เนื่องด้วยผมได้มีซื้อประกันกับเมืองไทยประกันชีวิต ซึ่งผมได้เลือกวิธีการชำระเงินเป็นแบบตัดบัตร
คราวนี้ผมไปทำงานต่างพื้นที่ ไม่ใช่สถานที่ที่เอกสารส่งมารวมทั้งไม่ได้กลับไปครึ่งปี
ผมได้รับจดหมายจากเมืองไทยประกันชีวิต 2 ฉบับ
1. แจ้งว่าบัตรตัดไม่ได้ จะตัดอีกทีในเดือนสิงหาคม ส่งมาตอนกรกฏาคม
2. ขอยกเลิกการตัดบัตร เพราะตัดเดือนสิงหาคม ไม่ได้ ส่งมาตอนสิงหาคม
**สาเหตุที่ตัดบัตรไม่ได้ คิดว่า วงเงินบัตรที่เหลือไม่พอที่จะตัด ทั้ง 2 ครั้ง**
จุดที่น่าวิเคราะห์คือ ทำไมถึงไม่โทรศัพท์ติดต่อ ทำไมถึงใช้วิธีส่งจดหมาย แล้วคราวนี้ผมพึ่งมาเปิดเมื่อวานนี้จึงโทรไป เขาบอกว่ามีเบี้ยประกันภัย แค่ยกเว้นให้เพราะ Covid-19 แต่ต้องจ่ายก่อนวันที่ 24/1/2021 (เดี๋ยวนะ!!!
ถ้าเราไม่กลับไปเปิดจดหมาย เราก็ต้องจ่ายเบี้ยประกันภัย ทั้งที่ตอนขายนี่ใครโทรมาขายก็ไม่รู้เยอะแยะ แต่พอตัดบัตรไม่ได้กลับเลือกที่จะไม่โทรศัพท์)
คราวนี้เรื่องมันเกิดแล้วทำอะไรไม่ได้ ก็ถามว่าต้องจ่ายยังไง จ่ายออนไลน์ได้ไหม เขาก็บอกว่าไม่ได้เพราะต้องเซ็นเอกสารเพราะประกันมันเลยเวลาชำระ (เอ๊า แล้วตอนตัดไม่ได้ทำไมไม่โทรมาหล่ะ) สรุป ต้องไปที่สาขา ในช่วง Covid-19 สาขาในห้างของเมืองไทยประกันชีวิตก็น้อยมาก ไม่มีใกล้บ้าน
ผมจึงมีข้อเสนอแนะให้ทาง เมืองไทยประกันชีวิต พัฒนาบริการหลังการขายดังนี้
1. ให้มีการโทรติดต่อลูกค้า ในกรณีที่ตัดบัตรลูกค้าไม่ได้
เพราะ บางครั้งมันมีกรณีที่บัตรเครดิตนั้นออกบัตรใหม่ บัตรเก่าหมดอายุ
2. เข้าสู่ยุค Digital ด้วยการรับ-ส่ง เอกสารผ่าน อีเมล์กับลูกค้า เพราะทางพนักงานของท่านไม่ได้เสนอทางเลือกนี้มาแสดงว่าไม่มี (ทีเอกสารซื้อประกันกรอกเยอะแยะทั้งอีเมล์ ทั้ังเบอร์โทร แต่กลับไม่ใช้ แถมยังสมัคร / ส่งออนไลน์ได้อีก)
ทำให้รู้สึกบริการหลังการขายของ เมืองไทยประกันชีวิต นั้นไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งการบริการครั้งนี้ทำให้มีผลต่อการใช้บริการในกรมธรรม์ถัดๆไป
[เล่าสู่กันฟัง] บริการหลังการขาย เมืองไทยประกันชีวิต กรณีตัดบัตรเครดิตไม่ได้
คราวนี้ผมไปทำงานต่างพื้นที่ ไม่ใช่สถานที่ที่เอกสารส่งมารวมทั้งไม่ได้กลับไปครึ่งปี
ผมได้รับจดหมายจากเมืองไทยประกันชีวิต 2 ฉบับ
1. แจ้งว่าบัตรตัดไม่ได้ จะตัดอีกทีในเดือนสิงหาคม ส่งมาตอนกรกฏาคม
2. ขอยกเลิกการตัดบัตร เพราะตัดเดือนสิงหาคม ไม่ได้ ส่งมาตอนสิงหาคม
**สาเหตุที่ตัดบัตรไม่ได้ คิดว่า วงเงินบัตรที่เหลือไม่พอที่จะตัด ทั้ง 2 ครั้ง**
จุดที่น่าวิเคราะห์คือ ทำไมถึงไม่โทรศัพท์ติดต่อ ทำไมถึงใช้วิธีส่งจดหมาย แล้วคราวนี้ผมพึ่งมาเปิดเมื่อวานนี้จึงโทรไป เขาบอกว่ามีเบี้ยประกันภัย แค่ยกเว้นให้เพราะ Covid-19 แต่ต้องจ่ายก่อนวันที่ 24/1/2021 (เดี๋ยวนะ!!! ถ้าเราไม่กลับไปเปิดจดหมาย เราก็ต้องจ่ายเบี้ยประกันภัย ทั้งที่ตอนขายนี่ใครโทรมาขายก็ไม่รู้เยอะแยะ แต่พอตัดบัตรไม่ได้กลับเลือกที่จะไม่โทรศัพท์)
คราวนี้เรื่องมันเกิดแล้วทำอะไรไม่ได้ ก็ถามว่าต้องจ่ายยังไง จ่ายออนไลน์ได้ไหม เขาก็บอกว่าไม่ได้เพราะต้องเซ็นเอกสารเพราะประกันมันเลยเวลาชำระ (เอ๊า แล้วตอนตัดไม่ได้ทำไมไม่โทรมาหล่ะ) สรุป ต้องไปที่สาขา ในช่วง Covid-19 สาขาในห้างของเมืองไทยประกันชีวิตก็น้อยมาก ไม่มีใกล้บ้าน
ผมจึงมีข้อเสนอแนะให้ทาง เมืองไทยประกันชีวิต พัฒนาบริการหลังการขายดังนี้
1. ให้มีการโทรติดต่อลูกค้า ในกรณีที่ตัดบัตรลูกค้าไม่ได้ เพราะ บางครั้งมันมีกรณีที่บัตรเครดิตนั้นออกบัตรใหม่ บัตรเก่าหมดอายุ
2. เข้าสู่ยุค Digital ด้วยการรับ-ส่ง เอกสารผ่าน อีเมล์กับลูกค้า เพราะทางพนักงานของท่านไม่ได้เสนอทางเลือกนี้มาแสดงว่าไม่มี (ทีเอกสารซื้อประกันกรอกเยอะแยะทั้งอีเมล์ ทั้ังเบอร์โทร แต่กลับไม่ใช้ แถมยังสมัคร / ส่งออนไลน์ได้อีก)
ทำให้รู้สึกบริการหลังการขายของ เมืองไทยประกันชีวิต นั้นไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งการบริการครั้งนี้ทำให้มีผลต่อการใช้บริการในกรมธรรม์ถัดๆไป