"อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังคงเจรจากับโคแวกซ์อย่างต่อเนื่อง และหากมีการปรับเงื่อนไขรวมถึงข้อเสนอที่ประเทศจะได้ประโยชน์ ก็อาจมีการทำข้อตกลงผ่านโคแวกซ์ได้"
ที่มา: สถาบันวัคซีนแห่งชาติ
https://www.facebook.com/realneโwsthailand/posts/881941079305290
ที่มา COVAX สั้นๆ เกิดจากปี 2009 ไวรัส H1N1 ประเทศร่ำรวยได้วัคซีนก่อน ประเทศที่เหลือได้วัคซีนที่เสียเงินไปแล้วหลังจากโรคระบาดจบแล้ว
เมื่อไม่สามารถหยุดประเทศร่ำรวยที่ยอมเสี่ยงจองจำนวนมากๆก่อนวัคซีนสำเร็จและได้วัคซีนล็อตแรกไปหมด WHO จึงตั้ง COVAX
ถึงตอนนี้มีผู้เข้าใจผิดกันมาก จากการใช้คำอธิบายไม่ชัดเจน เช่นการใช้คำว่า ค่าธรรมเนียม $1.6 + ค่าทำเนียมคิดเพิ่มตามเกิดขึ้นจริง
ค่าธรรมเนียมคือเงินกินเปล่า ตามความเข้าใจโดยทั่วไป
จึงขอเชิญทุกท่านมาคุยกันแบบเก็บรายละเอียด จากข้อมูลตามที่ WHO อธิบายไว้
ถ้าอยากเข้าใจเพิ่มเติมจุดไหน ก็ช่วยก็อปเอาภาษาอังกฤษจากต้นฉบับมาถามได้ ผมหรือผู้สนใจคนอื่นก็มาช่วยกันตอบได้
https://www.who.int/docs/default-source/coronaviruse/covax-facility-explainer.pdf?sfvrsn=b872aaf2_1&download=true
ต้องระบุว่าต้องการเท่าใด ให้เลือกจาก 10% - 50% ของประชากร
COVAX เจรจากับผู้ผลิตโดยรับประกันว่าราคาที่ได้ ต่ำกว่า หรือไม่สูงกว่าที่ประเทศอื่นๆซื้อโดยตรง
ค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นเบื้องต้นคือ ค่าจองล่วงหน้า ค่าเก็บวัคซีนรอการขนส่ง ค่าถ่ายโอนเทคโนโลยี ฯลฯ
รวมแล้ว $6.2 พันล้านสำหรับ 2 ล้านโดส หรือ $3.1 ต่อโดส เรียกว่าเป็นยอดเงินที่ต้องลงขันร่วมกัน
คหสต. ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่คือค่าจองล่วงหน้า เพื่อให้ผู้ผลิตเริ่มขยายการผลิต เมื่อวัคซีนอนุมัติได้ก็พร้อมส่งมอบ
ถ้าผลิตไปแล้ว ไม่ผ่านเฟส 3 เงินนี้ก็สูญเปล่า ดังนั้นจึงทำสัญญากันช่วงปลายเฟส 3 โดยมีคณะกรรมการกลั่นกรอง
และค่าจองล่วงหน้านี้ก็ไม่ได้เป็นเงินค่าธรรมเนียมกินเปล่า ถูกนำมาหักจากราคาจริงตอนรับวัคซีน จ่ายตอนรับวัคซีนแค่ส่วนต่าง
ส่วนไทยต้องจ่าย AZ ล่วงหน้า 2 พันล้านบาท เงื่อนไขอาจได้รับหรือไม่ได้รับวัคซีนก็เป็นได้ ตอนช่วงปลายๆเฟส 3
แล้วยังต้องจ่ายเพิ่มเติมอีกเป็นเงิน 4 พันล้านบาท (ค่าวัคซีน 26 ล้าน คูณ $5 ต่อโดส) คือเหตุผลที่ต้องตั้งงบ 6000 ล้านบาท
2 พันล้านถูกเรียกว่าค่าบริหารจัดการวัคซีน อันนี้ไม่มีรายละเอียดเป็นเอกสารว่ารวมค่าอะไรบ้าง ที่จ่ายต่างหากจากค่าวัคซีน
