ตั้งใจเข้ามหาลัยดีๆ สุดท้ายเงินเดือน 21,000 เศร้าค่ะ

- คนที่เพ่ิ่งเข้ามาอ่าน ไม่ดราม่านะคะทุกคน ใจเย็นเด้อออออ
ทุกความคิดเห็นในนี้ มีประโยชน์ทั้งสิ้นค่ะ
รบกวนให้เป็นกระทู้ที่เป็นประโยชน์ต่อเด็กจบใหม่
หรือนิสิตที่กำลังจะเรียนจบนะคะ ไม่ต้องดราม่าทุกเรื่องก็ได้ค่ะ -

ขอบคุณทุกคนนะคะ
ทุกความคิดเห็นทำให้หนูได้คิดอะไรได้เยอะค่ะ
จะสะสมพอร์ตและพัฒนาฝีมือต่อไปค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 17
ใจเย็นๆนะครับ
เท่าที่อ่านดู จขกท เก็บเงินเก่งนะครับ (https://ppantip.com/topic/37717792)
ที่ จขกทได้ ก็ดีแล้วครับไม่ใช่ไม่ดี

การทำงานเป็นเหมือนการวิ่งระยะยาวครับ
วันนี้อายุ25ใช่ไหม จากที่ไปดูกระทู้เก่าๆมา

มันมีคนมากมายที่กระโดดย้ายงาน up เงินเดือน  แต่ถึงจุดๆหนึ่ง เงินเดือนมันจะตัน
ตันในที่นี้คือมันตันเพราะความรู้เราตัน มันไปต่อไม่ได้   ซึ่งมันจะเกิดกับคนอายุ30+ถึง50+

ตอนนี้ ถ้าจะให้แนะนำ
ดูจากที่เรียนจบอินเตอร์ได้ คิดว่าทางบ้านน่าจะมีฐานะอยู่พอสมควร
ไม่ต้องกังวลหรอกครับ หาความรู้ไว้มากๆในวันนี้ ที่เราอายุยังเท่านี้
วันหนึ่ง โอกาส งาน เงิน มันจะเข้ามาเอง ถ้าเรามีความรู้มากพอ


รออายุซัก30 แล้วจะเจอคำนี้ครับ คำที่ว่า โอกาสมาวางอยู่ตรงหน้า แต่คว้าไว้ไม่ได้ เพราะความสามารถตัวเองไม่ถึง
ใช้เวลาวัยรุ่นของเราหาความรู้ครับ
วันนี้ยังไม่มีภาระ  ยังไม่มีครอบครัว ยังไม่มีอะไรต้องรับผิดชอบมากมาย  ใช้มันให้คุ้ม หาความรู้ให้มากครับ
อยู่กับหัวหน้าดีๆ อยู่กับงานดีๆ  ทำงานให้เป็น หลักการให้ถูก รู้จักสังเกตการบริหารงาน การทำงานต่างๆครับ

5ปีนี้ช่วง25-30 คือช่วงที่เรียกว่า ความรู้สำคัญกว่าเงิน
เพราะถ้าไม่มีความรู้ ช่วง30+ขึ้นไปมันจะไม่มีเงินตามมาครับ

เพราะวันที่เริ่มมีอะไรต่างๆเข้ามาในชีวิตมากถึงระดับหนึ่ง เช่น ดูแลครอบครัว  ดูแลพ่อแม่ ดูแลบ้าน ดูแลค่าใช้จ่ายต่างๆ
มันจะทำอะไรไม่ง่ายแล้วครับ


ปล. ถ้ามีอะไรก็หลังไมค์มาก็ได้ครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
จบใหม่สาขานี้ ได้ขนาดนี้ก็หรูแล้ว
ไอสาขาที่จะร่ำรวยตั้งแต่จบใหม่ มันต้องสาขาที่จบยาก ๆ หรือไม่ก็ที่ต้องใช้ใบอนุญาตพิเศษ แบบหาคนมาทำไม่ค่อยได้

ส่วนเรื่องย้ายงานบ่อยน่ะเข้าใจถูกแล้ว ไม่ใช่บ่อยแบบปีนึง 4-5 ที่ แต่ถ้ามีความสามารถ ก็ย้ายให้ได้ทุกปี หรือ 2-3 ปีครั้ง
สังคมทำงานบ้านเรามักจะร้องหาความจงรักภักดี แต่ความเป็นจริงคือเราต้องทำตัวให้เหมือนเสือผู้หญิง
พอเรียนรู้หมดแล้ว เบื่อแล้ว ก็ต้องย้ายไปหาสาวคนใหม่ ชาร์จเงินเดือนแพง ๆ
ไม่มีองค์กรไหนที่ให้เงินเดือนขึ้นแต่ละปีมากเท่าย้ายงาน ถ้าจะอยู่นานต้องให้ได้สวัสดิการที่มันคุ้มค่าจริง ๆ
ความคิดเห็นที่ 34
บริษัทเค้าไม่ได้มองว่าคุณเรียนจบมาแพงแค่ไหน แต่เค้ามองว่าคุณทำรายได้ให้บริษัทเท่าไหน คุ้มที่เค้าจ่ายมั้ยมากกว่าน่ะค่ะ
ความคิดเห็นที่ 16
คุณจบ top three ภาคอินเตอร์ด้วยแหละ  ทำงานปีแรกแล้วได้เงินเดือนเท่านี้ ก็ดีแล้วนี่ครับ ว่าแต่คุณน่ะ มี profile ผลงานระหว่างการศึกษาแค่ไหนล่ะ

