ณ ตอนนี้ มีความรักให้สามีน้อยลงมาก หรืออาจหมดไปแล้ว
แต่งงานมา 5 ปี ลูก 2
ขอระบายยาวๆเท่าที่นึกออกนะคะ
แต่เดิมบ้านของ จขกท มีหนี้สิน แต่ จขกท เป็นเด็กเรียนดี ขยัน จนมีงานที่ดี ลาออกจากราชการมาทำกิจการส่วนตัว ปลดหนี้ให้ที่บ้านได้
จขกท แต่งงานกับสามี เหตุผลที่เลือกเค้า เพราะ คุยแล้วรู้สึกชอบเค้า เค้ามีหน้าที่การงานดี หน้าตาดี เป็นคนเปิดเผย ที่สำคัญไม่เจ้าชู้
คุยกันแค่ไม่กี่เดือนก็ตกลงแต่งงานกัน ไม่มีการขอแต่งงานนะ จขกท เป็นผู้หญิง แต่เริ่มคุยเรื่องนี้ก่อน 😁 เพราะกลัวแก่เกิน
เค้าเองถึงจะมีเงินเดือนที่เยอะพอสมควร แต่ก็ไม่มีเงินเก็บมากมาย คือไม่พอที่จะเป็นสินสอด
ทางบ้านของสามีก็ไม่ได้มีเงินเก็บ เป็นครอบครัวธรรมดามีหนี้สินบ้างเล็กน้อย
ด้วยความที่ จขกท ไม่นิยมผู้ชายรวยอยู่แล้ว จะชื่นชอบคนที่มีความพยายามมากกว่า จึงไม่รีรอที่จะช่วยสามีเก็บเงินค่าสินสอด ซึ่ง 80 %
เป็นเงินของ จขกท พ่อแม่ของเค้ารับรู้ แต่พ่อแม่ จขกท ไม่รู้เรื่องนี้
ระหว่างรอวันแต่งในอีกหลายเดือน ได้พบนิสัยหงุดหงิดง่ายของเค้า และติดแฟนมาก จขกท ก็เป็นคนงานเยอะ ทำงานยุ่งๆทั้งวัน ไม่ค่อยมีเวลารับ
โทรศัพท์เค้า เค้าจะโกรธมาก เคยมีครั้งนึงวันหยุดไปเดินที่ยวห้างกัน จขกท ขอแวะทำธุระธนาคาร เค้านั่งรอ ใช้เวลาราว 30 นาที เค้าโกรธมาก
เสียงดังใส่เรา ว่าเสียเวลามาก ขับรถที่มีเรานั่งมาด้วยความเร็วสูง ปาดซ้ายขวา เราร้องไห้ทั้งเสียใจ และกลัวเกิดอุบัติเหตุ แต่เค้าอารมณ์ขึ้น ขับแบบนั้นตลอดทาง
นั่นเป็นเหตุการณ์ที่เริ่มคิดละว่าเค้าไม่น่ารักเลย
อีกครั้งนึงในงานแต่งพี่สาวเค้า เค้าหงุดหงิดแม่เค้า เรื่องค่อนข้างไร้สาระ แล้ววีนแม่ตัวเอง ขับรถกลับบ้านกลางงานแต่งเลย และอีกหลายครั้ง หลายหนที่เค้าหงุดหงิดใส่เรา
ยามอารมณ์ดี ก็ดี ดูแลเทคแคร์เราดี เราเองก็เคยมีแฟนมา 3 คน รู้ดีว่าคนทุกคนมีข้อดี ข้อเสีย ไม่มีใครดีทุกอย่าง ก็ทำใจกับเรื่องความหงุดหงิด แต่งงาน
กับเค้าไป
เมื่อแต่งงานแยกมาซื้อบ้านอยู่กันสองคน ทะเลาะกันบ่อย เค้าจะเป็นฝ่ายหงุดหงิด เสียงดังใส่ เราจะเป็นฝ่ายเสียใจ ร้องไห้ทุกครั้ง เมื่อดีกันก็พูดขอให้เค้า
