รีวิวการผ่า Anal fissure หรือแผลปริขอบทวาร หรือขี้บาดตูดแบบละเอียด

สวัสดีครับทุกคน  
จะเริ่มพรรณนามาตั้งเเต่เเรก ใครอยากอ่านตอนผ่าตัดให้ข้ามไปย่อหน้าที่ 5 นะครับ
ขณะพิมพ์อายุ 23 ปี หลังผ่าตัดได้ 4 เดือนเลยมาเผยเเพร่เป็นวิทยาทานให้เเก่ผู้ที่ยังป่วยอยู่
 
จุดเริ่มต้น
          เริ่มตั้งเเต่อายุ15ปี ตอนนั้นได้บวชเป็นสามเณรภาคฤดูร้อนไปธุดงค์ภาคอีสานอาหารที่ได้รับบาตรส่วนใหญ่จะเป็นข้าวเหนียวเป็นหลัก คือตอนนั้นด้วยความเป็นเด็กเลือกกินมากไปหน่อยผักไม่กินซุปไม่กิน เลยกินได้เเต่ไข่ต้มจิ้มข้าวเหนียวเหยอะซอส ประกอบกับช่วงนั้นเป็นหน้าหนาวเลยไม่อยากถ่ายวันสองวันถ่ายที จนเป็นวันที่เลือกออกครั้งแรกเเละเจ็บมากหลังจากนั้นก็หาย เเต่เป็นๆหายๆ เห็นเลือดออกมาด้วยเลิกเข้าใจว่าเป็นริดสีดวงเเต่ๆ เพระาเเม่ก็เป็นเลยคิดว่าเป้นกรรมพันธ์ุ เลยไม่อะไรมาก หลักจากนั้นไม่นานก็ได้ลาสิกขา  แต่อาการนั้นก็ยังอยู่จนไปหาหมอครั้งเเรก(รพ ศูนย์) ไม่มีการตรวจเเต่อย่างใด ถามอาการเเละรับยาจบแยกย้ายกลับบ้าน (ยาที่ได้ ยาเหน็บทวาร ยากินบรรเทาอาการริดสีดวงทวาร ยาเหน็บทวาร สามอย่าง) หลังจากนั้นมาก็เข้าใจว่าเราเป็นริดสีดวงทวารมาตลอด หลังจากนั้นก็พยายามทำให้ตัวเองถ่ายเหลวเพื่อที่จะไม่เจ็บ มีการทานยาระบาย การกินยาดีทอก การทานน้ำมันมะพร้าวตอนท้องว่าง บลาๆ เพื่อที่จะไม่ให้เป็นมันเป็นก้อน เเละทำแบบนี้เรื่อยมา
 
          ช่วงอายุ18 ประมาณ ม.5 จำได้ว่าวันนั้น ถ่ายตอนเช้าก่อนไป รร ถ่ายเหลวนะเเต่มีเลือดออกสดมาด้วยกับอุจจาระ ก็ปวดๆ คิดว่ามันบวดๆเหมือนทุกครั้งปราฏกว่าครั้งนี้เจ็ยเเบบนั่งเรียนไม่ได้ นั่งเเบบขยัยยกตูดไม่ได้แบบว่าทรมารสุดๆในชีวิตครั้งนึงเลย ต้องลงไปนอนตัว งอเเล้วแกล้งๆบอกเพื่อนว่าปวดท้องเพาะอายถ้าเพื่อนจะรู้ว่าเราเป็นริดซี่(ตอนนี้ไม่ใช่ริดซี่เเต่เข้าใจผิด) เเล้วขอไปนอนห้องพยาบาลพอนอนก็ทุเลาลงบ้างเเต่ไม่หายทีเดียว หลังจากนั้นโรงเรียนเลิดก็กลับบ้านมาเข้าห้องน้ำเเล้วลองล้างปรากกฏว่ามันระบมบวมที่ของทวารเป็นติ่งเเต่ไม่ใหญ่ติ่งเท่าเม็ดถั่วเขียว ก๊ยังเข้าใจอีกว่าเป็นริดซี่ เเละมีความชื่อบวกกับมีกลิ่นด้วย ตอนนั้นคือจำได้ว่านั่งร้องไห้ในห้องน้ำว่า เฮ้อทำไมว่ะเราอายุยังน้อยๆ เป็นโรคบ้าอะไรนี่ มันเจ็บมากแบบนั่งไม่ได้ยืนไม่ได้เวลากำเริบ ก็เป็นๆหายๆหลังจากนี้มาตลอดขอบอกก่อนว่าผมเป็นคนถ่ายไม่เเข็งเลยถ่ายนิ่มไม่ต้องเบ่งเลยเเต่เวลาถ่ายส่วนมากจะเจ็บ หลังจากนี้ก็กำลังจะอ่านหนังสือสอบเข้าหมอพอดี เลยเริ่มอ่านเริ่มค้นคว้าเริ่มสนใจเกี่ยวกับสุขภาพมากเป็นพิเศษเเละอ่านเกี่ยวกับโรคทางทวารหนักมากขึ้นเช่น โรคริดสีดวง โรคแผลปริ โรคฝีกัณสูทร เเต่ก็ยังไม่ไปหาหมอเพะาอายบวกกับพอกินยามันทำให้ทุเลา เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆจนมหาวิทยาลัยเเต่ไม่ได้เป็นหมอนะสอบไม่ติด TT
 
          ใช้ชีวิตมหาลัยมาเรื่อยๆ จน ฝึกงานผมได้ฝึกเเถวๆพรานนนก เเละช่วงนั้นอาการเจ็บทวารเวลาถ่ายหลังถ่าย มีเลือดสด ก็ยังมีอยู่เนืองๆจนมีครั้งนึงถ่ายกึ่งเเข็งกึ่งเหลวนะ มีเลือดและเจ็บมากเจ็บจนเป็นไข้เลยก็ลองหาจาก pantip เนี่ยเเหละครับจนได้เจออาจารย์หมอท่านนึง รพ เอกชนมีชื่อเเถวสวัดิการกองทัพเรือท่านก็ตรวจเเละก็ไปรัดหัวริดสีดวงให้ท่านบอกเป็นริดสีดวงนิดเดียวเเต่เป็นชนิดภายในท่านบอกว่าที่เจ็บก็เพาะว่าเเผลจากโรคเเผลปริเดี่ยวก็หาย (เสริมนิดนึงครับที่ รพ นี้ก่อนตรวจทวารหนักจะใช้เจลหล่อลื่นชนิดยาทาทำให้ไม่เจ็บ) เเละหมอก็ได้ทำการ ใช้อุปกรณ์ขยายทวารหนักเพื่อไม่ให้ทวารหนักหดเกร็งเกินไปเห็นมัมีหลายไซท์ ใส่ขยายไปเรื่อยๆ จนเราบอกไม่ไหว หลังจากนั้นมาก็กลับบ้านใช้ชีวิตปกติเเต่ก็ยังเจ็บอยู่เรื่อยๆทุกวันจนอาทิตย์นึงไม่ไหวเลยไปหาอาจารย์หมอท่านเดิม เเต่ผมไปไม่ทันท่านกลับก่อนเลยไปหาหมออีกที่ที่ยังอยู่ หมอท่านนนี้ใจดีสุขุมตรวจโรคด้วยความเข้าใจอธิบายการเกิดโรคเเละการทำให้เจ็บโดยใช้การวาดรูปให้เราเห้นเเละวินิจฉัยว่า ผมเป็นโรคแผลปริขอบทวาร หรือ Anal fissurs  เป็นแบบเรื้อรังนะไม่มีวันหายมีเเต่จะทุเลาจะเเก้ได้อย่างเดียวคือต้องผ่าตัดกล้ามเนื้อทวารเท่านั้น ก้ให้ยาเป็นยา2อย่างเป็นยาชนิดทาคล้ายๆเจลใสๆทาเเล้วจะชาไม่เจ็บเวลาถ่ายประมาณว่าถ้าเราเจ็บร่างกายจะตอบสนองโดยการขมิบยิ่งขมิบก้ยิ่งรัดให้ขี้เราออกยาก 55 ประมาณนั้น เเละหลังจากนั้นก็ส่งไปห้องการเงินเพื่อเเจ้งค่ารักษา หวยออกมาที่ 6-7x,xxx ซึ่งเรายังเรียนไม่จบเเละไม่มีประกันสุขภาพเอาไงดีหว่า งั้นกลับไปที่ สิทธิประกันบัตรทองเเล้วกัน ของผมอยู่ที่ โรงพยาบาลในมหาวิทยาลัย (มหาวิทยาลัยเอกชนเเห่งหนึ่งย่านรังสิต)  พอไปถึงผมก้เล่าอาการจากหมอที่ รพ ก่อนให้ฟัง ท่านบอกว่าไม่ต้องตรวจอะไรเเละถ้าเป็น Anal fissurs  ผ่าสถานเดียวเดี๋ยวทำเรื่อง