ปี 2021 เริ่มต้นปีด้วยการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ระลอกใหม่ ซึ่งส่งผลให้พนักงานออฟฟิศต้อง Work from Home กันต่อ หลายบริษัทมีการยืดนโยบาย Work from Home ออกไป หรือบางบริษัทก็บอกเลยว่า “เราอาจจะต้อง Work from Home กันไปตลอดกาล”
ในเมื่อรูปแบบการทำงานเปลี่ยนไป แล้วออฟฟิศของเราทุกวันนี้ยังจะจำเป็นอยู่ไหม JobThai Tips จะขอพาทุกคนมาคุยกับพี่กุ้ง CPO (Chief People Officer) ขององค์กรที่ถูกจัดเป็นหนึ่งในองค์กรที่มีออฟฟิศที่น่าอยู่ที่สุดในโลกอย่าง “dtac” กัน
พี่กุ้งให้สัมภาษณ์ว่าออฟฟิศจำเป็นน้อยลงกว่าเดิม เพราะเราไม่ได้ใช้เวลาอยู่ที่ออฟฟิศมากเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ในอดีตออฟฟิศของ dtac เป็นออฟฟิศที่ถูกจัดให้เป็นสถานที่ทำงานที่น่าอยู่มากที่สุดในโลก เพราะคอนเซปต์เมื่อก่อนที่คนทำงานต้องใช้ชีวิตอยู่ในออฟฟิศมากกว่าที่บ้าน เลยอยากทำ dtac House ให้เป็นบ้านที่สะดวกสบายและมีทุกอย่างอย่างครบครัน เพื่อจุดประสงค์ในการทำงาน และ Lifestyle ต่าง ๆ แต่ในอนาคตคอนเซปต์ของออฟฟิศจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะเราคงไม่อยากมีที่ทำงานที่เอาคนเยอะ ๆ มาอยู่ด้วยกัน และลักษณะของกิจกรรมที่มาทำรวมกันในที่ที่เดียวก็อาจไม่ใช่ไอเดียที่ดี
หลังจากรีโนเวทออฟฟิศ dtac ก็เลยคิดใหม่ทำใหม่ แทนที่จะทำให้ออฟฟิศกลายเป็นบ้านหลังที่สองแบบเมื่อก่อน ก็กลายเป็นว่าบ้านที่เป็นบ้านหลักของพนักงานจะกลายเป็นบ้านจริง ๆ ที่สามารถทำงานได้ ซึ่งออฟฟิศจะกลายเป็นตัวเลือกที่มีความยืดหยุ่น ส่งผลให้ออฟฟิศใหม่ไม่จำเป็นต้องมีขนาดใหญ่เหมือนเดิม อย่างไรก็ตามเมื่อบางอย่างหายไปบางอย่างก็ต้องดีขึ้น อย่างตอนนี้ dtac ก็ซัพพอร์ตคนทำงานด้วยเทคโนโลยีในการเชื่อมต่อ ให้ทุกคนสามารถทำงานด้วยกันได้ดีขึ้น
ส่งผลให้โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) หรือ เครื่องมือการทำงานแบบดิจิทัล (Digital Collaboration Tools) ที่อยู่ในออฟฟิศก็จะต้องก้าวหน้ามากขึ้น อย่างเช่นห้องประชุมที่เก็บเสียงและไม่มีเสียงก้อง ลักษณะของหน้าจอมอนิเตอร์ และไมโครโฟนที่มี Noise Cancellation ซึ่งแม้ว่าออฟฟิศ dtac จะถูกรีโนเวทให้มีขนาดเล็กลงกว่าเดิมแต่ค่าใช้จ่ายหรือความเปลี่ยนแปลงตรงนั้น ก็จะกลายมาเป็นการลงทุนทางเรื่องของเทคโนโลยี ให้พนักงานสามารถทำงานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าเดิม
นอกจากเรื่องของออฟฟิศที่อาจจะเปลี่ยนไปแล้วยังมีประเด็นเกี่ยวกับการทำงานซึ่งจะเป็น New Normal ของการทำงาน ซึ่งแอดมินก็หยิบยกมาเล่าให้เพื่อน ๆ ชาวพันทิปได้อ่านไปพร้อม ๆ กันดังนี้
การสรรหาและว่าจ้างพนักงานที่สะดวกและรวดเร็วมากขึ้นในยุค New Normal