ปรับปรุง เค้าก็รับปากจะปรับปรุง แต่บอกเราก็ต้องอย่าทำให้เค้าหงุดหงิดด้วย พื้นฐานเดิม จขกท สุขภาพจิตค่อนข้างดี ไม่ชอบการทะเลาะ อะลุ่มอล่วย เจอ
สามีหงุดหงิดเสียงดังใส่บ่อยเข้า เริ่มเครียด เราชวนเค้าไปพบจิตแพทย์ เค้าก็ไปครั้งนึง หมอให้คำแนะนำแกมตำหนิเค้าเล็กน้อย เค้าจึงไม่ยอมไปตามนัด
แล้วบอกหมอไม่เห็นช่วยอะไรได้
จากที่เค้ารับปากจะปรับปรุงเรื่องอารมณ์ มันก็ดีขึ้นบ้าง แต่ก็ยังมีอยู่เรื่อยๆ บางครั้งเค้าก็แสดงอารมณ์ใส่ต่อหน้าคนอื่น เช่น น้องสาวเรา จนน้องเราร้องไห้สงสารเรา เคยมีครั้งหนึ่งที่เราไม่อยากทนแล้ว จะเก็บของไปนอนที่อื่น เค้าก็ไม่ยอม ก็ทะเลาะกันแล้วก็ดีกันเรื่อยๆมา
ช่วงอารมณ์ดีก็มี เค้าก็รักเรา ดูแลเราดี ตอนนี้มีลูก 2 คน ปีที่แล้วงานของเค้าที่จากเดิมมั่นคง เริ่มไม่มั่นคง อาจต้องหางานใหม่ที่ต่างจังหวัด เราอยากอยู่
ด้วยกันเป็นครอบครัวใกล้ชิดกัน จึงเสนอให้เค้าลาออกมาเรียนในสาขาหนึ่ง ซึ่งใช้เวลาเรียน 4 ปี โดยเราจะดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง รวมถึงส่งเงินให้พ่อแม่เค้าด้วย อ่อ ลืมเล่าไป เราสองคนแต่งงานกันแล้วรวมกระเป๋ากัน เรามีรายได้มากกว่าเค้า ตลอดมาเค้าคัดค้านไม่ให้เราส่งเงินให้พ่อแม่เรา แต่ส่งให้พ่อแม่เค้าทุกเดือน เพราะเหตุผลว่าพ่อแม่เรายังไม่แก่ ยังทำงานอยู่ (พ่อแม่เค้า 68 พ่อแม่เรา 58)แต่เราแอบส่งพ่อแม่มาตลอด วันนึงไม่อยากปิดบังก็มาคุยขอส่งเงินให้ที่บ้าน ก็กลายเป็นทะเลาะกัน แล้วก็มาดีกันเหมือนเคย
ล่าสุด เค้าเครียดเรื่องหนี้สินของที่บ้านเค้า เค้าเองก็ไม่มีรายได้แล้ว เพราะลาออกมาเรียนเต็มตัว เค้าเสนอให้เราซื้อที่ดินและบ้านของพ่อแม่เค้ามาเป็นชื่อของเรา เพื่อที่จะเคลียร์หนี้แบงค์ให้ที่บ้าน เราเห็นใจเค้า และคิดว่าก็ไม่ได้เสียหายที่จะซื้อที่เก็บไว้ เพียงแค่ขอประเมินราคา และคุยราคาอีกทีเพราะเราไม่รุ้ราคาโดยประมาณเลย เค้าโกรธมากว่าเรายุ่งยาก อยากช่วยจริงทำไมต้องมีขั้นตอนมากมาย เค้าต้องการให้เราซื้อในราคาเท่ายอดหนี้ที่บ้าน โดยไม่ต้องประเมินราคา เค้ามั่นใจว่าราคาประเมินเกินราคาที่จะให้ซื้ออยู่แล้ว ก็ทะเลาะกันไปตามระเบียบ สรุปที่เค้ายอมให้เราประเมิน ก็จบประเด็นไป