รีเฟอร์ไปโรงพยาลศูนย์ให้ ผมก็ไป รพ ศูนย์ตามที่มีใบส่งตัว พอไปถึงก็ตามปกติรอบเเรกไปเเทบไม่ดูใบส่งตัวเลยเหมือนเอามาตรวจใหม่หมดเลย เเละก้เหมือนเดิมครับกินยาระบาย ก็บอกไปเเล้วว่าไม่ได้ท้องผูก เเต่ก็ยาระบาย ผมก็กลับโดยที่ไม่ม่ีอะไรเหมือนเดิมรู้สึกเสียเวลาที่ได้ยาระบายอีกเเล้ว เเต่ก็เข้าใจเพราะต้องตามขั้นตอน 
 
จนเรียนจบกลับบ้าน เเต่ขี้เกียจไปหาหมอที่ รพ ที่ มหาวิทยาลัยส่งไปเลยกะจะหาหมอเเถวบ้านเอาเเล้วกัน ที่บ้านก็สงสารเห็นเราเจ็บ น่าเวททนามั้งครับเลยบอกไปที่ รพ เอกชนเดิมไหมให้ไปผ่าเลย ด้วยความเกรใจใจที่จะต้องเสียเงินครึ่งเเสนผมเลยไป รักษา รพ เอกชนเเถวก่อนเผื่อถูกกว่า ที่ไม่ รพ รัฐเพระารอไม่ไหวเเล้ว เลยไปหาหมอหมอให้ยามาเหมือนเดิมครับ เป็นยากลายกล้ามเนื้อ ไฟเบอร์ที่ชาวเราต่างคุ้นเลย mucilin เเละยาคลายเคลียดที่มีคุณสมบัติคลายกล้ามเนื้ิอด้วย เเต่ผมไม่ได้เคลียดนะ หลังจากได้ยาดีขึ้นนะครับไม่เจ็บเลือดไม่สาด 1 อาทิตย์หมอนัด สรุปไปก็หาย เเละกลับด้านมือเปล่า เเต่สองอาทิตย์ ต่อมาเอาอีกเเล้วเมิงเอาอีกเเล้วหรอเมิงยังไม่สิ้นซาดสินะ ไปอีกรอบหาหมอคนเดิมเอาล่ะสเต็ปเดิม ยาตัวเดิม เเต่ครั้งนี้ผมพูดเรื่องการผ่าตัดนะ เเต่หมอเหมือนไม่อยากให้ผ่าพร้อมทั้งบอกว่าโรคนี้ไม่อันตรายเเค่ทำให้เจ็บ ไม่มีทางหาย เพระามันได้ฉีกไปเเล้ว ผมรู้สึกแบบหงุดหงิดในใจเเต่ก็ไม่ได้อะไรมากเพาะคิดว่าหมอคงคิดมาดีเเละหล่ะเชื่อหมอเถอะหมอเรียนมา5555 ก็กลับไปกินยา หายสักสองอาทิตย์ เอาอีกเเล้ว!!!! เมิงกลับมาอีกเเล้วหรอ ครั้งนี้ใจกล้าไปเลยร้องขอผ่า ไปถึงนัดหมอ สรุปหมอติดผ่าตัดใหญ่ไปถึง9โมงพยาบาลบอกหมอติดผ่าใหญ่(หมอเป็นศัลยเเพทย์ทางเดินอาหาร) เลยเอาว่ะรอก็รอ จะได้ไม่ต้องเริ่มใหม่ ผมก็ถามพยาบาลว่าผมไม่อยากเปลี่ยนหมอครับเพระาว่ากลัวต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ แต่พยาบาลสาวคนสวยบอกว่า ส่งต่อเคสกันได้เพราะมีประวัติการรักษาหมดในเเต่ รพนี้ผมว่าดีนะดูเป็นระบบผสานการใช้งานคอมพิวเตอร์กะเวระเบียนเเบบจดได้ดี ข้อมมูลครั้งก่อนของหมอคนเก่า รูปวาดแผลอะไรต่างๆบลาๆ สแกนอยู่ครบหมดในคอม เเต่อาจจะเป็นเเบบนี้ทุก ที่ก็เป็นได้ มาๆเข้าเรื่องต่อ พอเปลี่ยนหมอคนใหม่ท่านนนี้ท่านเป็นหมอายุประมาณ40ต้นๆ เป็นศัลยแพทย์ทั่วไปนะครับ คุณหมอใจดีนั่งรอในห้อง เเละดูเเผลด้วยความใจเย็นเเละนิ้มนวลเเละบอกว่าเราเป็น Anal fissurs