Perfectionist ที่ผิดพลาด#เตือนตัวเอง

วันนี้หลังจากได้อ่านหนังสือ เกี่ยวกับการให้เลิกเป็นคน Perfectionist  แต่พอมันเจอเหตุการที่เราทำผิดขึ้นมาจริงๆสิ่งที่อ่านมาก็ไร้ประโยชน์ การอ่านอย่างเดียวคงไม่พอ เราอาจจำเป็นต้องฝึกตัวเองให้เลิกคิด ซึ่งเอาจริงๆแล้ว คนที่เป็น pefectionist หมายถึงคนที่ต้องเพอร์เฟ็คทุกเรื่อง พอไม่ได้อย่างที่ตัวเองหวังจะรู้สึกแย่มาก แบบนี้รึปล่าว? ถ้ายึดตามนิยามนี้ ผมคิดว่าตัวเองเป็น perfectionist เพราะพอคิดไปคิดมาแล้วมันก็คาบเกี่ยวระหว่าง การเป็นคนคิดมาก คนที่วิตกกังวลต่อสิ่งๆนึง ซึ่งก็ตัวผมเองอีก

    คำว่า perfectionist ที่เราเคยได้ยินมาตั้งแต่เด็ก มันดูเป็นคำที่สวยหรู เท่ห์ ดูเป็นความหมายเชิงบวกมากกว่าลบ แต่เชื่อเถอะว่า มันไม่ใช่เรื่องน่าภูมิใจเลย แน่นอนว่าเราจะตั้งใจเต็มที่กับทุกอย่าง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่พอมันผิดพลาดเรากลับรู้สึกแย่มากๆ แม้มันจะเป็นแค่จุดสีดำจุดเดียวบนกระดาษขาว เราก็จะมองกระดาษแผ่นนั้นมันคือสีดำ  ลองมาดูกันว่าจะหาทางออกยังไงได้บ้าง?

    เมื่อสำรวจภายในจิตใจแล้ว เรารู้สึกอยากได้รับการยอมรับจากทุกคน ยิ่งภาพที่ทุกคนมองมาว่าเราต้องเป็นคนเก่ง เราเองก็ยิ่งรู้สึกคาดหวังกับมัน ว่าเราต้องเป็นแบบนั้น พอเราพลาด เรากลัวว่าทุกคนจะมองเราเปลี่ยนไป  กลัวจะไม่ได้เป็นคนเก่งในสายตาเพื่อนๆ  เมื่อเราทำผิดพลาดสิ่งแรกที่เราจะโทษคือ โ?ษตัวเอง ว่าทำไมไม่ได้เรื่องแบบนี้ ทำไมเป็นไม่รอบคอบ รู้สึกแย่กับตัวเอง  แต่พอมองดีๆ จะเห็นว่า มันมีปัจจัยอื่นอีกที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ ไม่ใช่มาจากตัวเราคนเดียว ตัวเราเองได้ทำสิ่งที่ตั้งใจไว้แล้ว และคนอื่นอย่างน้อยเขาได้เห็นความพยายามนั้น

   สิ่งที่เราจะนำมาปรับปรุงคือ   
          สิ่งสำคัญคือ เราจะเอามะนมาปรับใช้ยังไงได้บ้าง นำมาพัฒนาปรับปรุงตัวเองได้ยังไง  อย่างเรื่องที่เกิดขึ้น ผมจะทำตัวเองให้รอบคอบมากขึ้น ไม่ผิดเรื่องเดิมซ้ำสอง  สิ่งที่เราทำผิดพลาดมันอาจจะเป็นแค่จุดเล็กๆ ที่มันอาจจะไม่ได้ส่งผลกับเนื้องาน หรือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในงานนั้นๆก็ได้ สมมุติเราไปเดทกับแฟน เเล้วซุ่มซ่ามมากๆ จนทำให้ตัวเองอายต่อหน้าแฟน ถามว่าแฟนจะเก็บมาคิดมากรึปล่าว? คำตอบคือ " ไม่ " แฟนเราคงจะดีใจมากกว่าเ ที่เราเจียดเวลางานมาเพื่อคนที่เรารัก มาเจอยังดีกว่าไม่เจอ แฟนเรายังคงแฮปปี้มีความสุข แถมตลกกับสิ่งที่เราทำ อันนั้นต่างหากคือสิ่งที่มันสำคัญที่สุด

       หัดปลงๆไปบ้าง ไม่มีอะไรที่มันเป็นดั่งใจไปทุกอย่างหรอก เราต้องเลือกหยิบสาระให้ถูก  อันไหนที่เรามองว่าเป็นความผิดพลาดที่ไม่ได้เป็นสาระสำคัญที่สร้างผลเสียมากๆต่อเรา ก็ไม่ต้องเก็บมันมาคิดให้รกสมอง อาจจะมีแต่เราก็ได้ที่คิดมาก ผู้ที่ได้เห็นได้ฟัง เขาอาจจะไม่ได้คิดถึงความผิดพลาดนี้เลยก็ได้   ถ้าเรายังคงสิ่งที่สำคัญอยู่ได้แค่นั้นก็พอแล้ว   เช่นเดียวกันถ้าเกิดข้อผิดพลาดเรามองว่ามันใหญ่มาก ก็จำไว้ว่าจะไม่ทำอีก มองหาสาเหตุของมันให้เจอ อย่างของผม สาเหตุคือเป็นคนไม่รอบคอบ ที่ไม่รอบคอบเพราะสมาธิสั้นหลุดบ่อย ทำให้ตัดสินใจได้ไม่ดีพอ

        เลิกคิดว่าคนอื่นคิดยังไงกับเรา เราต้องแยกเป็นสองประเด็น 1คือ ปัญหาของเราที่เราแก้เองได้ คือการมองหาต้นเหตุของปัญหา และพัฒนาตัวเอง   2คือ ปัญหาที่เราควบคุมไม่ได้ เช่น คนอื่นจะคิดยังไงกับเรา งานจะเป็นยังไงต่อไป เราไม่สามารถไปทำอะไรกับมันได้ ผ่านมาแล้วให้มันผ่านไป

    เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่อง ที่ค่อนข้างเข้าใจได้ง่าย แต่การลงมือทำนั้นยาก มีแต่ต้องฝึกฝนตัวเองต่อไปเรื่อยๆ แล้วธรรมชาติจะสอนเราเองว่าเราต้องปรับตัวทางไหน ขอบคุณครับ ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่