ถึง COVID-19 จะมีผลกระทบต่อการทำงานก็จริง แต่ว่าในการสรรหาพนักงานมันก็ทำให้เกิดกระบวนการใหม่ในการสรรหาเช่นกัน อย่างเช่นเมื่อก่อนเวลาที่มีผู้สมัครที่สำคัญก็จะคิดว่าต้องเจอหน้าเท่านั้นและต้องนัดผู้สมัครมาหลาย ๆ ครั้ง แต่เนื่องจากไม่มีทางเลือกและไม่สามารถเจอหน้ากันได้ dtac เลยปรับว่าจะทำ Video Conference ในการสัมภาษณ์แต่ทำให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดดีกว่า ซึ่งผลลัพธ์ก็สามารถ Connect กับผู้สมัครได้ดีกว่าเดิม เพราะว่าทุกคนจะรู้สึกสะดวกใจกว่าเดิมว่านี่คือวิธีการสัมภาษณ์แบบใหม่
การสรรหาในบางส่วนก็สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ส่วนความท้าทายในการสรรหาบุคลากรที่ใช่และมีทักษะที่เข้ากับองค์กรได้ อันนี้ก็เป็นความท้าทายตั้งแต่ก่อน COVID-19 ระบาดอยู่แล้ว
Performance ของพนักงานระหว่างการทำงานที่ออฟฟิศและการทำงานที่บ้าน
หากจะทำให้การ Work from Home มีประสิทธิภาพ องค์กรก็จะต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องต่าง ๆ ซึ่ง dtac ก็มีความพร้อมในการกำกับดูแลวิธีการทำงานแบบ New Normal ในหลาย ๆ เรื่อง อย่างการจะทำให้มั่นใจว่าแม้ทำงานที่บ้านพนักงานก็ยังสามารถส่งมอบผลงานและรักษา Productivity ได้ dtac ก็จะมีคอนเซปต์ในการดูแลสำหรับหัวหน้างานและพนักงาน ที่ชื่อว่า “Tight-Loose-Tight” ซึ่งมาจาก
Tight: ต้องคุยกันให้เข้าใจ เพื่อรักษาเป้าหมายให้ชัดเจนและเฉพาะเจาะจง
Loose: อิสระในการที่จะทำอะไรก็ได้ เพื่อจะส่งมอบผลงานตามที่ตกลงกันไว้
Tight: คุยกันว่าส่งอะไรไปแล้วและสิ่งนั้นประสบความสำเร็จหรือไม่
คอนเซปต์ง่าย ๆ แบบนี้จะช่วยกำกับให้ Line Manager ใช้เวลาในการสั่งงานให้ชัดเจน เพื่อทำให้ทุกคนไม่สับสนว่าตัวเองต้องทำอะไร ซึ่งก็จะทำให้ Productivity ของทุกคนไม่ตก การทำงานที่บ้านในช่วงแรกอาจเป็นการฝืนความรู้สึกของ Line Manager เพราะเขาอาจติดการทำงานแบบเดิมที่เชื่อว่า ต้องเห็นทีมงานมาออฟฟิศทุกวันถึงแปลว่าทีมงานได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจริง ๆ แล้วคนที่ทำงานเก่ง และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่ที่ไหนเขาก็สามารถทำงานได้ แต่ถ้าเขาเป็นคนที่ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่ที่ไหนเขาก็มีปัญหา ความเชื่อที่ว่า “พนักงานต้องอยู่ข้าง ๆ แล้วถึงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ” จึงใช้ไม่ได้จริง เพราะจากประสบการณในปีที่ผ่านมา แม้ dtac จะทำงานแบบ Work from Home หลายเดือน แต่ก็ยังสามารถเดินหน้าโปรเจกต์ได้อย่างดี และยังสามารถคิดสินค้าและบริการให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อน ๆ คนไหนที่อยากตามไปฟังบทสัมภาษณ์พี่กุ้งแบบเต็ม ๆ สามารถฟังได้ในรายการ Oh My Job! Podcast EP.8: ออฟฟิศยังจำเป็นอยู่ไหมในยุคโควิด? จาก dtac องค์กรที่มีออฟฟิศโดนใจ
คลิก
ถ้าคนทำงานที่บ้านมากขึ้น แล้วแบบนี้ออฟฟิศยังจำเป็นอยู่ไหม?