ล่าสุดกว่า เค้าหงุดหงิดใส่เราเรื่องหยุมหยิม เรารอเค้าเย็นลง คุยกันปกติแล้ว จึงถามว่าแอบหงุดหงิดใช่มั้ย อยากให้ปรับ ไม่ใช่เรื่องที่ควรหงุดหงิดเลย เค้าของขึ้นอีกรอบ ว่าเราทำเสียงดุเค้าก่อน (ไม่ดุเลย สาบาน😁) กลายเป็นทะเลาะนอยด์ๆกันมาหลายวันแล้ว เพราะเราอยากให้การทะเลาะมันมีการปรับปรุง แต่เค้าไม่ยอมรับผิดว่าหงุดหงิด
ตอนนี้มานั่งสิริรวมความคิด เบื่อทนกับอารมณ์ ไม่ได้เป็นชีวิตคู่ที่คาดหวัง ร้องไห้จนเลิกร้องแล้ว จากคนที่แข็งแกร่งกับคนอื่นกับลูกน้อง แม้แต่กับพ่อแม่ตัวเอง เราก็เป็นผู้ใหญ่มากในสายตาเค้า แต่กับสามีเราอยู่ด้วยแล้วรุ้สึกตัวเล็ก ต้องทำตามเค้า ไม่งั้นก็ทะเลาะ เรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ก็ถูกหงุดหงิด มานั่งทบทวนว่าทำไมเราต้องทน เราไม่ต้องพึ่งพาเค้า เค้าเองที่พึ่งพาเราแต่ไม่ค่อยรักษาน้ำใจเราเลย ขอให้ปรับตัว ก็ยังไม่ยอมรับ ผ่านมานานจนรู้สึกไม่อยากทนแล้ว แต่ยังติดกับของความสมบูรณ์แบบของชีวิต อยากให้ลูกมีครบทั้งพ่อแม่
อยากมองในมุมของคนอื่นๆบ้างค่ะ คิดเห็นอย่างไร
ทำถูกมั้ย ที่พยายามประคองชีวิตคู่เพื่อให้ลูกมีครบทั้งพ่อและแม่
แต่งงานมา 5 ปี ลูก 2
ขอระบายยาวๆเท่าที่นึกออกนะคะ
แต่เดิมบ้านของ จขกท มีหนี้สิน แต่ จขกท เป็นเด็กเรียนดี ขยัน จนมีงานที่ดี ลาออกจากราชการมาทำกิจการส่วนตัว ปลดหนี้ให้ที่บ้านได้
จขกท แต่งงานกับสามี เหตุผลที่เลือกเค้า เพราะ คุยแล้วรู้สึกชอบเค้า เค้ามีหน้าที่การงานดี หน้าตาดี เป็นคนเปิดเผย ที่สำคัญไม่เจ้าชู้
คุยกันแค่ไม่กี่เดือนก็ตกลงแต่งงานกัน ไม่มีการขอแต่งงานนะ จขกท เป็นผู้หญิง แต่เริ่มคุยเรื่องนี้ก่อน 😁 เพราะกลัวแก่เกิน
เค้าเองถึงจะมีเงินเดือนที่เยอะพอสมควร แต่ก็ไม่มีเงินเก็บมากมาย คือไม่พอที่จะเป็นสินสอด
ทางบ้านของสามีก็ไม่ได้มีเงินเก็บ เป็นครอบครัวธรรมดามีหนี้สินบ้างเล็กน้อย
ด้วยความที่ จขกท ไม่นิยมผู้ชายรวยอยู่แล้ว จะชื่นชอบคนที่มีความพยายามมากกว่า จึงไม่รีรอที่จะช่วยสามีเก็บเงินค่าสินสอด ซึ่ง 80 %
เป็นเงินของ จขกท พ่อแม่ของเค้ารับรู้ แต่พ่อแม่ จขกท ไม่รู้เรื่องนี้