เหมือนเดิมและจะสั่งยา  เป็นยากลายกล้ามเนื้อ เหมือนเดิมผมเลยเล่าอาการจาก  รพ เก่าๆให้ฟังท่านบอกว่า หมอบอกงั้นผ่าเถอะเพราะกระทบการใช้ชีวิต เเละอย่างที่บอกไม่หายเเต่บรรเทาให้ทุเลาเดี๋ยวก็กลับมากอีก หมอบอกคิวหมอว่าอีกสามวันข้างหน้า พร้อมเลยไหม ผมไม่ทันได้เตรียมใจ เเต่ถึงขณะนี้เเล้ว เอาเลยผ่าซะจะได้จบๆ จากนั้นก็ส่งไปห้องการเงิน และ เลขที่ออก 5x,xxx เเพงนะเเต่ยังถูกกว่า รพ เก่า จากนั้นกลับบ้านพร้อมยาเเก้อักเสบเเละฆ่าเชื้อ 
 
>>>>>ใครที่ skip มา เริ่มอ่านตรงนี้ครับ <<<<<
 
วันผ่า งดน้ำงดอาหารตามปกติตื่นมาก็อากาศสดใสมากไป รพ ตั้งเเต่ 7 โมง เเต่ผ่าเเต่ในใจตื่นเต้นนิดๆเพราะต้องบล๊อคหลังได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาจาก pantip ว่าเจ็บมหันต์ มาถึงก็เจาะเลือด ให้น้ำเกลือนอนรอที่ห้องพัก ประมาณ 10 โมง พยาบาลก็มาสวนทวารก็ให้การสวนก็ให้นอนตะเเคงเเล้วเอาสายจิ้มเข้าไปเเล้วปล่อยให้น้ำเข้าไป รู้สึกอย่างไรก็ต้องเก็บอั้นเอาไว้จะมาพรวดต่อหน้าพยาบาลไม่ได้ จากนั้นก็ไปเข้าห้องน้ำปวดถ่ายมากๆสงสัยน้ำดันเลยปล่อยเต็มที่เเต่ไม่ได้เบ่งนะครับต้องคอยขมิบไว้เพราะมันยังเป้นเเผลอยู่เลยเอาวะไหนก็จะผ่าเเละลิ้มรสความเจ็บหน่อบเปงไงผมเลยเบ่งเต็มที่ พรวดน้ำตาเเทบไหล จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นชุดผ่าเป็นนอนรอสักพักก็มีเวรเปลมาพาเราไปห้องผ่า ในห้องผ่าก็มีพยาบาลประมาณ 6 นางหน้าตาน่ารักขาวสวยทุกคน ก็จับเราห่มผ้าเขียวๆ นอนบนเตียงผ่าซึ่งทั้งหัวทั้งเท้าเลยเตียง ด้วยความสูงผม 185 นึกเเล้วขำเเล้วก็ถอดกางเกงตามระเบียบอายมากไม่เคยเเก้ผ้าต่อหน้าใคร เเล้วนั้นก็นอนตะเเคง จากมีป้าหมอวิสัญญีเสียงดุดุ เเต่ดูใจดี ที่เหล่าพยาบาลเรียกว่าอาจารย์หมอมาเเล้วพูดด้วยเสียงเรียบว่านอนตะแคงโก่งหลังให้ได้มากที่สุดเพื่อให้ยาเข้าไขสันหลัง ถ้าโก่งเข้าชิดอกจะไม่เจ็บ ผมก็ให้ควาร่วมมือเต็มที่เพราะกลัวเจ็บ เข็มเเรกความรู้สึกเหมือนมดกัด เหมือนจะเข็มเล็กๆ ให้ชาก่อน ไม่เจ็บพอเริ่มชาก็เริ่มลงเข็มใหญ่ไม่เจ็บเลยนะเต่เเค่มีความรู้สึกว่าเข็มทิ้มหลังมันเป็นเค่ความรู้สสึกเเต่ไม่มีความเจ็บ มาคิดในใจไม่เห็นเหมือนในที่เขารีวีวไว้เลยกลัวไปเอง จากนั้นพอยาเริ่มเดินมีความรู้สึดร้อนผ่าวที่หลัง เเละท่องล่างเริ่มชา พยาบาลรีบจัดท่าเพระาถ้าชาเเล้วจะขยัยไม่ได้ผมน้ำหนักมากกลัวเขายกไม่ไหวเลยให้ความร่วมมือเต็มที่ จากนั้นรอสักพักหมอคนเดิมที่หน้าตาใจดีเดินเข้ามาบอกว่าเดี่ยวจะผ่าตัดนะเป็นการผ่าตัดขยายกล้ามเนื้อทวาร บลาๆ จำไม่ค่อยได้เเล้วจบด้วยคำว่าแปบเดี๋ยวก็เสร็จ ก็เริ่มผ่า พยาบาลคนนึงอายุประมาณ30 ฟิวเเบบพี่สาวมาให้กำลังใจในห้องผ่า55 ก็มาอยู่กับเราข้างหน้ากับเรา ให้นึกถึงเตียงผ้าขาหยั่งที่มีผ้ากันเป็นฉากกลางตัวเรา บรรยากาศในห้องผ่าตัดไม่เคลียดเลยครับ มีเสียงการส่งพูดการตอบรับส่งเครื่องมือ เสียงพยาบาลคอยพูดคุยกับอาจารย์หมอเรื่องผิวหนังกล้ามเนื้อ บลาๆ ผมชอบนะเพระาครั้งนึงผมเคยอยากเป็นศัลยแพทย์ เอาหล่ะครับเวลาดำเนินไปสักครึ่ง ชม เสร็จเเล้ว หมอก็เดินมาบอกข้างหน้าเเล้วบอกว่าเดี๋ยวจะตึงๆระบมก้นสักอาทิตย์นะ เเล้วก็เข็นออกจากห้องผ่าตัดไปรอในห้องเฝ้าสังเกตุอาการอะไรสักอย่างประมาณ หนึ่งชั่วโมงได้ครับ ขยับตัวไม่ได้ พอครบเวลาเเล้วก็เข็นมานอนในห้องพักพื้น ผ่าเสร็จบ่ายโมงพยาบาลสั่งเด็ดขาดว่า ให้นอนราบห้ามลุกนั่งห้ามลงเดินจนกว่าจะครบ 10 ชม ซึ่งลุกได้หลังเที่ยงคืน เวลาล่วงเลยไปสักสอง สาม ชั่วโมง พยาบาลก็มาถามว่า ปวดฉี่เเล้วยังคะ  ผมเลยบอกว่ายัง เเล้วเดินกลับไปด้วยคำว่าเดี่ยวกลับมากอีกชั่วโมงถ้ายังไม่ฉี่ก็ต้องสวนเเล้วนะ ผมนี้พอจะเริ่มกระดิกเท้า เริ่มปวดฉี่ เริ่มเเน่นตรงหัวหน่าว ได้ก็ให้เเม่หยิมกระบอกฉี่มาให้เเล้วพยายามเเบ่งได้ผ้าหม่ก็ค่อยๆ ออกทีละนิดละนิดในท่านอนเเบบนั้น ระหว่างนอนรอยังดีที่มีไอเเพดไว้เล่นแก้เหงา พอมาถึงเวลาที่ลุกได้ ก็ลุกไปเข้าห้องน้ำเพราะรู้สึกปวดถ่ายมากๆ เลยไปถ่ายสรุปว่าถ่ายออกมานิดเดียวน้อยมากๆ เเล้วถ่ายเป็นผ้าก็อสออกมาด้วย สงสัยว่าหมอคงจะยัดไว้ซับเลือด หิวมากๆตอนเที่ยงคืนน เเม่ก็หลับเเล้วเลยซัดน้ำ รพ ไปสองขวด พอเริ่มลุกอาการปวดระบบแผลก็เริ่มมา จนต้องร้องขอยา (ได้ยินหมอสั่งพยาบาลว่า ปวดมากให้มอรฟีนร์) พยาบาลไม่ได้บอกหร่อกครับว่าเป็นมอรฟีนร์ เเต่ฉีดไปเเล้วเย็นตามเส้นเลือตั้งเเต่เเขมาหัวไหล่เลยฉีดได้ไม่ถึงสิบนาทีก็หายจากการเจ็บเลยครับ ยังกับเป็นยาวิเศษเลยเย็นสบายทั้งตัวเเล้วเคล้มหลับไปเลย พอตื่นเช้ามา ไม่เจ็บเท่าไหร่ครับตึงๆ หมอบอกว่าชำระล้างได้ตามปกติเลยเเต่อย่าฉีดเเรง ไหมจะหลุดไปเองในหนึ่งอาทิตย์ เก็บของ เเล้วก็ชำระเงินกลับบ้าน
 
เดี๋ยวมาต่อนะครับ อาจจะมีคำผิดบ้าง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่