ในเมื่อรูปแบบการทำงานเปลี่ยนไป แล้วออฟฟิศของเราทุกวันนี้ยังจะจำเป็นอยู่ไหม JobThai Tips จะขอพาทุกคนมาคุยกับพี่กุ้ง CPO (Chief People Officer) ขององค์กรที่ถูกจัดเป็นหนึ่งในองค์กรที่มีออฟฟิศที่น่าอยู่ที่สุดในโลกอย่าง “dtac” กัน
พี่กุ้งให้สัมภาษณ์ว่าออฟฟิศจำเป็นน้อยลงกว่าเดิม เพราะเราไม่ได้ใช้เวลาอยู่ที่ออฟฟิศมากเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ในอดีตออฟฟิศของ dtac เป็นออฟฟิศที่ถูกจัดให้เป็นสถานที่ทำงานที่น่าอยู่มากที่สุดในโลก เพราะคอนเซปต์เมื่อก่อนที่คนทำงานต้องใช้ชีวิตอยู่ในออฟฟิศมากกว่าที่บ้าน เลยอยากทำ dtac House ให้เป็นบ้านที่สะดวกสบายและมีทุกอย่างอย่างครบครัน เพื่อจุดประสงค์ในการทำงาน และ Lifestyle ต่าง ๆ แต่ในอนาคตคอนเซปต์ของออฟฟิศจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะเราคงไม่อยากมีที่ทำงานที่เอาคนเยอะ ๆ มาอยู่ด้วยกัน และลักษณะของกิจกรรมที่มาทำรวมกันในที่ที่เดียวก็อาจไม่ใช่ไอเดียที่ดี
หลังจากรีโนเวทออฟฟิศ dtac ก็เลยคิดใหม่ทำใหม่ แทนที่จะทำให้ออฟฟิศกลายเป็นบ้านหลังที่สองแบบเมื่อก่อน ก็กลายเป็นว่าบ้านที่เป็นบ้านหลักของพนักงานจะกลายเป็นบ้านจริง ๆ ที่สามารถทำงานได้ ซึ่งออฟฟิศจะกลายเป็นตัวเลือกที่มีความยืดหยุ่น ส่งผลให้ออฟฟิศใหม่ไม่จำเป็นต้องมีขนาดใหญ่เหมือนเดิม อย่างไรก็ตามเมื่อบางอย่างหายไปบางอย่างก็ต้องดีขึ้น อย่างตอนนี้ dtac ก็ซัพพอร์ตคนทำงานด้วยเทคโนโลยีในการเชื่อมต่อ ให้ทุกคนสามารถทำงานด้วยกันได้ดีขึ้น
ส่งผลให้โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) หรือ เครื่องมือการทำงานแบบดิจิทัล (Digital Collaboration Tools) ที่อยู่ในออฟฟิศก็จะต้องก้าวหน้ามากขึ้น อย่างเช่นห้องประชุมที่เก็บเสียงและไม่มีเสียงก้อง ลักษณะของหน้าจอมอนิเตอร์ และไมโครโฟนที่มี Noise Cancellation ซึ่งแม้ว่าออฟฟิศ dtac จะถูกรีโนเวทให้มีขนาดเล็กลงกว่าเดิมแต่ค่าใช้จ่ายหรือความเปลี่ยนแปลงตรงนั้น ก็จะกลายมาเป็นการลงทุนทางเรื่องของเทคโนโลยี ให้พนักงานสามารถทำงานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าเดิม
นอกจากเรื่องของออฟฟิศที่อาจจะเปลี่ยนไปแล้วยังมีประเด็นเกี่ยวกับการทำงานซึ่งจะเป็น New Normal ของการทำงาน ซึ่งแอดมินก็หยิบยกมาเล่าให้เพื่อน ๆ ชาวพันทิปได้อ่านไปพร้อม ๆ กันดังนี้
การสรรหาและว่าจ้างพนักงานที่สะดวกและรวดเร็วมากขึ้นในยุค New Normal