ระหว่างรอวันแต่งในอีกหลายเดือน ได้พบนิสัยหงุดหงิดง่ายของเค้า และติดแฟนมาก จขกท ก็เป็นคนงานเยอะ ทำงานยุ่งๆทั้งวัน ไม่ค่อยมีเวลารับ
โทรศัพท์เค้า เค้าจะโกรธมาก เคยมีครั้งนึงวันหยุดไปเดินที่ยวห้างกัน จขกท ขอแวะทำธุระธนาคาร เค้านั่งรอ ใช้เวลาราว 30 นาที เค้าโกรธมาก
เสียงดังใส่เรา ว่าเสียเวลามาก ขับรถที่มีเรานั่งมาด้วยความเร็วสูง ปาดซ้ายขวา เราร้องไห้ทั้งเสียใจ และกลัวเกิดอุบัติเหตุ แต่เค้าอารมณ์ขึ้น ขับแบบนั้นตลอดทาง
นั่นเป็นเหตุการณ์ที่เริ่มคิดละว่าเค้าไม่น่ารักเลย
อีกครั้งนึงในงานแต่งพี่สาวเค้า เค้าหงุดหงิดแม่เค้า เรื่องค่อนข้างไร้สาระ แล้ววีนแม่ตัวเอง ขับรถกลับบ้านกลางงานแต่งเลย และอีกหลายครั้ง หลายหนที่เค้าหงุดหงิดใส่เรา
ยามอารมณ์ดี ก็ดี ดูแลเทคแคร์เราดี เราเองก็เคยมีแฟนมา 3 คน รู้ดีว่าคนทุกคนมีข้อดี ข้อเสีย ไม่มีใครดีทุกอย่าง ก็ทำใจกับเรื่องความหงุดหงิด แต่งงาน
กับเค้าไป
เมื่อแต่งงานแยกมาซื้อบ้านอยู่กันสองคน ทะเลาะกันบ่อย เค้าจะเป็นฝ่ายหงุดหงิด เสียงดังใส่ เราจะเป็นฝ่ายเสียใจ ร้องไห้ทุกครั้ง เมื่อดีกันก็พูดขอให้เค้า
ปรับปรุง เค้าก็รับปากจะปรับปรุง แต่บอกเราก็ต้องอย่าทำให้เค้าหงุดหงิดด้วย พื้นฐานเดิม จขกท สุขภาพจิตค่อนข้างดี ไม่ชอบการทะเลาะ อะลุ่มอล่วย เจอ
สามีหงุดหงิดเสียงดังใส่บ่อยเข้า เริ่มเครียด เราชวนเค้าไปพบจิตแพทย์ เค้าก็ไปครั้งนึง หมอให้คำแนะนำแกมตำหนิเค้าเล็กน้อย เค้าจึงไม่ยอมไปตามนัด
แล้วบอกหมอไม่เห็นช่วยอะไรได้
จากที่เค้ารับปากจะปรับปรุงเรื่องอารมณ์ มันก็ดีขึ้นบ้าง แต่ก็ยังมีอยู่เรื่อยๆ บางครั้งเค้าก็แสดงอารมณ์ใส่ต่อหน้าคนอื่น เช่น น้องสาวเรา จนน้องเราร้องไห้สงสารเรา เคยมีครั้งหนึ่งที่เราไม่อยากทนแล้ว จะเก็บของไปนอนที่อื่น เค้าก็ไม่ยอม ก็ทะเลาะกันแล้วก็ดีกันเรื่อยๆมา
ช่วงอารมณ์ดีก็มี เค้าก็รักเรา ดูแลเราดี ตอนนี้มีลูก 2 คน ปีที่แล้วงานของเค้าที่จากเดิมมั่นคง เริ่มไม่มั่นคง อาจต้องหางานใหม่ที่ต่างจังหวัด เราอยากอยู่
