ในวันที่ผมเป็นแผลปริขอบทวาร anal fissure

ผมเชื่อว่าหลายคนยังไม่รู้จักกับโรคนี้เท่าไหร่นัก จึงขอแชร์ประสบการณ์ของผมให้เพื่อนๆได้ศึกษาเป็นแนวทาง
เดือนที่แล้วอยู่ๆผมได้เข้าห้องน้ำทำธุระตามปกติ แต่วันนั้นดันท้องผูกอุจจาระแข็งต้องใช้แรงเบ่งพอสมควร พอเบ่งจนน้องใกล้จะออกรู้สึกจี๊ดบริเวณหูรูดแต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร ระหว่างทำธุระก็ก้มดูเห็นว่ามีเลือดเต็มไปหมด พอถ่ายเสร็จก็หยุดไหล จึงไม่ได้สนใจอะไร ผมเป็นคนถ่ายบ่อยทุกเช้าทุกวัน บางวัน 2 รอบ 3 รอบ ตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้นพอถ่ายก็จะมีเลือกบ้างไม่มีเลือดบ้าง แต่เมื่อผ่านไปประมาณ 1 อาทิตย์รู้สึกเจ็บบริเวณหูรูด เจ็บแบบทรมานมาก ปวดจนนอนไม่หลับ นั่งทำงานไม่ได้เลย ในใจคิดว่าน้องริดซี่มาเยี่ยมแน่ๆ ก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับริดสีดวง หาซื้อยากินตามร้านขายยาหาสูตรเด็ดต่างๆในอินเตอร์เน็ตก็ลองทำลองทานดูทุกอย่างแล้วผ่านไปเกือบ1อาทิตย์ไม่ดีขึ้นเลย จึงตัดสินใจไปพบหมอ พอได้เจอหมอก็เล่าอาการตามที่เราเข้าใจบอกหมอไปว่าเราเป็นริดสีดวงถ่ายเป็นเลือดมาสักอาทิตย์นึงแล้วและเจ็บมาก หมอไม่รอช้าขอดูก้นกันเลย จังหวะนั้นไม่มีอะไรต้องอายแล้วเพราะเจ็บทรมานมาก ขึ้นเตียงเปิดตูดให้หมอดู หมอดูแว๊บแรกหมอพูดทันทีว่า เป็นแผลนิไม่ใช่ริดสีดวง แล้วหมอก็ถามว่ารู้จักโรคแผลปริขอบทวารมั้ย ภาษาอังกฤษเรียก anal fissure เรางงเพราะไม่เคยได้ยินโรคนี้มาก่อน หมอเรียกมาคุยกันที่โต๊ะ ก็อธิบายวาดรูปหูรูดให้ดูว่ามันมีแผลที่หูรูด โดยมี 2 แบบ คือ เฉียบพลันกับเรื้อรัง โดยเฉียบพลันมักจะหายเองได้แต่ถ้าเรื้อรังจะมีติ่งเนื้อยื่นออกมาคล้ายริดสีดวง เป็นเพราะแผลที่เกิดขึ้นเป็นๆหายๆจึงทำให้เกิดเนื้อส่วนนี้ขึ้นซึ่งผมก็มีเนื้อส่วนนี้ด้วย หมอเลยให้ลองกินยาดูสักเดือนนึงว่าจะหายมั้ย ถ้าไม่หายอาจจะต้องผ่าตัดขยายหูรูดเพื่อให้อุจจาระไม่ไปบาดแผล เราก็เอาไงเอากัน ลองก่อนก็ได้ หมอนัดมาใหม่อีก 1 อาทิตย์ ก็กลับบ้านมาทานยาตามที่แพทย์สั่ง ยาที่ได้มาจะมียาลดบวม แก้อักเสบ แก้ปวด ยาระบาย และยาเหน็บ ผ่านไป 1 อาทิตย์ปรากฏว่าอาการเจ็บและปวดดีขึ้นอาการบวมลดลง แต่ยังมีเลือดขณะถ่ายอยู่พอถ่ายเสร็จก็จะปวดที่ก้นประมาณ4-6ชั่วโมง แล้วก็ดีขึ้น แล้วก็ถึงวันนัดก็บอกหมอไปตามอาการ หมอยังงงว่าทำไมเลือดยังไหลอยู่ หมอจึงสันนิษฐานว่าแผลอาจจะลึกไปถึงกล้ามเนื้อหูข้างใน จึงให้ยาชุดเดิมไปกินอีกอาทิตย์ถ้าไม่ดีขึ้นอาจจะขอส่องกล้อง พอผ่านไปอีกอาทิตย์ก็เป็นแบบเดิมอาการเจ็บและปวดดีขึ้น แต่ยังมีเลือดขณะถ่ายอยู่และเจ็บหลังถ่าย พอถึงวันนัดก็ไปหาหมออีกครั้งก็เล่าให้ฟังแบบเดิมไม่ดีขึ้น หมอเลยจะขอส่องกล้อง เบื้องต้นผมได้ไปศึกษาเรื่องการส่องกล้องมาและรู้ว่าค่าใช้จ่ายก็สูงประมาณนึงและเนื่องด้วยโรงพยาบาลที่ผมมาเป็นเอกชนราคาจึงสูงแต่เพราะผมเบิกสวัสดิการบริษัทได้จึงเลือกมาโรงพยาบาลนี้ แต่งบผู้ป่วยนอกก็มีจำกัดเหลือแต่สวัสดิการในส่วนของแอดมิชซึ่งปีนี้เรายังไม่ได้ใช้เลย ผมก็เลยคุยกับหมอเรื่องงบค่ารักษาและขอหมอว่าถ้าจะส่องกล้องผมขอผ่าเลยได้มั้ย หมอก็ใจดีและก็โอเคแต่หมอขอดูก้อนอีกครั้งว่าไม่มีอะไรอย่างอื่นนอกจากแผลปริขอบทวารอีก พอดูเสร็จหมอถามว่างั้นผ่าเลยมั้ย ผ่าวันนี้เลย ได้คิวบ่ายโมง พอดีผมไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เมื่อคืน ก็โอเคเพราะทรมานมาหลายวันไม่ไหวแล้วถ้าเจ็บแต่จบก็เอาเลยดีกว่า

