การเลือกซื้อโน้ตบุ๊คมือสอง

กระทู้นี้เขียนขึ้นมาจากประสบการณ์ของผมเองที่ขายโน้ตบุ๊คมือสองมานับร้อยเครื่อง ผมจะมาเผยเคล็ดลับนะครับว่าควรเลือกซื้อยังไงให้ตรงกับการใช้งานมากที่สุด เนื่องจากตั้งแต่ปีใหม่ที่ผ่านมานี้ที่โควิดระบาดอีกรอบ ส่งผลให้โน้ตบุ๊คมือสองขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ส่วนโน้ตบุ๊คมือหนึ่งหลังจากที่ขาดตลาดอยู่แล้วก็ยิ่งขาดตลาดไปอีก ดังนั้นพวกเครื่องหรือซีพียูที่ยกมาเป็นตัวอย่างมันก็จะเก่าหน่อยนะครับ ใครที่กำลังหาซื้อมือหนึ่งอยู่ก็อ่านได้นะครับ อ่านเป็นแนวทางดู กระทู้นี้ยังไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ ผมจะแก้ไขเรื่อย ๆ นะครับ
 
บทที่ 1 ซีพียู ส่วนสำคัญในการพิจารณา
            เมื่อจะซื้อโน้ตบุ๊ค ทั้งมือหนึ่งและมือสอง หลายคนมักจะถาม มันแรงไหม ใช้กับโปรแกรมนี้ได้ไหม เล่นเกมนี้ไหวไหม คำตอบคือให้ดูซีพียูเป็นหลักครับ เพราะซีพียูมันเปรียบเสมือนสมองของโน้ตบุ๊ค เครื่องจะเร็วจะลื่นขึ้นอยู่กับซีพียูเป็นอันดับแรก อย่าคิดว่าซื้อมาแล้วจะอัพได้ง่าย ๆ เหมือนคอมตั้งโต๊ะ มันอัพยาก ซื้อแล้วซื้อเลย ดังนั้นก่อนซื้อโน้ตบุ๊คให้เทียบซีพียูก่อนเป็นอันดับแรก โดยซีพียูที่พูดถึงกันอยู่นี้ มาจาก 2 บริษัทคือ Intel กับ AMD ของอินเทลก็จะมี Celeron, Core2Duo, Pentium, Core i3,  Core i5,  Core i7 ส่วนของ AMD ก็จะมี Athlon, A4, A6, A8, A9, A10, FX, Ryzen 3, Ryzen 5, Ryzen 7 ที่นี้จะเทียบยังไงว่าใครแรงกว่าใคร ไม่ยากครับ เอารหัสไปค้น เช่น 
            เครื่องที่ 1 ซีพียูเป็น Pentium B960
            เครื่องที่ 2 ซีพียูเป็น Core i3-3110M
            เครื่องที่ 3 ซีพียูเป็น Core i5-540M
            เครื่องที่ 4 ซีพียูเป็น A4-9120
            เครื่องที่ 5 ซีพียูเป็น Core i3-6100U
วิธีเทียบก็ไปที่ Google พิมพ์รหัสซีพียูแต่ละตัวแล้วเพิ่มคำว่า benchmark เข้าไปในเว็บเขาก็จะมีคะแนนให้ดู ตัวไหนคะแนนเยอะมากก็แรงมาก จากตัวอย่าง คะแนนของแต่ละซีพียูก็จะเป็นดังนี้ 
           เครื่องที่ 1 ซีพียูเป็น Pentium B960 ได้ 870 คะแนน
           เครื่องที่ 2 ซีพียูเป็น Core i3-3110M ได้ 1,581 คะแนน
           เครื่องที่ 3 ซีพียูเป็น Core i5-540M ได้ 1,756 คะแนน
           เครื่องที่ 4 ซีพียูเป็น A4-9120 ได้ 1,257 คะแนน
           เครื่องที่ 5 ซีพียูเป็น Core i3-6100U ได้ 2,610 คะแนน


            จะเห็นได้ว่าเครื่องที่ซีพียูเป็น i3-6100U คะแนนเยอะสุด จึงแรงสุด เห็นไหม ไม่ยากเลย อย่าไปจำว่า i7 ต้องเร็วกว่า i5 หรือ i5 ต้องเร็วกว่า i3 จริงอยู่ถ้าซีพียูมันปีเดียวกัน ถ้าต่างปี แน่นอน ไอ้ตัวที่ใหม่กว่าย่อมแรงกว่า เลขหลังขีดจะบอกคร่าว ๆ ครับว่าอันไหนใหม่อันไหนเก่า อย่าง i3-4XXX นั่นคือ เจน 4 หรือ i5-7XXX นั่นคือเจน 7 อยากจะรู้อายุโน้ตบุ๊คว่าตัวไหนเก่าตัวไหนใหม่ก็ให้ดูเลขเจนนี้แหล่ะ ถ้าเอาชัวร์ก็เอาชื่อกับรหัสมันไปค้น มันจะบอกปีที่วางจำหน้าชัดเจน ลำดับต่อมาเมื่อเราเทียบคะแนนแล้ว ถ้าคะแนนมันใกล้เคียงมาก ๆ เช่น i5-3210M กับ i7-2620M ให้ขยับไปพิจารณาคะแนน Single thread (แถวก่อนหน้าคะแนน CPU Mark) หากยังใกล้เคียงกันอีก ให้ไปดูคะแนนจากหลาย ๆ เว็บมาประกอบการตัดสินใจ เช่น userbenchmark, geeekbench เว็บเหล่านี้ล้วนเป็นเว็บที่เก็บรวบรวมผลการทดสอบซีพียู เราก็เข้าไปดูคะแนนของแต่ละซีพียู ซึ่งเมื่อเข้าไปแล้วปรากฏว่าต่างได้คะแนนสูสีกันอีก นั่นแสดงว่าซีพียู 2 ตัวนี้แรงเท่ากัน นั่นคือจะเอาตัวไหนก็ได้ หากเราคิดได้แบบนี้ แน่นอนครับเราจะได้เครื่องที่ถูกและสเปคดีที่สุดในราคาที่เราจ่ายได้ ลองคิดว่าว่าหาก มี i5 รหัสเมื้อกี้ ลงขาย 5,000 กับ i7 รหัสเมื้อกี้ลงขาย 7,000 เพื่อน ๆ จะเลือกตัวไหน ถ้าไม่เทียบคะแนน คนที่ไม่รู้ก็จะตัดสินใจเลือก i7 เพราะคิดว่าแรงกว่า ทั้งที่จริงมันแรงเกือบเท่ากัน ตัวเลือก i5 จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะถูกกว่า ทำให้เหลือเงินไปอัพแรมหรือ SSD ได้อีก

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่