ปวดหลัง ภาวะธรรมดาที่น่ากลัวกว่าที่เราคิด +_+

ปวดหลัง โรคยอดฮิตของชาวออฟฟิศ วันนี้ น้องซาลดร้า มีข้อมูล ข่าวสารดีๆ มาเล่าให้เพื่อนพ้องชาวpantipได้ฟัง ค่ะ. ขอบคุณข้อมูลข่าวสารดี ๆ จาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ปวดหลัง อาการเจ็บป่วยที่ดูเหมือนธรรมดา เป็นภาวะที่พบได้ทั่ว ๆ ไปแต่คุณรู้มั้ยว่าอาการปวดหลังที่ดูเหมือนธรรมดาอาจไม่ธรรมดาอย่างที่คุณคิด ปวดหลังอาจเป็นได้ตั้งเเต่ กล้ามเนื้ออักเสบ หมอนรองกระดูกปลิ้นจนถึงภาวะเนื้องอกหรือการติดเชื้อได้

###แล้วจะทราบได้อย่างไรว่า อาการปวดหลังที่เป็นอยู่ เป็นอะไร##
 
❗️รู้สึกปวดล้า ๆ เมื่อย ๆ จากการทำงานงานหนัก ยกของหนัก สังเกตได้ว่าบริเวณผิวหนังตรงนั้น บวม รู้สึกผิวอุ่นมากกว่าปกติ คลำแล้วพบการตึงของกล้ามเนื้อเป็นแนวกล้ามเนื้อ อาจเป็นสัญญาณของ “ กล้ามเนื้ออักเสบ ”
❗️ปวดตรงกลางแนวกระดูกสันหลังลึกๆ อาจมีอาการปวดร้าว ชาร้าว อ่อนแรง รู้สึกแปล๊บๆ เหยียบพื้นเเล้วรู้สึกหนาๆกว่าปกติ อาจเป็น “ หมอนรองกระดูกอักเสบ เคลื่อนหรือกดเบียดเส้นประสาท ”
❗️ ปวดหลังที่ระบุตำแหน่งยาก ปวดมากๆในตอนกลางคืนจนตื่นมา อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น มีไข้ ปัสสวะแสบขุ่น ปวดท้อง แน่นหน้าอก อาจเป็น “ ภาวะเนื้องอกหรือติดเชื้อ ”

แนวทางการดูแลตัวเองเบื้องต้นเมื่อมีอาการปวด

ปวดหลังแล้วควรทำอย่างไร 🌟

เบื้องต้นควรสังเกตก่อนว่าอาการปวดหลังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร  มีสาเหตุจากอะไร เช่น พึ่งไปเล่นกีฬามา ยกของหนัก หรือมาจากการทำกิจกรรมต่อเนื่องเป็นเวลานานโดยไม่พัก ให้ปรับกิจกรรมในชีวิตประจำวันก่อน เช่น การนั่งโดยให้นั่งลงน้ำหนักให้เต็มก้น ไม่นั่งไขว่ห้าง ปรับโต๊ะทำงานให้อยู่ในระดับสายตา ไม่ก้มหลังมากเกินไประหว่างนั่งทำงานหรือก้มตัวลงยกของ ให้ประคบเย็นในกรณีที่การเจ็บปวดพึ่งเกิดขึ้นเพื่อลดอักเสบ หากเป็นนานเรื้อรังแล้วให้ประคบอุ่นเพื่อให้เกิดการคลายตัวเเละเพิ่มการไหลเวียนเลือด