ถึง COVID-19 จะมีผลกระทบต่อการทำงานก็จริง แต่ว่าในการสรรหาพนักงานมันก็ทำให้เกิดกระบวนการใหม่ในการสรรหาเช่นกัน อย่างเช่นเมื่อก่อนเวลาที่มีผู้สมัครที่สำคัญก็จะคิดว่าต้องเจอหน้าเท่านั้นและต้องนัดผู้สมัครมาหลาย ๆ ครั้ง แต่เนื่องจากไม่มีทางเลือกและไม่สามารถเจอหน้ากันได้ dtac เลยปรับว่าจะทำ Video Conference ในการสัมภาษณ์แต่ทำให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดดีกว่า ซึ่งผลลัพธ์ก็สามารถ Connect กับผู้สมัครได้ดีกว่าเดิม เพราะว่าทุกคนจะรู้สึกสะดวกใจกว่าเดิมว่านี่คือวิธีการสัมภาษณ์แบบใหม่
การสรรหาในบางส่วนก็สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ส่วนความท้าทายในการสรรหาบุคลากรที่ใช่และมีทักษะที่เข้ากับองค์กรได้ อันนี้ก็เป็นความท้าทายตั้งแต่ก่อน COVID-19 ระบาดอยู่แล้ว
Performance ของพนักงานระหว่างการทำงานที่ออฟฟิศและการทำงานที่บ้าน
หากจะทำให้การ Work from Home มีประสิทธิภาพ องค์กรก็จะต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องต่าง ๆ ซึ่ง dtac ก็มีความพร้อมในการกำกับดูแลวิธีการทำงานแบบ New Normal ในหลาย ๆ เรื่อง อย่างการจะทำให้มั่นใจว่าแม้ทำงานที่บ้านพนักงานก็ยังสามารถส่งมอบผลงานและรักษา Productivity ได้ dtac ก็จะมีคอนเซปต์ในการดูแลสำหรับหัวหน้างานและพนักงาน ที่ชื่อว่า “Tight-Loose-Tight” ซึ่งมาจาก
Tight: ต้องคุยกันให้เข้าใจ เพื่อรักษาเป้าหมายให้ชัดเจนและเฉพาะเจาะจง
Loose: อิสระในการที่จะทำอะไรก็ได้ เพื่อจะส่งมอบผลงานตามที่ตกลงกันไว้
Tight: คุยกันว่าส่งอะไรไปแล้วและสิ่งนั้นประสบความสำเร็จหรือไม่
คอนเซปต์ง่าย ๆ แบบนี้จะช่วยกำกับให้ Line Manager ใช้เวลาในการสั่งงานให้ชัดเจน เพื่อทำให้ทุกคนไม่สับสนว่าตัวเองต้องทำอะไร ซึ่งก็จะทำให้ Productivity ของทุกคนไม่ตก การทำงานที่บ้านในช่วงแรกอาจเป็นการฝืนความรู้สึกของ Line Manager เพราะเขาอาจติดการทำงานแบบเดิมที่เชื่อว่า ต้องเห็นทีมงานมาออฟฟิศทุกวันถึงแปลว่าทีมงานได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจริง ๆ แล้วคนที่ทำงานเก่ง และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่ที่ไหนเขาก็สามารถทำงานได้ แต่ถ้าเขาเป็นคนที่ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่ที่ไหนเขาก็มีปัญหา ความเชื่อที่ว่า “พนักงานต้องอยู่ข้าง ๆ แล้วถึงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ” จึงใช้ไม่ได้จริง เพราะจากประสบการณในปีที่ผ่านมา แม้ dtac จะทำงานแบบ Work from Home หลายเดือน แต่ก็ยังสามารถเดินหน้าโปรเจกต์ได้อย่างดี และยังสามารถคิดสินค้าและบริการให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อน ๆ คนไหนที่อยากตามไปฟังบทสัมภาษณ์พี่กุ้งแบบเต็ม ๆ สามารถฟังได้ในรายการ Oh My Job! Podcast EP.8: ออฟฟิศยังจำเป็นอยู่ไหมในยุคโควิด? จาก dtac องค์กรที่มีออฟฟิศโดนใจ คลิก