[covid-19] มาเข้าใจเงื่อนไข COVAX กันอย่างละเอียดขึ้น เมื่อไทยยังอาจเข้าร่วม
ที่มา: สถาบันวัคซีนแห่งชาติ
https://www.facebook.com/realneโwsthailand/posts/881941079305290
ที่มา COVAX สั้นๆ เกิดจากปี 2009 ไวรัส H1N1 ประเทศร่ำรวยได้วัคซีนก่อน ประเทศที่เหลือได้วัคซีนที่เสียเงินไปแล้วหลังจากโรคระบาดจบแล้ว
เมื่อไม่สามารถหยุดประเทศร่ำรวยที่ยอมเสี่ยงจองจำนวนมากๆก่อนวัคซีนสำเร็จและได้วัคซีนล็อตแรกไปหมด WHO จึงตั้ง COVAX
ถึงตอนนี้มีผู้เข้าใจผิดกันมาก จากการใช้คำอธิบายไม่ชัดเจน เช่นการใช้คำว่า ค่าธรรมเนียม $1.6 + ค่าทำเนียมคิดเพิ่มตามเกิดขึ้นจริง
ค่าธรรมเนียมคือเงินกินเปล่า ตามความเข้าใจโดยทั่วไป
จึงขอเชิญทุกท่านมาคุยกันแบบเก็บรายละเอียด จากข้อมูลตามที่ WHO อธิบายไว้
ถ้าอยากเข้าใจเพิ่มเติมจุดไหน ก็ช่วยก็อปเอาภาษาอังกฤษจากต้นฉบับมาถามได้ ผมหรือผู้สนใจคนอื่นก็มาช่วยกันตอบได้
https://www.who.int/docs/default-source/coronaviruse/covax-facility-explainer.pdf?sfvrsn=b872aaf2_1&download=true
ต้องระบุว่าต้องการเท่าใด ให้เลือกจาก 10% - 50% ของประชากร
COVAX เจรจากับผู้ผลิตโดยรับประกันว่าราคาที่ได้ ต่ำกว่า หรือไม่สูงกว่าที่ประเทศอื่นๆซื้อโดยตรง
ค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นเบื้องต้นคือ ค่าจองล่วงหน้า ค่าเก็บวัคซีนรอการขนส่ง ค่าถ่ายโอนเทคโนโลยี ฯลฯ
รวมแล้ว $6.2 พันล้านสำหรับ 2 ล้านโดส หรือ $3.1 ต่อโดส เรียกว่าเป็นยอดเงินที่ต้องลงขันร่วมกัน
คหสต. ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่คือค่าจองล่วงหน้า เพื่อให้ผู้ผลิตเริ่มขยายการผลิต เมื่อวัคซีนอนุมัติได้ก็พร้อมส่งมอบ
ถ้าผลิตไปแล้ว ไม่ผ่านเฟส 3 เงินนี้ก็สูญเปล่า ดังนั้นจึงทำสัญญากันช่วงปลายเฟส 3 โดยมีคณะกรรมการกลั่นกรอง
และค่าจองล่วงหน้านี้ก็ไม่ได้เป็นเงินค่าธรรมเนียมกินเปล่า ถูกนำมาหักจากราคาจริงตอนรับวัคซีน จ่ายตอนรับวัคซีนแค่ส่วนต่าง
ส่วนไทยต้องจ่าย AZ ล่วงหน้า 2 พันล้านบาท เงื่อนไขอาจได้รับหรือไม่ได้รับวัคซีนก็เป็นได้ ตอนช่วงปลายๆเฟส 3
แล้วยังต้องจ่ายเพิ่มเติมอีกเป็นเงิน 4 พันล้านบาท (ค่าวัคซีน 26 ล้าน คูณ $5 ต่อโดส) คือเหตุผลที่ต้องตั้งงบ 6000 ล้านบาท
2 พันล้านถูกเรียกว่าค่าบริหารจัดการวัคซีน อันนี้ไม่มีรายละเอียดเป็นเอกสารว่ารวมค่าอะไรบ้าง ที่จ่ายต่างหากจากค่าวัคซีน