ด้วยกันเป็นครอบครัวใกล้ชิดกัน จึงเสนอให้เค้าลาออกมาเรียนในสาขาหนึ่ง ซึ่งใช้เวลาเรียน 4 ปี โดยเราจะดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง รวมถึงส่งเงินให้พ่อแม่เค้าด้วย อ่อ ลืมเล่าไป เราสองคนแต่งงานกันแล้วรวมกระเป๋ากัน เรามีรายได้มากกว่าเค้า ตลอดมาเค้าคัดค้านไม่ให้เราส่งเงินให้พ่อแม่เรา แต่ส่งให้พ่อแม่เค้าทุกเดือน เพราะเหตุผลว่าพ่อแม่เรายังไม่แก่ ยังทำงานอยู่ (พ่อแม่เค้า 68 พ่อแม่เรา 58)แต่เราแอบส่งพ่อแม่มาตลอด วันนึงไม่อยากปิดบังก็มาคุยขอส่งเงินให้ที่บ้าน ก็กลายเป็นทะเลาะกัน แล้วก็มาดีกันเหมือนเคย
ล่าสุด เค้าเครียดเรื่องหนี้สินของที่บ้านเค้า เค้าเองก็ไม่มีรายได้แล้ว เพราะลาออกมาเรียนเต็มตัว เค้าเสนอให้เราซื้อที่ดินและบ้านของพ่อแม่เค้ามาเป็นชื่อของเรา เพื่อที่จะเคลียร์หนี้แบงค์ให้ที่บ้าน เราเห็นใจเค้า และคิดว่าก็ไม่ได้เสียหายที่จะซื้อที่เก็บไว้ เพียงแค่ขอประเมินราคา และคุยราคาอีกทีเพราะเราไม่รุ้ราคาโดยประมาณเลย เค้าโกรธมากว่าเรายุ่งยาก อยากช่วยจริงทำไมต้องมีขั้นตอนมากมาย เค้าต้องการให้เราซื้อในราคาเท่ายอดหนี้ที่บ้าน โดยไม่ต้องประเมินราคา เค้ามั่นใจว่าราคาประเมินเกินราคาที่จะให้ซื้ออยู่แล้ว ก็ทะเลาะกันไปตามระเบียบ สรุปที่เค้ายอมให้เราประเมิน ก็จบประเด็นไป
ล่าสุดกว่า เค้าหงุดหงิดใส่เราเรื่องหยุมหยิม เรารอเค้าเย็นลง คุยกันปกติแล้ว จึงถามว่าแอบหงุดหงิดใช่มั้ย อยากให้ปรับ ไม่ใช่เรื่องที่ควรหงุดหงิดเลย เค้าของขึ้นอีกรอบ ว่าเราทำเสียงดุเค้าก่อน (ไม่ดุเลย สาบาน😁) กลายเป็นทะเลาะนอยด์ๆกันมาหลายวันแล้ว เพราะเราอยากให้การทะเลาะมันมีการปรับปรุง แต่เค้าไม่ยอมรับผิดว่าหงุดหงิด
ตอนนี้มานั่งสิริรวมความคิด เบื่อทนกับอารมณ์ ไม่ได้เป็นชีวิตคู่ที่คาดหวัง ร้องไห้จนเลิกร้องแล้ว จากคนที่แข็งแกร่งกับคนอื่นกับลูกน้อง แม้แต่กับพ่อแม่ตัวเอง เราก็เป็นผู้ใหญ่มากในสายตาเค้า แต่กับสามีเราอยู่ด้วยแล้วรุ้สึกตัวเล็ก ต้องทำตามเค้า ไม่งั้นก็ทะเลาะ เรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ก็ถูกหงุดหงิด มานั่งทบทวนว่าทำไมเราต้องทน เราไม่ต้องพึ่งพาเค้า เค้าเองที่พึ่งพาเราแต่ไม่ค่อยรักษาน้ำใจเราเลย ขอให้ปรับตัว ก็ยังไม่ยอมรับ ผ่านมานานจนรู้สึกไม่อยากทนแล้ว แต่ยังติดกับของความสมบูรณ์แบบของชีวิต อยากให้ลูกมีครบทั้งพ่อแม่
อยากมองในมุมของคนอื่นๆบ้างค่ะ คิดเห็นอย่างไร