เนื่องด้วยสัญญากับตัวเองว่าถ้ามีอาการดีขึ้นจะมารีวิวเป็นวิทยาทานให้กับทุกๆคนที่เป็นโรคนี้อยู่ หากใครเอาไปใช้แล้วได้ผลจขกท จะดีใจมากๆค่ะ  ก่อนอื่นขอบอกตามตรงเลยว่า สมัยก่อน ตั้งแต่เป็นเด็กจะไม่ค่อยสนใจว่าจะอึตอนไหน ปวดอึก็ค่อยไปถ่าย หลายๆครั้งพอไม่ได้อึหลายวันก็เป็นที่รู้กันว่ามันจะแข็งๆ จนหลายๆครั้งแข็งมากจนถ่ายมีเลือดออก ก็เข้าใจว่าเป็นริดสีดวงทวารหนักเหมือนใครๆเป็นกัน รวมทั้งแม่ก็เป็นเช่นเดียวกัน แต่!! ก็ไม่ได้กลุ้มใจอะไรมาก เป็นปีนึงสามสี่ครั้ง ที่อึมีเลือดออกมาเต็มโถเจ็บแค่วันนั้นวันเดียวและวันถัดมาก็หาย ให้ย้อนกลับไปได้ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้ปล่อยตัวเองแบบนั้น หลังจากนั้นใช้ชีวิตมาเรื่อยๆ เหตุมันเกิดตอนไปเที่ยวยาวหนึ่งอาทิตย์ พบว่า ตลอดระยะเวลา7วันที่ไปเที่ยว ถ่ายเป็นเลือดสดเยอะมากๆๆเต็มโถ และเจ็บทวารหนักพอสมควร แต่นั่งได้ตามปกติ  (ขนาดพก mucillin ไปกินทุกวันเนื่องจากที่ไปเที่ยวหากินผลไม้ยาก จะได้มีไฟเบอร์นี้เป็นตัวช่วยให้มีกากใย) หลังจากกลับมาจากไปเที่ยวก็ยังอึเป็นเลือด เพราะอุจจาระแข็ง(ไม่ได้อึทุกวัน) เราก็เริ่มเครียดมากและหลังจากนั้นก็เริ่มปรับพฤติกรรมทุกๆอย่างตั้งแต่กินน้ำเยอะๆ กินผักผลไม้ ลูกพรุนนี่ต้องมีติดห้องไว้เลยช่วยให้อึนิ่มไม่แข็ง สรรหายาในโรคริดสีดวงมาทานทั้ง daflon mucillin ที่กินอยู่เดิม สมุนไพรเพชรสังฆาต เนื่องจากคิดว่าเป็นริดสีดวงเพราะมีก้อนยื่นออกมา  ปรับพฤติกรรมมาเป็นเดือนๆ ผักผลไม้ก็กินให้มากขึ้น แต่ก็ยังไม่หาย ยังอึมีเลือดสดเป็นจำนวนมาก ในบางครั้งเนื่องจากอึแข็ง แม้ว่าจะกินน้ำเยอะมากในแต่ละวัน แต่ก็มีบางวันที่ยังกินน้ำน้อยอยู่ จึงตัดสินใจไปหาหมอ หมอบอกว่าเป็น แผลปริขอบทวาร 2 แผล ก็จ่ายยา ที่เคยกินมาให้ ก็ได้แต่บอกหมอไปว่าทุกอย่างที่หมอให้เรากินมาหมดแล้ว หมอเลยเพิ่ม mucillin ที่เรากินวันละซอง เป็นวันละสองซอง พยาบาลให้แช่ก้นในน้ำอุ่น ขอหมอให้ผ่าเพราะทรมานมากๆ หมอบอกทันทีเลยว่าไม่ผ่าให้ หลังจากกลับมาก็เพิ่มการแช่ก้นในน้ำอุ่น แรกๆแช่บ่อย หลังๆก็แช่ลดลง และก็เพิ่มการทานผักเยอะขึ้น ด้วยการปั่นผักกินเป็นประจำทุกวัน (มีบลอคโคลี่แช่แข็ง มิกซ์เบอรี่แช่เเข็ง กล้วยน้ำว้า สับประรด ไม่มีสูตรที่แน่นอน กะๆเอา 55+ ) การขับถ่ายก็ดีขึ้นในระยะแรกๆ อย่างมาก กินแล้วอยากอึในวันนั้นเลย แต่ไม่ได้ถ่ายตอนเช้า ขอให้ได้ถ่ายทุกวัน วันไหนไม่ถ่ายก็จะกินยามะขามแขกช่วยให้ระบาย 
                 หนึ่งเดือนต่อมาหลังจากนั้นก็ยังเป็นอยู่ เพราะบางครั้งอึยังแข็งและบาดทวารหนักจนมีเลือดออก ปรับพฤติกรรมทุกๆอย่าง จนไม่ไหวอีกต่อไป จึงไปหาหมอโรงพยาบาลอีกที่ ก็เหมือนเดิม คือได้ยาเหมือนๆเดิม คำแนะนำยังเป็นคำแนะนำเดิมคือการแช่ก้นในน้ำอุ่นทุกวัน พยาบาลบอกว่าโรคนี้คนเป็นกันเยอะ เอาวะ!!!คราวนี้เลยแช่ก้นทุกวันเช้าเย็นติดต่อกัน  เนื่องจากตรงทวารหนักจะมีเส้นเลือดมาเลี้ยงน้อย ทำให้แผลบริเวณนั้นหายช้า การแช่น้ำอุ่นจึงทำให้แผลบริเวณนั้นหายไวขึ้น จากนั้นไม่พอ!!! เพิ่มปริมาณผักปั่นให้มากขึ้นไปอีก กินเป็นประจำทุกวัน ดื่มน้ำให้มากขึ้น กินลูกพรุนในบางวันที่เรากินอาหารที่มีไฟเบอร์ไม่เพียงพอ และยังต้องอึทุกวันเพื่อไม่ให้อุจจาระแข็ง เป็นสาเหตุของแผลอีก ซึ่งก็ยังมีเลือดออกบ้างเดือนละ หน สองหน นิดๆหน่อยๆ และท้ายที่สุดเพิ่มไปอีกหนึ่งวิธี และจขกท คิดว่าเป็นวิธีที่สำคัญที่สุด คือพยายามอึในตอนเช้า หากวันไหนไม่อึตอนเช้า ก็อาจจะกิน มะขามแขก 1 เม็ด ในตอนเช้า และอีก 8 ชั่วโมงก็จะระบาย และเพิ่มจินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อลำใส้เข้าไปอีก คือการกิน probiotic ในตอนเช้า