จะให้ได้มากกว่านี้ อาจต้องเป็นหมอ หรือมีวุฒิบัตรเพิ่มเติม ในสายวิชาชีพนั้น ๆ คราวนี้ไม่ต้อง top three ก็ได้มั๊ง แต่แนวนี้ มักจะไม่ใช่ทางเลือกของคนจบใหม่

แล้วคุณรู้ไหมครับว่า มีคนจบจากต่างประเทศปีละเท่าไร คุณว่าเขาควรมีเงินเดือนสักเท่าไร ในกลุ่มนี้ จบ ป.ตรี จาก top three บ้านเรา ก็ไม่น้อย การเรียนต่างประเทศอยู่ในวิสัยที่ครอบครัวฐานะปานกลาง เข้าถึงและไม่เกินกำลังจะส่งได้ไม่ยากเย็น แต่หากคุณจบ ตปท.แล้ว อันนี้คุณก็ไม่มีอะไรแตกต่างละ

แล้วเรียนภาตอินเตอร์น่ะ ดีแล้วและไม่มีอะไรน้อยหน้าคนที่จบ ตปท.หรอก แต่ก็ไม่ได้โดดกว่าพวกนั้นมากมาย เพราะพวกเขาก็เรียน สอบ ทำรายงาน นำเสนองาน เป็นภาษาอังกฤษเหมือนกันไง จึงไม่น่าจะมีแตกต่างกันมากมายนัก

และในบางสาขาวิชา ในบางบริษัท ถ้าคุณพิสูจน์ตัวได้ว่ามีความสามารถพอ คุณได้มากกว่านี้กว่า 50% ลองไปสำรวจตำแหน่ง management trainee บริษัทข้ามชาติบางแห่ง พอพ้นช่วงนี้เข้ารับตำแหน่งประจำแล้วได้เงินเดือนเท่าไรไม่ต้อง top three ก็ได้ แค่คุณเป็นคนที่เขาเห็นว่าใช่ ซึ่งแน่นอนว่า มัน tough และกดดัน มากกว่าตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำมากมาย

คุณรู้สึกเช่นนี้อาจเพราะคุณเอาเงินเดือนเป็นตัววัดความสำเร็จ ก็แล้วแต่คุณ แต่สักวัน ถ้าวันนั้นมาถึง คุณจะรู้ว่าเงินไม่ใช่คำตอบแรกสุด(เหมือนตอนนี้) อีกต่อไป

อย่างที่ทราบกันดีว่า ถ้าคุณมองน้ำครึ่งแก้วของคุณ แล้วคุณคิดว่า ไรฟะ ลงทุน ลงแรงมาตั้งเยอะ ได้มาแค่เนี๊ยะ คุณจะรู้สึกอย่างที่เป็นและ

แต่เอาใหม่ บอกตัวเองว่า ยังดีนะ มีตั้งครึ่งแก้วแน่ะ แต่ฉันไม่เสียกำลังใจหรอก ฉันว่าถ้าฉันพยายามมากกว่านี้ ฉันมีโอกาสได้น้ำเยอะกว่านี้ งั้นพยายามต่อไป แล้วจะว่าไป เพื่อน ๆ ที่จบแบบฉัน ก็ใช่ว่าทุกคนจะได้เท่าฉันนะ ไรงี้ หากไม่ละความพยายาม ทำงานเพิ่มประสบการณ์ เก็บเกี่ยวผลงานไว้บรรจุใน profile  มากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ละโอกาสที่เข้ามา คุณก็อาจถึงฝั่งฝัน เป็น golden boy ในบริษัทนี้เลย โดยไม่ต้องขย้ยขยายก็เป็นได้

แต่ถ้ายังไม่ถึงเวลา บางครั้ง  my best is not good enough ก็เป็นไปได้ พยายามต่อไป

นอกจากนี้ ส่วนหนึ่ง อยู่ที่วิธีคิดนี่แหละ ที่อาจส่งผลลัพธ์แตกต่างกัน

ผมคงจะ "แรง" และไม่ให้กำลังใจเลย คงจะจริง แต่นั่นเป็นภาพข้างนอกทุ่งลาเวนเดอร์ ที่สักวัน แม้ว่าเราพยายามแล้ว ก็ยังต้องเดินพ้นออกมาจนได้

และที่สำคัญ ผมว่ามันเป็นเรื่องจริง ที่ใคร ๆ ก็รู้กันดี หรือคุณว่าไม่ใช่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่