เนื่องจากเราได้ทำประกันสุขภาพของกรุงไทย AXA iHealthy แผน Diamond ตั้งแต่ปี 2019 กลางปี เบี้ยรายปีอยู่ที่ปีนึงประมาณ 4x,xxx บาท ซึ่งเราก็คาดหวังสูงเกี่ยวกับการบริการ หรือความรวดเร็วในการเคลม ถ้าจะต้องเคลมในอนาคต ตัวของเราเองนั้นปกติไม่ค่อยได้เจ็บป่วย หรือเข้าโรงพยาบาลเลย ตั้งแต่เกิดมาแทบนับครั้งได้ที่จะไปหาหมอ ถ้าเป็นไข้หวัดธรรมดาก็แค่ทานยานอนพัก เพราะเป็นคนไม่ค่อยชอบเข้าโรงพยาบาลเท่าไหร่ด้วยซ้ำ
ตั้งแต่จ่ายเบี้ยมาไม่เคยเคลมใดๆทั้งสิ้น จนกระทั่งเดือนที่แล้ว เราไปรักษาด้วยโรคนิ้วล็อค ที่คลินิคที่เป้นแพทย์ทางเลือกที่หนึ่ง ใช้วิธีฝังเข็มทานยาจีน ซึ่งเราทราบดีว่าในแผนกรมธรรม์ที่ถือสามารถเบิกได้ปีละไม่เกิน 5,000 บาท โดยเงื่อนไขที่ใช้เบิกคือใบรับรองแพทย์และใบเสร็จรับเงิน และในวงเงินนี้ถ้าคำนวนแล้วเราจะเคลมการรักษาได้ประมาณ 3 ครั้ง โดยครั้งแรกที่รักษาเราเคลมไปด้วยยอดเงิน 2,100 บาท ใช้เวลาเพียง 3 วันก็อนุมัติ แต่พอหลังจากนั้นอาทิตย์กว่าเราได้เคลมไปอีกรอบด้วยวงเงิน 1,500 บาท จนเวลาผ่านไป 1 อาทิตย์ เรื่องก็เงียบหาย จนวันนี้เราต้องโทรไปตามเรื่องเอง
โดย call center ที่รับสายแรกก็แจ้งว่าฝ่ายสินไหมลงรายละเอียดว่าจะต้องใช้ใบเอ็กซ์เรย์ ซึ่งแพทย์ทางเลือกทางฝ่ายสินไหมของบริษัทควรที่จะมีความรู้ว่าการรักษาไม่ใช่แผนปัจจุบันถึงจะมาขอเอกสารเอ็กซ์เรย์ได้ พอเราได้แจ้งไปว่าของเราแพทย์ทางเลือกนะคะ จะให้ไปหามาจากไหน ทาง call center จึงรีบโอนให้ฝ่ายสินไหมตอบแทน ฝ่ายนั้นก็ขอเปลี่ยนเอกสารเป็นประวัติการรักษา โดยต้องให้เราไปขอที่คลินิคเอง คือไม่เข้าใจที่ว่าทำไม axa ต้องให้ลูกค้าเป็นคนโทรไปตามเคสเอง ถ้าไม่ตามคือจะทราบการอัพเดทใดๆจนกว่าการแจ้งทางจดหมายมาถึงซึ่งใช้เวลานาน และไม่ก็ทราบว่าการเคลมยอดแค่ 5,000 บาท การรักษาแค่ 3 ครั้งกับคุณ ทำไมต้องถึงขั้นขอประวัติการรักษา
บอกตามตรงว่าเราผิดหวังกับ axa มากๆ และคิดว่าปีนี้หมดกรมธรรม์คงไม่ต่อแน่นอน และคงบอกเพื่อนที่เราเคยแนะนำให้ทำประกันนี้ย้ายออกทั้งหมด เพราะเคลมยากกับยอดวงเงินแค่ 5,000 บาท ต้องทั้งตามเรื่องและขอเอกสารเพิ่ม รอนาน ถ้าเราไม่ตามยอดนี้คงไม่ต่ำกว่า 2 อาทิตย์ เราจึงอยากมาเตือนหลายๆท่านที่คิดจะทำประกันแผนนี้ให้คิดดีๆ เงินที่จ่ายต่อปีค่อนข้างสูง หรือเราอาจจะหวังมากเกินไปหน่อยว่าเราเคลมยังไม่ถึง 10% ของยอดที่เราจ่ายค่าเบี้ยไปทั้งหมดเลยคงไม่ยาก
