ขอเล่าเรื่องของเราก่อนค่ะ ก่อนหน้านี้ ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เราเคยหนักสุด 65 กก. อึดอัดตัวเองจนต้องเข้าฟิตเนสและคุมอาหารจนนน.ลดลงได้ 9 กก. เหลือ 57 กก. ภายใน 4 เดือน แล้วนน.ก็คงที่เท่านั้นมา 2 ปี) พออึก 3 ปีให้หลัง เปลี่ยนที่ทำงาน งานหนัก สังคมเยอะ ไปกินตอนค่ำกับเพื่อน ๆ เกือบทุกวัน เงินหมดไปกับของกิน กินแบบบ้าคลั่ง ไม่ดูแลตัวเอง ทำงานเลิกดึก กิน ๆ ๆ ทำงานเลิกดึก กิน ๆ ๆ แบบนี้...ไงล่ะคะ...หุ่นปังปิ๊นาศ นน. ค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้นเป็น 67 กก. ก็ยังคิดว่า เอออ ไว้ค่อยลด เดี๋ยวก่อน ๆ ยังไม่ว่าง เหนื่อย ก็อุตส่าห์ไปสมัครฟิตเนสทิ้งไว้ โควิดระลอกแรกมาพอดี ไม่ได้ไปใช้ พอเริ่มจะกลับไปใช้ ก็งานยุ่ง ๆๆๆ มาเรื่อย ๆ จนถึงเดือน ก.ย. 63 ชั่งนน. เข็มมันหยุดอยู่ที่ 70 กก. ตกใจ พร้อมกับเห็นสภาพตัวเองแล้ว มันน่าเกลียดมาก เพราะโครงสร้างตัวเองเป็นคนสะโพกใหญ่ขาใหญ่อยู่แล้ว ช่วงตัวจะเล็ก มันยิ่งไม่สมส่วน ยิ่งอ้วน ก็ดูบุคลิกไม่ดี เดินยังไงก็ดูไม่สวยเลย รู้สึกถึงก้อนไขมันกระเพื่อมไปตามจังหวะการเดินตลอดเวลา ใส่ชุดหลวมขึ้นรถเมล์ กระเป๋ารถเค้าก็ถามเราว่า ท้องมั้ย กระเป๋าบางคนมารยาทดีหน่อย ไม่ถาม แต่สะกิดให้เราไปนั่งเลย 😅 พอจะใส่ชุดเข้ารูป ก็หาใส่ไม่ได้ เพราะโอเวอร์ไซส์ ช่วงบนกับช่วงล่างมันไม่บาลานซ์กัน ใส่กางเกงทรงพอดีตัว มันดันกลายเป็นรัดรูป ขาเหมือนกบ...พุงก็ออก ก้นก็ยื่น...เวลาเดิน มันเห็นวันช่วงก้นมันมีก้อนไขมันมันยักขึ้นลง😔
สุดท้ายถึงจุดหนึ่ง..ไม่ไหวกับสภาพตัวเองแล้ว อ้วนแล้วดูแก่มาก...เลยบอกกับตัวเองว่า วันนี้ชั้นจะเอาพวกแกออกไปจากชีวิตชั้นล่ะ พวกก้อนไขมันทั้งหลาย...ก็เลยเริ่มจากศึกษาการคุมอาหารบ้าง แต่ไม่ได้ถึงกับเชี่ยวชาญหรือเคร่งมากเท่าไหร่ แค่การลดแป้ง ลดน้ำตาล ละเลิกเครื่องดื่มใส่น้ำตาล ใส่นม น้ำอัดลมเลิกกิน ปกติก็ไม่ได้ติดชา กาแฟ เท่าไหร่ ก็เลิกได้ไม่ยาก พอคุมอาหารได้ นน.เริ่มลงจาก 70 กก. เหลือ 68 กก. ในเดือน ต.ค. 63 พอเริ่ม 1 ธ.ค. 63 ปุ๊บ ก็เริ่มออกกำลังกายเองที่บ้าน ดูจากยูทูปหลายช่องมากมายที่เค้าสอน ช่วงแรกเริ่มจากคาร์ดิโอท่าง่าย ๆ สำหรับ Beginner 20 นาทีก่อน เบา ๆ เพราะไม่ได้ออกกำลังกายมานาน ร่างกายก็จะตึง ๆ ปวด ๆ พอเริ่มเข้าที่ ก็เริ่มคาร์ดิโอนานขึ้นเป็น 30 นาที และก็ 40 นาที ในช่วงสัปดาห์แรก พอเข้าสัปดาห์ที่สอง ก็เริ่มท่ายาก ๆ ขึ้น ดูหลายโค้ชมาก เราก็เริ่มสนุกไปกับการออกกำลังกาย เหงื่อออก หัวใจเต้น เลือดสูบฉีดดีมาก พอเข้าสัปดาห์ที่สาม ก็เริ่มบอดี้เวทมาเรื่อย ๆ จนเข้าวันที่ 24 ลองไปชั่งนน. ตาลุกวาว นน.