               **สรุปวิธีที่ จขกท คิดว่าได้ผลและสามารถเอาไปใช้ง่ายๆให้เกิดประโยชน์ก็คือ**
                  1. พยายามอึให้เป็นเวลาในตอนเช้าทุกวัน หากไม่อึทุกวันโรคนี้ก็จะหายยาก เพราะถ้าปล่อยให้ท้องผูกก็จะทำให้อึแข็งได้ (หลังจากที่ จขกท ปรับพฤติกรรมมาทั้งหมด วิธีนี้เป็นวิธีหลังสุด ที่ดีที่สุดที่ทำ แล้วทำให้โรคดีขึ้นชัดเจน ว่าไม่มีเลือดออกหลังจากอึในตอนเช้า )
                  2. ดื่มน้ำให้เยอะๆๆๆๆๆ โดยเฉพาะในตอนเช้าหลังตื่นนอน การดื่มน้ำในตอนเช้าหลังลุกจากที่นอนกระตุ้นให้เกิดอยากถ่าย ส่วนในระหว่างวันก็ดื่มให้เยอะๆเช่นเดียวกัน นึกได้ก็ดื่มเข้าไปเพิ่ม น้ำทำให้อึนิ่ม ไม่แข็งครูดเวลาถ่าย และทำให้ไตทำงานดีอีกด้วย อันนี้ไม่นับน้ำหวานนะคะ
                  3. ทาน probiotic เสริม ส่วนตัวทานของ เกาหลี ยี้ห้อ Biofit ซองเหลือง ไปเสริซกันได้ กินเสริมเข้าไป อะไรที่คิดว่าดี ....ก็คิดว่าดี อีกอย่างสรรพคุณของ probiotic มีมากมาย ตัวอย่างเช่นมีงานวิจัยที่บอกป้องกันมะเร้งลำใส้ใหญ่ ได้
                  4. ทานผักผลไม้ให้มากขึ้น  
                  5. เห็ดต่างๆ ก็มีประโยชน์นะแจ๊ะ หลังๆมาสังเกตุว่าหลังทานเห็ดเข็มทองตอนไปกินชาบู ถ่ายออกมาเห็นเป็นรูปร่างเห็ดเลย เลยไปเสริซข้อมูลพบว่า เห็ดต่างๆนอกจากมีประโยชน์มีวิตามินมากมาย และที่สำคัญเป็นกากใยที่ดี ช่วยทำความสะอาดลำไส้ได้ดีเยี่ยม เพราะเวลามันไม่ถูกย่อย มันก็ออกมาแบบนั้น เหมือนมากวาดทางเดินลำใส้เรานั่นเอง
                 6. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีคาเฟอีนเยอะ มันจะทำให้ท้องผูก ง่ายย เช่น ชา กาแฟ โอเลี้ยง ชานม แต่บางคนทานพวกนี้ไม่ท้องผูกก็ยินดีด้วยจร้า
                 7. แช่ก้นในน้ำอุ่น สำคัญมากช่วงแรกๆที่มีเลือดออก แช่วนไป เช้า เย็น หลังอาบน้ำ
                 8. จริงๆมีวิธีอื่น ด้วย เช่น ไม่เครียด นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายให้ลำไส้ได้เคลื่อนไหว ทุกอย่างล้วนแล้วสำคัญหมด
                 9. ถ้าเริ่มไม่ถ่ายในวันที่2 อย่านิ่งนอนใจ กินยาระบาย เช่นมะขามแขก อย่าให้ไม่ถ่ายเกินสองวัน อึจะแข็งได้
                 
                 ....หลังจากพยายามปรับพฤติกรรมมาอึในตอนเช้า และปรับพฤติกรรมหลายๆอย่าง  พบว่าไม่มีเลือดออก แล้ว ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 4 เดือน  (จากทุกๆเดือนที่ต้องมี สัก 1-3 วันในเดือนนั้นที่มีเลือดออกหลังถ่าย ไม่ก็เดือนเว้นเดือน -*- ) นี่คิดว่านานที่สุดตั้งแต่เกิดโรคนี้มา 1 ปี  เป็นโรคที่ทรมานโรคหนึ่ง ขอให้ใครที่เป็นอยู่ดีขึ้นจากโรคนี้ในเร็ววันนะคะ  ด้วยรัก...
               ถ้าปรับพฤติกรรมมาแล้วยังเป็นอยู่ แนะนำให้ผ่าตัดนะคะ ถ้ามันรบกวนชีวิตประจำวัน มีเพื่อนๆตั้งกระทู้เกี่ยวกับการผ่าตัดในพันทิฟมากมาย