คือเรื่องมีอยู่ว่า เราเป็นคนขี้งกมากๆมาตั้งเเต่เด็กเเล้ว คือใครขอเงินเราก็เเทบจะไม่ให้ เวลาซื้อขนมไปละโดนเเย่งกินเเล้วด้วยความที่เราเคยพยายามใช้ทุกๆอย่างที่เรามีเพื่อซื้อใจเพื่อน คิดว่าการให้จะเป็นสิ่งที่ทำให้เพื่อนมีความสุขเเละจริงใจกับเราเเต่จริงๆไม่เลย เรากลับต้องมาอยู่คนเดียวตามเคยในสังคมของโรงเรียน วันนี้ เราโตขึ้นเราอายุมากขึ้น เรามีเเฟน..ขอพูดตรงๆเลยว่ากับเเฟนเค้านี้เราให้เขามากกว่าที่เราให้ตัวเองสะอีกถ้าเรามี ซึ่งเราก็ให้มาตลอดเท่าที่เราจะให้ได้เเล้วพอถึงวันนี้ เมื่อเช้าเรากดตังมา100 เพื่อไปซื้อน้ำเต้าหู้ให้เขา โดยที่เราไม่ขอเเละไม่บอกเขาเลย เเล้วเราก็ออกไปทำงานด้วยกัน ตอนเเรกข้างกลางวันเรากินก๋วยเตี๊ยวเรือกัน เขาบอกให้เราเลี้ยง เราไม่ติดอะไรเลยนะคะไม่โต้ไม่เเย่งเพราะเมื่อเราไม่มีเขาก็ให้เรามาตลอดเเล้วก็ ทำงานยาว(ใช้มอเตอร์ไซต์)ตั้งเเต่6โมงถึง4ทุ่ม ไม่ได้พักเลยทั้งคู่ พอได้นั่งสักพักจะหาไรกินมื้อเย็น เขาบอกเขาไม่หิวให้เราซื้อของตัวเอง เราเลยบอกกินหน่อยเติมพลัง เขาก้บอกเราเเซนวิชกับนม โอเคตังพอ เราคิดเเค่นี้เลยเพราะเราก็กดมาไม่เยอะเเล้วเซเว่นมันโอนไม่ได้ พอไปๆมาๆเขาเดินไปตรงที่มีขนม เขาบอกเอาขนมนี่กับนี่2อย่างไปให้เพื่อน เราก้ไม่พูดอะไร เเต่พอผ่านตรงขนมปัง เขาบอกเขาจะเอาขนมปังเพื่อไปกินที่ทำงาน เเต่เราเลยค้านว่า ตังจะพอมั้ย คือเราก็ไม่อยากยืมเขาเพราะเขาไม่เคยเอาเงินจากเราคืนเลย ในความคิดเราเราก็เเค่อยากให้เขาได้กินอยากซื้อให้เขา มันเป็นความคิดที่ว่า ถ้าเขาไม่ซื้อให้เพื่อนเขาก็ใีกินวันพรุ่งนี้เเล้วเเบบนี้ คือเราผิดมากเลยใช่มั้ยคะ คือมันไม่ใช่รอบเดียวที่เราจ่ายให้ละเขาก้หยิบให้เพื่อนเขา เเต่ครั้งนี้ที่เราออกอาการมันเพราะเราโมโหที่เราซื้อให้เขาได้ไม่หมดเพียงเพราะเขาเอาเงินที่ควรซื้อให้เขาเขากลับเอาให้เพื่อนเเบบนี้อ่ะค่ะ คือควรรู้สึกยังไงหรือเครียความคิดตัวเองยังไงดีคะ
เราเป็นคนขี้งกมากๆเราควรต้องจัดการกับความคิดเรายังไงดีคะ