ลดลงมาเหลือ 66 กก. มีกำลังใจมากมาย ก็คุมอาหารต่อเนื่อง แต่ไม่ได้คุมจนทรมานนะคะ เราคุมอย่างที่บอกไปตอนต้น คือเรายังกินพวกเนื้อสัตว์ปกติ คลีนก็กินบ้างเวลาอยู่ที่ทำงาน แต่ถ้าวันหยุด เราทำกับข้าวให้แม่ให้ลูกกิน เราก็ต้องกินด้วย แต่ลดปริมาณข้าวลง และกินผักผลไม้เยอะมาก ปกติชอบกินผักอยู่แล้ว แต่เราไม่หยุดออกกำลังกายเลย จนมาถึงวันนี้ ที่เราออกกำลังกายมาได้ 49 วันแล้ว ชั่งนน. เหลือ 63 กก. สิริรวมแล้ว 49 วัน สำหรับการคุมอาหารและออกกำลังกาย นน.ลดลงมา 7 กก. แล้ว ซึ่งเป้าหมายเราคือ 55 กก. และอยากมี 6 แพคมาก ๆ แต่ก็จะไม่หักโหม ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป ต้องการให้มีกล้ามเนัอที่แข็งแรง เอาไขมันออกไป ถ้าร่างกายมันลีนแล้ว คงสร้างกล้ามเนื้อไม่ยาก ถ้าเรามีวินัย
แต่เพื่อนเราบอกว่า สร้าง 6 แพคยากมาก ถ้าไม่กินเวย์โปรตีน ยังไงก็ไม่ขึ้น แต่เราก็ดูกระทู้หลาย ๆ คนก็เห็นมีคนที่สร้างร่อง 11 กันได้ภายใน 30 วันด้วยซ้ำ ไม่กินเวย์โปรตีนก็มี เราเลยอยากรู้ว่า มีเพื่อนคนไหนที่ไม่กินเวย์โปรตีน แล้วคุณกินอะไรกันบ้าง และออกกำลังกายขนาดไหน เพราะเราเน้นกินโปรตีนแหละ แต่จำเป็นมั้ยที่ต้องกินเวย์โปรตีน
ปล.เรามีภาพปลากรอบด้วย (ทีแรกกะจะไม่ลงภาพ เพราะอายหุ่นพัง ๆ แต่ก็จะไม่เห็นภาพ ว่าอ้วนยังไง และผอมลงแบบไหน และไว้เป็นแรงผลักดันสำหรับเพื่อนที่อยากผอมด้วยค่ะ😁)
ภาพนี้คือ ช่วงที่หนัก 70 กก. ค่ะ
ภาพนี้คือช่วงที่เริ่มคุมอาหาร
ภาพนี้คือวันที่เริ่มออกกำลังกาย ไปจนถึงวันที่ออกกำลังกายได้ 24 วันแล้ว
เราเทียบไว้ ซึ่งตอนนั้น นน. 68 กก. แล้ว แต่พุงยังย้อยห้อย...อย่างกะไอ้เท่งเลย 😂😂😂
และก็ภาพนี้เป็นช่วงที่ นน.ลงมาได้ 63 กก. คือในปัจจุบันนี้ค่ะ
สุดท้ายนี้...สำหรับใครที่อยากลดความอวน แล้วยังพิชิตใจและปากตัวเองไม่ได้ซักที เราเชื่อว่า วันนึงคุณจะลุกขึ้นมาทำอย่างที่เราทำค่ะ...เป็นกำลังใจให้ได้เริ่มและสู้ ๆ ไปจนถึงวันที่เพื่อน ๆ หุ่นแข็งแรงกันค่ะ💪☺️
ใครออกกำลังกาย+คุมอาหารแล้วนน.ลงไปเท่าไหร่กันบ้างคะ ใช้เวลาเท่าไหร่ ทำอะไรบ้าง มาแบ่งปันปสก.การลดนน.กัน
สุดท้ายถึงจุดหนึ่ง..ไม่ไหวกับสภาพตัวเองแล้ว อ้วนแล้วดูแก่มาก...เลยบอกกับตัวเองว่า วันนี้ชั้นจะเอาพวกแกออกไปจากชีวิตชั้นล่ะ พวกก้อนไขมันทั้งหลาย...ก็เลยเริ่มจากศึกษาการคุมอาหารบ้าง แต่ไม่ได้ถึงกับเชี่ยวชาญหรือเคร่งมากเท่าไหร่ แค่การลดแป้ง ลดน้ำตาล ละเลิกเครื่องดื่มใส่น้ำตาล ใส่นม น้ำอัดลมเลิกกิน ปกติก็ไม่ได้ติดชา กาแฟ เท่าไหร่ ก็เลิกได้ไม่ยาก พอคุมอาหารได้ นน.เริ่มลงจาก 70 กก. เหลือ 68 กก. ในเดือน ต.