สุดท้ายหากท่านใดเข้ามาอ่านแล้วเคยทำประกันของ PRUhealth Super Strong แล้วเคยเคลมช่วยแนะนำหน่อยค่ะว่าดีไหม เพราะเราอยากจะย้ายไปใช้ของที่นี่ค่ะ เคยอ่านเจอว่าเคลมจ่ายง่ายกว่า และอนุมัติไว
ขอบคุณมากค่ะ
วันนี้มาเตือนสำหรับคนที่คิดจะสมัครประกันสุขภาพของ AXA iHealthy
ตั้งแต่จ่ายเบี้ยมาไม่เคยเคลมใดๆทั้งสิ้น จนกระทั่งเดือนที่แล้ว เราไปรักษาด้วยโรคนิ้วล็อค ที่คลินิคที่เป้นแพทย์ทางเลือกที่หนึ่ง ใช้วิธีฝังเข็มทานยาจีน ซึ่งเราทราบดีว่าในแผนกรมธรรม์ที่ถือสามารถเบิกได้ปีละไม่เกิน 5,000 บาท โดยเงื่อนไขที่ใช้เบิกคือใบรับรองแพทย์และใบเสร็จรับเงิน และในวงเงินนี้ถ้าคำนวนแล้วเราจะเคลมการรักษาได้ประมาณ 3 ครั้ง โดยครั้งแรกที่รักษาเราเคลมไปด้วยยอดเงิน 2,100 บาท ใช้เวลาเพียง 3 วันก็อนุมัติ แต่พอหลังจากนั้นอาทิตย์กว่าเราได้เคลมไปอีกรอบด้วยวงเงิน 1,500 บาท จนเวลาผ่านไป 1 อาทิตย์ เรื่องก็เงียบหาย จนวันนี้เราต้องโทรไปตามเรื่องเอง
โดย call center ที่รับสายแรกก็แจ้งว่าฝ่ายสินไหมลงรายละเอียดว่าจะต้องใช้ใบเอ็กซ์เรย์ ซึ่งแพทย์ทางเลือกทางฝ่ายสินไหมของบริษัทควรที่จะมีความรู้ว่าการรักษาไม่ใช่แผนปัจจุบันถึงจะมาขอเอกสารเอ็กซ์เรย์ได้ พอเราได้แจ้งไปว่าของเราแพทย์ทางเลือกนะคะ จะให้ไปหามาจากไหน ทาง call center จึงรีบโอนให้ฝ่ายสินไหมตอบแทน ฝ่ายนั้นก็ขอเปลี่ยนเอกสารเป็นประวัติการรักษา โดยต้องให้เราไปขอที่คลินิคเอง คือไม่เข้าใจที่ว่าทำไม axa ต้องให้ลูกค้าเป็นคนโทรไปตามเคสเอง ถ้าไม่ตามคือจะทราบการอัพเดทใดๆจนกว่าการแจ้งทางจดหมายมาถึงซึ่งใช้เวลานาน และไม่ก็ทราบว่าการเคลมยอดแค่ 5,000 บาท การรักษาแค่ 3 ครั้งกับคุณ ทำไมต้องถึงขั้นขอประวัติการรักษา
บอกตามตรงว่าเราผิดหวังกับ axa มากๆ และคิดว่าปีนี้หมดกรมธรรม์คงไม่ต่อแน่นอน และคงบอกเพื่อนที่เราเคยแนะนำให้ทำประกันนี้ย้ายออกทั้งหมด เพราะเคลมยากกับยอดวงเงินแค่ 5,000 บาท ต้องทั้งตามเรื่องและขอเอกสารเพิ่ม รอนาน ถ้าเราไม่ตามยอดนี้คงไม่ต่ำกว่า 2 อาทิตย์ เราจึงอยากมาเตือนหลายๆท่านที่คิดจะทำประกันแผนนี้ให้คิดดีๆ เงินที่จ่ายต่อปีค่อนข้างสูง หรือเราอาจจะหวังมากเกินไปหน่อยว่าเราเคลมยังไม่ถึง 10% ของยอดที่เราจ่ายค่าเบี้ยไปทั้งหมดเลยคงไม่ยาก
สุดท้ายหากท่านใดเข้ามาอ่านแล้วเคยทำประกันของ PRUhealth Super Strong แล้วเคยเคลมช่วยแนะนำหน่อยค่ะว่าดีไหม เพราะเราอยากจะย้ายไปใช้ของที่นี่ค่ะ เคยอ่านเจอว่าเคลมจ่ายง่ายกว่า และอนุมัติไว
ขอบคุณมากค่ะ