ถ้าจะเล่าเดี๋ยวเล่าเอง ถ้าไม่เล่า ง้างปากให้ตายยังไงก็เงียบ

หลายครั้ง ดิฉันแก้ปัญหาด้วยการกอดลูกไว้โดยไม่พูดอะไร  พาลูกไปกินของที่อยากกิน และไม่ถามอะไร พอลูกกินจนอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อยแล้ว บางทีลูกจะเอาหน้ามาวางไว้บนไหล่เรา 

ดิฉันต้องกดความอยากถามออกไปให้ลึกที่สุด และพูดแค่ว่า “บางที ชีวิตก็ดีขึ้นหลังจากกินอะไรอร่อย ๆ เข้าไปเนอะลูกเนอะ” 

จากนั้น ถ้าเขาพร้อม เขาจะเล่า แต่ถ้าไม่พร้อม รออีกหน่อยค่ะ ทำตัวเป็นที่พักพิง เก็บจอบเก็บเสียมไว้อย่าไปขุดเผือก เมื่อไรก็เมื่อนั้น เดี๋ยวเค้าเล่าเอง

อะ...ทีนี้ขอแชร์บ้างว่า introvert มีเสน่ห์อย่างไร ?

ในฐานะที่ลูกคนโตเป็น introvert ตัวเป้ง และแฟนที่มี (และเคยมี) ก็เป็น introvert กันแทบทั้งนั้น จะมาเหลาว่า introvert มีเสน่ห์น่ารักอย่างไร ?