ค. 63 พอเริ่ม 1 ธ.ค. 63 ปุ๊บ ก็เริ่มออกกำลังกายเองที่บ้าน ดูจากยูทูปหลายช่องมากมายที่เค้าสอน ช่วงแรกเริ่มจากคาร์ดิโอท่าง่าย ๆ สำหรับ Beginner 20 นาทีก่อน เบา ๆ เพราะไม่ได้ออกกำลังกายมานาน ร่างกายก็จะตึง ๆ ปวด ๆ พอเริ่มเข้าที่ ก็เริ่มคาร์ดิโอนานขึ้นเป็น 30 นาที และก็ 40 นาที ในช่วงสัปดาห์แรก พอเข้าสัปดาห์ที่สอง ก็เริ่มท่ายาก ๆ ขึ้น ดูหลายโค้ชมาก เราก็เริ่มสนุกไปกับการออกกำลังกาย เหงื่อออก หัวใจเต้น เลือดสูบฉีดดีมาก พอเข้าสัปดาห์ที่สาม ก็เริ่มบอดี้เวทมาเรื่อย ๆ จนเข้าวันที่ 24 ลองไปชั่งนน. ตาลุกวาว นน.ลดลงมาเหลือ 66 กก. มีกำลังใจมากมาย ก็คุมอาหารต่อเนื่อง แต่ไม่ได้คุมจนทรมานนะคะ เราคุมอย่างที่บอกไปตอนต้น คือเรายังกินพวกเนื้อสัตว์ปกติ คลีนก็กินบ้างเวลาอยู่ที่ทำงาน แต่ถ้าวันหยุด เราทำกับข้าวให้แม่ให้ลูกกิน เราก็ต้องกินด้วย แต่ลดปริมาณข้าวลง และกินผักผลไม้เยอะมาก ปกติชอบกินผักอยู่แล้ว แต่เราไม่หยุดออกกำลังกายเลย จนมาถึงวันนี้ ที่เราออกกำลังกายมาได้ 49 วันแล้ว ชั่งนน. เหลือ 63 กก. สิริรวมแล้ว 49 วัน สำหรับการคุมอาหารและออกกำลังกาย นน.ลดลงมา 7 กก. แล้ว ซึ่งเป้าหมายเราคือ 55 กก. และอยากมี 6 แพคมาก ๆ แต่ก็จะไม่หักโหม ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป ต้องการให้มีกล้ามเนัอที่แข็งแรง เอาไขมันออกไป ถ้าร่างกายมันลีนแล้ว คงสร้างกล้ามเนื้อไม่ยาก ถ้าเรามีวินัย
แต่เพื่อนเราบอกว่า สร้าง 6 แพคยากมาก ถ้าไม่กินเวย์โปรตีน ยังไงก็ไม่ขึ้น แต่เราก็ดูกระทู้หลาย ๆ คนก็เห็นมีคนที่สร้างร่อง 11 กันได้ภายใน 30 วันด้วยซ้ำ ไม่กินเวย์โปรตีนก็มี เราเลยอยากรู้ว่า มีเพื่อนคนไหนที่ไม่กินเวย์โปรตีน แล้วคุณกินอะไรกันบ้าง และออกกำลังกายขนาดไหน เพราะเราเน้นกินโปรตีนแหละ แต่จำเป็นมั้ยที่ต้องกินเวย์โปรตีน
ปล.เรามีภาพปลากรอบด้วย (ทีแรกกะจะไม่ลงภาพ เพราะอายหุ่นพัง ๆ แต่ก็จะไม่เห็นภาพ ว่าอ้วนยังไง และผอมลงแบบไหน และไว้เป็นแรงผลักดันสำหรับเพื่อนที่อยากผอมด้วยค่ะ😁)
ภาพนี้คือ ช่วงที่หนัก 70 กก. ค่ะ
ภาพนี้คือช่วงที่เริ่มคุมอาหาร
ภาพนี้คือวันที่เริ่มออกกำลังกาย ไปจนถึงวันที่ออกกำลังกายได้ 24 วันแล้ว
เราเทียบไว้ ซึ่งตอนนั้น นน. 68 กก. แล้ว แต่พุงยังย้อยห้อย...อย่างกะไอ้เท่งเลย 😂😂😂
และก็ภาพนี้เป็นช่วงที่ นน.ลงมาได้ 63 กก. คือในปัจจุบันนี้ค่ะ
สุดท้ายนี้...สำหรับใครที่อยากลดความอวน แล้วยังพิชิตใจและปากตัวเองไม่ได้ซักที เราเชื่อว่า วันนึงคุณจะลุกขึ้นมาทำอย่างที่เราทำค่ะ...เป็นกำลังใจให้ได้เริ่มและสู้ ๆ ไปจนถึงวันที่เพื่อน ๆ หุ่นแข็งแรงกันค่ะ💪☺️