 
ท่าออกกำลังกายเบื้องต้นสำหรับผู้ที่มีอาการปวดหลัง 🌟

✅ ท่าฝึกการทำงานกล้ามเนื้อแกนกลาง (Core muscles exercise)ให้ผู้ป่วยนอนหงายชันเข่า  ขมิบก้น(ให้แน่นท่ีสุด) เกร็งหน้าท้อง(ให้มากที่สุด) กดหลังติดเตียง แล้วดึงสะดือลงไปให้ลึกที่สุด  ให้รู้สึกว่าสะดือชิดกับเตียงมากที่สุด  ค้างไว้ 5-10 วินาที จำนวน 5-30 ครั้ง* 
✅ ท่ายืดกล้ามเนื้อหลัง (Side lying knee to chest )ให้ผู้ป่วยนอนตะแคงร่วมกับงอเข่าสองข้างเข้าหาลำตัวและใช้มือกอดเข่าเข้าหาลำตัวค้างไว้ ให้รู้สึกตึงๆที่หลัง ค้างไว้ 10-20 วินาที จำนวน 5-30 ครั้ง* 
✅ การออกกำลังกาย Mc Kenzie exercise ให้ผู้ป่วยนอนคว่ำ วางมืออยู่ตรงระดับอก ค่อยๆใช้มือดันลำตัวขึ้นช้าๆ ศอกเหยียดตรง ค้างไว้ เท่าที่รู้สึกตึงๆที่หลังเมื่อรู้สึกสบายขึ้นแล้วค่อย ๆ ผ่อนตัวลงนอนคว่ำกับพื้น รวมประมาณ 5 ครั้งต่อวัน* ท่านี้สามารถลดเเรงดันที่ภายในช่องหมอนรองกระดูกสันหลังได้  ช่วยในเรื่องหมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้นทับเส้นประสาท  

 * หมายเหตุ ความถี่และจำนวนเวลาในการออกกำลังกายให้ปรับตามความสามารถของร่างกาย ไม่ฝืนทนถ้ามีอาการเจ็บเพิ่มขึ้น
.
การออกกำลังกายสามารถช่วยยืดกล้ามเนื้อที่ตึงให้มีความยืดหยุ่นที่ดีขึ้น มีการไหลเวียนเลือดทั่วร่างกายที่มากขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อที่ตึงผ่อนคลายลง อาการปวดก็จะดีขึ้น ถ้าออกกำลังกายแล้วอาการปวดไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 อาทิตย์ หรือปวดเพิ่มขึ้นอาจเป็นไปได้ว่ามีความผิดปกติของโครงสร้างที่ซับซ้อน ให้หยุดการออกกำลังกายและมาพบนักกายภาพบำบัดเพื่อทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียดและออกแบบการรักษาที่เหมาะสมต่อไป



แนวทางการรักษา 🌟
        ผู้ป่วยจะต้องได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุว่า อาการปวดมาจากโครงสร้างใด ?  มีปัญหาแบบไหน ? เพื่อจะได้ออกแบบการรักษาอย่างเหมาะสมและตรงจุด ส่วนใหญ่อาการปวดเป็นเพียงปลายเหตุ ต้นเหตุมักมาจากความไม่สมดุลของร่างกาย หรือการสะสมความผิดปกติจากการใช้งานในท่าทางที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน จนส่งผลให้เกิดความผิดปกติชองโครงสร้างร่างกาย เช่น เข่าบิด(Knee abnormal alignment) กระดูกสันหลังคด (Scoliosis) สะโพกเอียง(Pelvic drop) สะบักลอย(Wing scapula) ความตึงตัวของกล้ามเนื้อผิดปกติ(Tight /Weakness muscle) ฯลฯ เมื่อโครงสร้างผิดปกติก็ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บของร่างกายได้ง่าย 

การรักษา 
1. Hot/Cold pack เลือกประคบอุ่นหรือเย็น
2. คลื่นไฟฟ้าเพื่อการรักษา Electrotherapy เป็นคลื่นไฟฟ้าเพื่อการรักษา สามารถลดอาการปวดเเละเร่งการไหลเวียนเลือด การกระตุ้นระบบประสาท ฝึกการทำงานของกล้ามเนื้อให้ถูกต้อง (Motor Relearning) ชะลอการฝ่อลีบของกล้ามเนื้อ (Delay muscle atrophy) และลดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ (Release muscle tightness)
3. Ultrasound therapy เป็นคลื่นเสียงความถี่สูงที่ส่งเข้าไปในชั้นเนื้อเยื่อที่บาดเจ็บ ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนของโมเลกุล เกิดความร้อนลึก ที่ใช้ในการรักษาโครงสร้างที่มีอาการอักเสบและเร่งกระบวนการซ่อมแซมของร่างกาย (Healing process)
4. การจัดกระดูกและข้อต่อ (Manual technique)เพื่อปรับสมดุลของร่างกายให้ใกล้เคียงปกติที่สุด เมื่อโครงสร้างของร่างกายอยู่ในแนวสมดุลก็จะส่งผลให้ร่างกายบาดเจ็บลดลง
5. อื่นๆ เช่น K-taping / Traction / Exercise therapy เป็นต้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่