ก็ทำเรื่องแอดมิช เอ็กซ์เรย์ปอด ตรวจเลือด แล้วก็เข้าห้องเปลี่ยนชุดผู้ป่วยรอเวลาขึ้นเขียง ระหว่างนั้นมีหมอเข้ามาคุยกับเราให้เรารู้ว่าหมอจะทำอะไรกับเราบ้างเพื่อให้เราไม่กล้ว หมอก็ถามนู้นนี่นั่นเรื่อยเปื่อย และบอกว่าจะบล็อกหลังนะ ใช่เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็เสร็จล่ะ พอถึงเวลามีเจ้าหน้าที่พาเตียงมารับถึงห้องก็ขึ้นเตียงไป พอถึงห้องผ่าตัดพยาบาลก็ให้ถอดกางเกง นั่งก้มตัวหันหลังเพื่อที่จะให้หมอฉีดยาบล็อกหลัง จังหวะนั่นผมเริ่มกลัวสั่นไปหมด พยาบาลก็เข้ามาปลอบ หมอก็เริ่มบล็อกหลังและจับนอนคว่ำจัดท่าทาง แปปเดียวก็เริ่มชาส่วนล่างไม่รู้สึกอะไรแล้ว จากนั้นหมอก็เริ่มทำการผ่าตัดทันทีใช้เวลาไม่ถึง 15 นาทีก็เสร็จ เร็วมาก จากนั้นก็มาอยู่ห้องพักฟื้นพยาบาลได้นำผ้าห่มทำความร้อนมาให้ด้วย โดยใช้เวลาอยู่ห้องนี้ราวๆชั่วโมงครึ่งจึงได้กลับห้องพัก ผมกลับห้องพักประมาณบ่าย 3 โมง หมอสั่งให้นอนหงายราบไปกับเตียงอีก 6 ชั่วโมง กินข้าวกินน้ำได้ปกติ พยาบาลเข้ามาวัดความดันบ่อยมาก และฉีดยาแก้ปวดให้ พออาการชาท่อนล่างหายแปลกมากที่ไม่รู้สึกเจ็บที่แผลอย่างที่คิด ตอนเป็นแผลก่อนผ่ายังจะเจ็บกว่าอีก 3 ทุ่มเริ่มเดินไปเข้าห้องน้ำเองได้ คืนนั้นก็นอนได้ปกติ แต่ก็ยังมีพยาบาลมาวัดความดันและวัดไข้ทั้งคืน

เช้าแรกหลังจากผ่าเสร็จ ก็ยังไม่รู้สึกเจ็บแผล กินข้าวกินน้ำได้ปกติ หมอเข้ามาประมาณ 9 โมง ถามว่าถ่ายหรือยัง เราก็บอกว่ายัง หมอเลยให้ถ่ายก่อน จึงจะให้กลับมาพักที่บ้านได้ เราก็ไม่รอช้าเพราะปวดท้องมาหน่อยๆอยู่แล้ว พอเข้าห้องน้ำก็ทำใจอยู่นานกลัวเจ็บ พักใหญ่ๆก็เริ่มถ่ายได้ ไม่เจ็บอย่างที่คิด ถ่ายคล่องสบายมาก ไม่มีเลือดไหลหยดติ๋งๆๆอีกแล้ว ดีใจแบบบอกไม่ถูก พอถ่ายเสร็จพยาบาลก็ให้แช่ก้นกับน้ำอุ่นผสมเบตาดีน 15 นาที พอเสร็จก็หมอก็อนุญาตให้กลับบ้านได้ ผมขับรถกลับบ้านได้ปกติ เพราะบ้านไม่ได้ไกลจากโรงพยาบาลมากนัก

ตอนนี้ผ่านมา 3 วันแล้วเลือดยังซึมอยู่ แต่รู้สึกดีมากและคิดว่าตัดสินใจถูกที่เลือกการรักษาโดยวิธีผ่าตัด ถ้าใครที่กำลังเป็นหาข้อมูลผมก็หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับใคาหลายๆคนนะครับ อย่ากลัวที่จะไปพบแพทย์ครับ

ไว้จะมารายงานผลเรื่อยๆนะครับ

นี่เป็นข้อมูลที่ผมไปหามาเกี่ยวโรคแผลปริขอบทวารครับ เผื่อจะเป็นประโยชน์
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่